The Goal Postเดอะโกลโพส : ผลการแข่งขันพรีเมียร์ลีก 2021/22 ประจำสัปดาห์ที่ 18
buaksib sport news
เคน

การแข่งขันพรีเมียร์ลีกเดินหน้าเข้าสู่เกมที่ 18 ซึ่งมีผลการแข่งขันที่น่าสนใจหลายคู่ เริ่มตั้งแต่อาร์เซนอลที่เก็บแต้มได้ต่อเนื่องจากฟอร์มอันร้อนแรงของกาเบรียล มาติเนลลี่ รวมไปถึงการดวลกันระหว่างกึ๋นของกุนซืออันโตนิโอ คอนเต้และเจอร์เกน คล็อปป์จนทำให้เกิดประตูที่ท็อตแนมฮอตสเปอร์ส สเตเดี้ยมถึง 4 เม็ดด้วยกัน

ลีดส์ยูไนเต็ด 1 : 4 อาร์เซนอล

นาที 15 ทีมเยือนออกนำเมื่อลากาแซตต์ไหลบอลไปถึงชาก้าในกรอบเขตโทษโดยมีกองหลังลีดส์เบียดชาก้าล้มคว่ำไปแม้ผู้ตัดสินจะไม่เป่าฟาวส์แต่ลากาแซตต์ก็ชิงจังหวะจิ้มบอลต่อให้มาติเนลลี่วิ่งเข้ามาปั่นบอลเน้นๆเสียบสามเหลี่ยมเป็น 1-0 นาที 27 สกอร์ไหลเป็น 2-0 ทีมปืนใหญ่ตัดบอลที่กลางสนามแล้วชาก้าก็แทงบอลเร็วให้มาติเนลลี่หลุดเข้าไปยิงสวนตัวเมอริเย่ร์เข้าประตูไป อาร์เซนอลทำอะไรก็ดูดีไปหมดนาที 41 จังหวะบุกเข้ามาในเขตโทษผู้เล่นลีดส์พยายามบังทางบอลลากาแซตต์แต่กลายเป็นเปิดทางให้ซาก้าเก็บบอลได้ก่อนยิงแฉลบผู้เล่นลีดส์เปลี่ยนทางเข้าประตูไปเป็น 3-0 ครึ่งหลังนาที 67 อาร์เซนอลเกือบได้เพิ่มจากจังหวะทำชิ่ง 1-2 ของซาก้ากับมาติเนลลี่ก่อนที่ซาก้าจะหลุดไปยิงหักข้อบอลไหลหลุดเสาไกลไปอย่างน่าหวาดเสียว นาที 72 ลีดส์มาได้จุดโทษเมื่อเบน ไวท์ไปเสียบโจ เกลฮาร์ดล้มคว่ำในเขตโทษ เปิดทางให้ราฟินญ่าสังหารจุดโทษตีไข่แตกให้ยูงทองไล่มาเป็น 1-3 อย่างไรก็ตามนาที 83 ทีมเยือนก็มายิงฝังปิดเกมได้อยู่ดีจากการหลุดไปตะบันของเอมิล สมิธ-โลว์ หมดเวลาการแข่งขันอาร์เซนอลจึงบุกไปชนะลีดส์ยูไนเต็ด 4-1

สเปอร์ส 2 : 2 ลิเวอร์พูล

เริ่มเกมเป็นหงส์แดงที่ได้ทักทายก่อนในนาทีแรกเมื่อเจมส์ มิลเนอร์ได้ลองส่องไกลบอลแฉลบกองหลังสเปอร์สแต่ก็ยังเข้าซองฮูโก้ โยริส นาทีที่ 10 เทรนด์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลได้ยิงไกลบ้างแต่ก็ติดเซฟฮูโก้ โยริสมือกาวเจ้าบ้าน อย่างไรก็ตามนาที 12 กลายเป็นสเปอร์สที่ได้ประตูก่อนเมื่อเอ็นดอมเบเล่แทงทะลุช่องให้แฮรี่ เคนหลุดไปยิงสุดปลายเท้าบอลไหลเข้าประตูไปเป็น 1-0 ซึ่งนี่กลายเป็นการกลับมาทำประตูได้อีกครั้งในรอบหกเกมของกัปตันทีมสเปอร์สอีกด้วย ลิเวอร์พูลพยายามบุกหนักเพื่อหวังยิงคืนแล้วก็มาทำได้สำเร็จในนาที 34 เมื่อเกมรับสเปอร์สสกัดบอลกันไม่พ้นอันตรายแอนดรูส์ โรเบิร์ตสันเติมสูงขึ้นมาเก็บบอลได้ก่อนลากไปเปิดกลับมาให้ดีโอโก้ โชต้าขวิดตุงตาข่ายเป็น 1-1 ครึ่งหลังไก่เดือยทองน่าได้ประตูแบบสุดๆนาที 55 จากลูกเตะมุมฝั่งซ้ายบอลเลยไปถึงแฮรี่ เคนที่เสาไกลแบบไร้ตัวประกบแต่เคนกลับโหม่งข้ามคาน นาที 68 ลิเวอร์พูลพลิกแซง 2-1 บอลเปิดจากฝั่งซ้ายซาล่าโหม่งไม่ถนัดแต่ฮูโก้ โยริสก็ปรี่เข้ามาปัดบอลทิ้งไปในทีแรกแต่มีมาเน่ที่เข้าเล่นบอลทำให้วิถีบอลไม่ไปไหนไกล เทรนด์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลจึงได้จังหวะเปิดข้ามไปเสาไกลให้แอนดรูส์ โรเบิร์ตสันก้มโหม่งจ่อๆเข้าประตูไป แต่อีก 4 นาทีต่อมาสกอร์ก็กลับมาเท่ากันอีกครั้งเมื่อแฮรี่ เคนชิงจังหวะจิ้มบอลเร็วจากกลางสนามหวังจะได้ซน-ฮึง-มินได้เล่นอลิสซง เบ็คเกอร์ผู้รักษาประตูลิเวอร์พูลปรี่ออกมาสกัดบอลแต่กะจังหวะพลาดกลายเป็นเตะบอลให้ซน-ฮึง-มินหลุดไปยิงง่ายๆเข้าประตู หลังเสียประตูไปทีมเยือนเริ่มหัวเสียแอนดรูส์ โรเบิร์ตสันไปเตะอีเมอร์สัน รอยัลกลายเป็นโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีฝ่ายใดยิงเพิ่มได้ จบเกมสเปอร์สจึงเสมอลิเวอร์พูลไปอย่างสุดมันส์ 2-2

นิวคาสเซิล 0 : 4 แมนเชสเตอร์ซิตี้

เกมเริ่มมาเพียง 4 นาทีทีมเยือนก็ได้ประตูออกนำบอลเปิดยาวไปสุดเส้นทางขวา เจา กานเซโล่สปีดขึ้นไปตวัดบอลกลับเข้ากลางแบบเบาๆที่ไม่น่าอันตรายอะไร แต่กองหลังนิวคาสเซิลกะจังหวะโหม่งพลาดปล่อยให้รูเบน ดิอาซแหย่หัวโหม่งบอลเข้าประตูไปเป็น 1-0 นาที 11 เจ้าบ้านได้ลุ้นตีเสมอเมื่อริยาร์ด มาเรซโหม่งสกัดบอลหน้าประตูไม่พ้นอันตรายโจเอลลิงตันเก็บบอลได้ก่อนตวัดยิงแต่บอลก็หลุดเสาซ้ายมือออกไป นาที 26 เจา กานเซโล่ลากบอลหลบผู้เล่นนิวคาสเซิลก่อนหวดยิงไกลเต็มแรงบอลพุ่งเสียบตาข่ายเป็น 2-0 ครึ่งหลังนาที 51 ซิตี้เกือบได้ประตูที่สามจากการโหม่งเผาขนของกาเบรียล เชซุสแต่มาร์ติน ดูบรัฟก้าผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นยังช่วยเซฟไว้ได้ อย่างไรก็ตามนาที 63 เควิน เด บรอยด์ก็ตักบอลลึกไปหน้าประตูให้มาเรซเติมมาตวัดยิงง่ายเข้าประตูไปเป็น 3-0 นาที 85 กาเบรียล เชซุสใช้ความสามารถเฉพาะตัวลากบอลตัดเข้าในจากฝั่งซ้ายก่อนปาดบอลต่อไปเสาไกลให้ราฮีม สเตอริ่งสอดขึ้นมาแปง่ายๆเข้าไปเป็นประตูที่สี่ หมดเวลาการแข่งขันนิวคาสเซิลพ่ายค่าบ้านต่อแมนซิตี้ไป 0-4

buaksib sport newsbuaksib sport news