The Goal Postเดอะโกลโพส : รายงานผลการแข่งขันพรีเมียร์ลีกนัดที่23โดยโซอี้
buaksib sport news
มาร์กซิยาลพลาดได้ไง?

การแข่งขันพรีเมียร์ลีกในสัปดาห์ที่23 นั้นน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งศึกแดงเดือดที่แมนยูไนเต็ดจะบุกไปเยือนลิเวอร์พูลที่แอนด์ฟิล,เดิมหนีตายของนิวคาสเซิลที่ต้องเปิดบ้านรับเชลซี และไอ้ปืนใหญ่อาร์เซนอลที่หมายใจจะเอาชนะเชฟฟิลด์ยูไนเต็ด

ลิเวอร์พูล 1 : 0 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

เจอร์เกน คล็อปป์จัดผู้เล่นตัวหลักลงเต็มสูบ ซาล่า,มาเน่,ฟีร์มิโน่ แดนกลางให้โอกาสอเล็ก อ็อกเหล็ด-แชมเบอร์เลนออกสตาร์ท แนวรับฟาน ไดค์จับคู่กับโจ โกเมส ขณะที่แมนยูบุกมาเยือนด้วยสภาพทีมไม่ค่อยสู้ดี ไม่มีทั้งมาร์คัช แรชฟอร์ด และปอล ป็อกบา โซลาชาวางใจให้อองโตนี่ มาร์กซิยาลยืนค้ำในแดนหน้า และอันเดรส เปเรยร่าลงปั้นเกม ต้นเกมทีมเยือนได้เสียวก่อนเมื่อมาติชแทงทะลุช่องให้ดาเนี่ยล เจมส์หลุดเดี่ยวไปทางขวาก่อนปาดบอลเข้าหาหน้าปากประตูแต่ฟาน ไดค์ยังตามสกัดไว้ได้ ทว่านาที14ลิเวอร์พูลก็ได้ประตูออกนำ เมื่อเทรนด์ อาร์โนลเปิดเตะมุมมาให้เวอร์กิล ฟาน ไดค์เทคตัวขึ้นโขกที่เสาแรกเข้าประตูเป็น1-0 นาที24ฟีร์มิโน่ปั่นบอลเสียบเสาไกลเข้าประตูแต่ทว่าวีเอร์อาไม่ให้เป็นประตูเนื่องจากมองว่าซาดิโอ มาเน่ไปฟาวส์ใส่เด เคอาในจังหวะก่อนหน้า สิบนาทีต่อมาจอร์จินโญ่ ไวนัลดุมหลุดไปแปบอลเสียบเสาไกลแต่ผู้ตัดสินเป่าว่าเป็นลูกล้ำหน้า ครึ่งหลังนาที58แมนยูน่าจะตีเสมอได้เมื่อมาร์กซิยาลได้หวดระยะเผาขนแบบไร้ตัวประกบ แต่ดาวยิงเลือดน้ำหอมกลับยิงข้ามคานไปอย่างน่าเกลียด ท้ายเกมปีศาจแดงพยายามดันสูงเพื่อหวังตีเสมอแต่ก็กลายเป็นหายนะเมื่ออลิสซงนายด่านหงส์วางบอลสวนกลับเร็วไปให้ซาล่าหลุดไปยิงง่ายๆปิดกล่องให้ลิเวอร์พูลชนะแมนยูฯนิ่มๆ2-0

นิวคาสเซิล 1 : 0 เชลซี

สตีฟ บรู๊ซได้ตัวเจ็บกลับมาลงเล่นหลายคน มาร์ติน ดูบลัฟก้าจอมหนึบลงเฝ้าเสา เกมรับอัดแน่นถึง5ราย นำโดยจามาล ลาสเซล,คีแรน คลาร์ก และเฟรดเดริโก้ เฟอร์นันเดซ เเดนกลางให้จอร์โจ้ เชวล์วี่ลงคุมเกม แดนหน้าวางโจลิงตันล่าตาข่าย ขณะที่สิงห์บลูไม่มีคริสเตียน พูลิซิส จึงส่งคัลลั่ม ฮัดสัน โอดอยลงเล่นแทน แดนกลางวางสามประสานเอ็นโกโล่ กองเต้,จอร์จินโญ่ และเมสัน เม้าส์ คู่กองหลังเป็นอันเดรียส คริสเตียนเซ่น และอันโตนิโอ รูดิเกอร์ นาที13ทีมเยือนได้เสียวเมื่อเมสัน เม้าส์ลากบอลไปสุดเส้นฝั่งซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางแต่บอลก็เลยไปหมด นาที20บอลเปิดจากฝั่งขวาโจลิงตันได้เทกตัวโขกบอลชนคานอย่างน่าเสียดาย นาที32เชลซีได้เสียวอีกเมื่อแทมมี่ อับบราฮัมได้ยิงเผาขนแต่บอลชนคานเหมือนกัน ครึ่งหลังเชลซีบุกหนักมากและได้โอกาสยิงบ่อยครั้ง แต่ไม่ยิงหลุดกรอบเองก็ติดเซฟมาร์ติน ดูบลัฟก้า เกมทำท่าจะจบลงด้วยการเสมอกันอยู่แล้ว แต่ทว่าช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นิวคาสเซิลได้เตะมุมวิลเลี่ยนปีกเชลซีโหม่งสกัดบอลไปไม่ไกล แม็กซิแมงเก็บบอลได้ก่อนตัดสินใจเปิดไปลุ้นหน้าประตูไอแซค เฮเด้นเติมมาขวิดบางๆบอลไม่มีน้ำหนักแต่ทว่าเกป้านายด่านเชลซีกลับปัดบอลปลิ้นไหลเข้าประตูไปส่งผลให้จบเกมเชลซีบุกไปพ่ายนิวคาสเซิล0-1ทั้งทีมีโอกาสยิงประตูมาถึง18ครั้งตลอดทั้งเกม

อาร์เซนอล 1 : 1 เชฟฟิลด์ยูไนเต็ด

ไอ้ปืนใหญ่มีปัญหาหนักเมื่อดาวยิงตัวความหวังอย่าปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยองติดโทษแบน และเป็นกาเบียล มาร์ติเนลลี่ดาวยิงแซมบ้าลงสนามแทน เกมรับตัวเจ็บเพียบทำให้ชโคดาน มุสตาฟี่ยังถูกเข็นลงเล่นต่อแม้จะฟอร์มแย่ แดนกลาง ตอร์เรร่า,ชาก้า และโอซิลลงปั้นเกม ขณะที่ดาบคู่มีดีน แฮนเดอร์สันเฝ้าเสา แดนหน้าฝากความหวังไว้กับลี มุซเซต ต้นเกมอาร์เซนอลเกือบเสียประตูก่อนเมื่อเชฟฟิลด์ยูไนเต็ดบอลเปิดจากริมเส้นลี มุซเซตทะยานโขกโล่งๆแต่บอลข้ามคาน นาที13เจ้าบ้านได้ทักทายบ้างเปเป้หลุดเดี่ยวไปทางขวาก่อนเปิดย้อนไปเสาไกลมาร์ติเนลลี่วิ่งมากระดกยิงเร็วแต่บอลก็ไม่เข้ากรอบเหมือนกัน ทีมเยือนตั้งรับเหนียวแน่นไว้ตลอดครึ่งแรกแต่ทว่าก็มาเสียท่าในนาที44เมื่อบูยาโก้ ซาก้าแบ็คซ้ายปืนโตครอสบอลจากฝั่งซ้ายบอลแฉลบผู้เล่นเชฟฟิลด์เป็นใจมาเข้าทางมาร์ติเนลลี่เข้าชาร์จโล่งๆให้อาร์เซนอลขึ้นนำ1-0 ครึ่งหลังนาที57ดาบคู่เกือบตีเสมอได้จากลูกเตะมุมโอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ได้ขวิดเน้นๆบอลผ่านแบรนด์ เลโน่ไปแล้วแต่ยังดีที่ชาก้าสกัดทิ้งไปได้บนเส้นหน้าปากประตู อย่างไรก็ตามเกมรับของอาร์เซนอลก็ยังคงอ่อนยวบตามเคยเมื่อมาพลาดเสียประตูในนาทีที่82 บอลเปิดมาจากกราบขวาบิลลี่ ชาร์ปตัวสำรองโหม่งเช็ดไปเสาไกลให้จอห์น เฟร็ควิ่งมากดเต็มเท้าเสียบเสาไกลเป็น1-1 ทำให้จบเกมแบบแบ่งแต้มกันไป

buaksib sport newsbuaksib sport news