ไฮไลต์การแข่งขันพรีเมียร์ลีกสัปดาห์มีผลการแข่งขันที่น่าประหลาดใจกันหลายคู่ เตรียมใจกันไว้ให้ดีก็แล้วกัน
แมนเชสเตอร์ซิตี้ 1 : 1 ลิเวอร์พูล
กินกันไม่ลงจริงๆสำหรับคู่กัดยุคใหม่ โดยลิเวอร์พูลได้จุดโทษก่อนในนาที13 เมื่อไคล วอคเกอร์สะกิดมาเน่ล้มลงในเขตโทษ แล้วโม ซาล่าก็รับอาสาสังหารจุดโทษไม่พลาดให้แชมป์เก่าบุกมานำ1-0 เจ้าบ้านพยายามบุกคืนแล้วมาตีเสมอได้ในนาที31 จากทักษะอันเหลือล้ำของกาเบรียล เฆซุสที่แตะบอลหนีเทรนด์ อาร์โนลก่อนจิ้มบอลหนีมืออลิสซงอีกทอดตุงตาข่าย ก่อนจบครึ่งเรือใบพลาดโอกาสขึ้นนำเมื่อโจ โกเมสทำแฮนบอลกลายเป็นลูกจุดโทษของแมนซิตี้ แต่ทว่าเควิน เดอ บรอยด์กลับยิงหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ครึ่งหลังทั้งสองทีมต่างเล่นกันแบบระมัดระวังเป็นพิเศษจนทำให้ไม่มีสกอร์เพิ่มและจบเกมไปด้วยการเสมอกัน1-1
เอฟเวอร์ตัน 1 : 3 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ท็อฟฟี่ได้ประตูออกนำก่อนตั้งแต่นาที19 เมื่อเบอร์นาดแข้งเเซมบ้าซัดเรียดหน้ากรอบเขตโทษเสียบมุมเป็น1-0 แต่6นาทีต่อมาผีแดงก็ตามตีเสมอได้ เมื่อลุค ชอร์เติมสูงขึ้นมาเปิดโด่งให้บรูโน่ แฟนันเดซทะยายขวิดตุงตาข่ายเป็น1-1 ทีมเยือนพลิกแซงหลังผ่านไปครึ่งชั่วโมงเมื่อบรูโน่ แฟนันเดซเปิดบอลจากฝั่งซ้ายหมายใจให้แรชฟอร์ดทำประตู แม้ดาวยิงทีมชาติอังกฤษจะโหม่งไม่โดนแต่บอลก็ยังไหลผ่านเสียบตาข่ายเสาไกลเข้าไปเป็น2-1 ครึ่งหลังคาร์โล อันเชลอตติปรับแท็กติกให้เอฟเวอร์ตันหวังจะทวงประตูตีเสมอ แต่ก็ทำไม่ได้ซักที และมาโดนทีเด็ดของตัวสำรองผีอย่างเอดิสัน คาวานี่ก็ยิงตอกฝาโลงเข้าไปในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทำให้จบเกมแมนยูฯบุกมาเอาชนะเอฟเวอร์ตันได้ถึงกูดิสันปาร์ค 3-1
อาร์เซนอล 0 : 3 แอสตันวิลล่า
ปืนโตเสียประตูไปก่อนในนาที25 เมื่อแม็ตต์ ทาเก็ตเปิดบอลไปหน้ากรอบเขตโทษบูยาโก้ ซาก้าพยายามจะสกัดบอลทิ้งแต่ผิดเหลี่ยมกลายเป็นปลิ้นเข้าประตูตัวเองให้วิลล่านำก่อน1-0 ครึ่งหลังมิเกล อาร์เตต้าส่งนิโกล่า เปเป้ และเอ็ดดี้ เอ็นเคเทียร์ลงมาหวังเปลี่ยนเกม แต่ก็กลายเป็นมาเสียประตูเพิ่มในจังหวะสวนกลับของวิลล่า เมื่อรอส บัคลี่ย์เปิดบอลให้โอลี่ วัลกินส์ขวิดโล่งๆเป็น2-0ในนาที72 และอีก3นาทีต่อมาแจ๊ค กรีลิชก็ป้ายบอลต่อให้วัลกินส์คนเดิมกดเน้นๆผ่านมือเลโน่เข้าไปอีกเม็ด ครบ90นาทีทัพปืนใหญ่พ่ายคาบ้านต่อแอสตันวิลล่าไปอย่างน่าอาย0-3