การแข่งขันพรีเมียร์ลีกนัดที่ 15 ที่เกิดเหตุการณ์น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการถูกเขี่ยลงจากบัลลังก์จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกของเชลซี รวมไปถึงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่ทำผลงานได้อย่างประทับใจภายใต้การทำทีมของกุนซือใหม่ ราฟฟ์ รังนิค
เวสต์แฮม 3 : 2 เชลซี
ครึ่งแรกนาที 28 เชลซีได้ลูกเตะมุมทางขวาบอลเปิดโด่งมากลางประตูติอาโก้ ซิลวาขึ้นโขกบอลกระดอนพื้นเสียบเสาเข้าประตูให้ทีมเยือนขึ้นนำเป็น 1-0 อย่างไรก็ตามเวสต์แฮมนั้นนั้นก็ยังพยายามกดดันเชลซีเพื่อหวังตีเสมอ แล้วก็มาทำได้สำเร็จนาที 37 เชลซีจ่ายบอลกันพลาดในเกมรับเอดูอาร์ เมนดี้รับบอลคืนมาแล้วไม่เตะทิ้งในจังหวะแรก ทำให้จารอด โบเว่นวิ่งบีบเข้าเล่นบอลจนกลายเป็นเมนดี้ที่หวดขาโบเว่นล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินจึงเป็นเป่าเป็นลูกจุดโทษให้เจ้าบ้านและเป็นมานูเอล ลันซินี่ที่สังหารไม่พลาดสกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1 อย่างไรก็ตามก่อนจบครึ่งเเรกเชลซีก็แซงนำอีกครั้งเมื่อซิเย็คเปิดบอลข้ามฝากไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาเมสัน เมาส์เติมขึ้นมาหวดยิงแบบไม่จับเสียบมุมเข้าประตูเป็น 2-1 นาที 55 บอลยาวจากแนวรับเจ้าบ้าน มิคาอิล อันโตนิโอโหม่งตั้งบอลคืนหลังวลาดิเมียร์ ฟูคาลแตะบอลหนึ่งจังหวะทำให้แนวรับเชลซีกะจังหวะกันพลาดไปหมดก่อนที่จารอด โบเว่นจะวิ่งมาหวดด้วยซ้ายเสียบมุมเสาไกลไล่ตีเสมอเป็น 2-2 หลังจากนั้นขุนค้อนเหมือนได้ใจและมีโอกาสลุ้นเพิ่มนาที 74 อันโตนิโอใช้ความแข็งแกร่งเอาชนะโอดอยได้ที่สุดเส้นฝั่งขวาก่อนปาดเร็วไปที่เสาสองจารอด โบเว่นสอดมาจิ้มโล่งๆแต่โดนเหลี่ยมไม่ดีบอลจึงหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย ทว่าก่อนหมดเวลา 4 นาทีเวสต์แฮมก็มาพลิกแซงจนได้ เมื่ออาเธอร์ มาสซูอากูดึงจังหวะหลอกล่อที่ฝั่งซ้ายก่อนหาช่องเปิดบอลแฉลบรูเบน ลอฟตัส ชีคเสียบมุมเข้าเสาแรกเข้าไปอย่างงดงาม หมดเวลาการแข่งขันเวสต์แฮมจึงเฉือนชนะเชลซีไปอย่างสุดมันส์ 3-2
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 1 : 0 คริสตัลพาเลซ
นาทีที่ 2 ปีศาจแดงได้ทักทายก่อนเมื่ออเล็ก เตเลซได้ลองยิงจากนอกกรอบเขตโทษแต่บอลไม่เข้ากรอบ นาทีที่ 8 พาเลซได้ทักทายบ้างซาฮาร์ผ่านบอลจากทางซ้ายให้เบนเตเก้แตะคืนให้ซาฮาร์หาเหลี่ยมได้ปั่นแต่บอลก็ยังไปตรงตัวดาวิด เด เคอา นาที 25 จากการเปิดบอลโด่งในในเขตโทษทีมเยือนคริสเตียโน่ โรนัลโด้โหม่งบอลคืนให้บรูโน่ได้ตะบันไกลแต่บิเซนเต้ ไกวต้าก็ยังเซฟไว้ได้ ท้ายครึ่งแรกดีเอโก้ ดาโลต์แบ็คขวาแมนยูฯได้เติมสูงมาลากหนีผู้เล่นพาเลซก่อนยิงเน้นๆด้วยซ้ายแต่น่าเสียดายแต่บอลก็เฉี่ยวเสาไกลออกไป นาที 67 แมนยูฯได้ลูกฟรีคิ๊กริมเส้นฝั่งขวาอเล็ก เตเลซวิ่งมาปั่นบอลย้อยชนคานออกหลัง แล้วประตูแรกของเกมก็เกิดขึ้นในนาที 76 เมสัน กรีนวู๊ดได้บอลในกรอบเขตโทษฝั่งขวาก่อนไหลคืนหลังให้เฟร็ดบรรจงปั่นบอลเข้าไปซุกตาข่าย ครบ 90 นาทีปีศาจแดงจึงเป็นฝ่ายชนะไปด้วยสกอร์ 1-0
วัตฟอร์ด 1 : 3 แมนเชสเตอร์ซิตี้
เล่นมาได้ 3 นาทีทีมเยือนออกนำเมื่อฟิล โฟเด้นได้บอลที่ริมเส้นฝั่งขวาก่อนเปิดกลับไปหน้าประตูที่มีราฮีม สเตอริ่งขวิดโล่งๆเข้าไปเป็นประตู 1-0 ผ่านไปครึ่งชั่วโมงซิตี้ได้ลุ้นอีกครั้งแบร์นาโด้ ซิลวาไหลบอลให้กุยโดกันหลุดไปยิงติดเซฟผู้รักษาประตูเจ้าบ้าน ทว่าบอลก็ยังคงขลุกขลิกไม่ไปไหนไกลทำให้แบร์นาโด้ ซิลวาแตะบอลเข้ายิงซ้ำมุมแคบเข้าประตูไปเป็น 2-0 นาที 33 ซิตี้น่าได้ประตูเพิ่มเมื่อกองหลังวัตฟอร์ดทรูส-เอก็องขึ้นเบียดแย่งโหม่งกับกุยโดกันแต่กลายเป็นหาบอลไม่เจอทั้งคู่ แต่บอลเจ้ากรรมดันมาตกใส่เท้าฟิล โฟเด้นได้ม้วนตัวยิงบอลหลุดกรอบออกไป ครึ่งหลังนาที 61 สเตอริ่งพาบอลลากเข้าหาเขตโทษก่อนดึงจังหวะไหลต่อให้กุยโดกันเติมมายิงแต่บอลก็ยังคงไม่เข้ากรอบ แต่อีกนาทีเดียวสกอร์ไหลเป็น 3-0 เมื่อแบร์นาโด้ ซิลวารับบอลทางกราบขวาก่อนลากตัดเข้าในก่อนปั่นด้วยซ้ายเสียบสามเหลี่ยมเสาไกล นาที 74 วัตฟอร์ดไล่ตีไข่แตกได้สำเร็จตัวสำรองคูโช่ แอร์นันเดซหลุดไปยิงผ่านแอเดอร์สันชนเสาแต่บอลก็ยังเด้งมาเข้าเท้าแอร์นันเดซหวดซ้ำเข้าไปตุงตาข่ายเป็น 1-3 แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีประตูเพิ่ม ทำให้หมดเวลาการแข่งขันแมนเชสเตอร์ซิตี้เป็นฝ่ายเอาชนะวัตฟอร์ดไปด้วยสกอร์ดังกล่าว