ขอพาเพื่อนๆไปติดตามผลการแข่งขันพรีเมียร์ลีกนัดที่สาม ตามดูกันว่าอาร์เซนอลจะเก็บแต้มแรกของฤดูกาลได้หรือไม่เมื่อต้องบุกไปเยือนแมนซิตี้ในสถานการณ์หลังพิงฝา และตามลุ้นผลการแข่งขันระหว่างลิเวอร์พูลจะเก็บชัยชนะเกมที่สามติดต่อกันได้ต่อไม่เมื่อต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของเชลซี
แมนเชสเตอร์ซิตี้ 5 : 0 อาร์เซนอล
อาร์เซนอลแพ้มาสองเกมรวดแถมยังบุกมาเยือนแมนซิตี้ จึงทำให้พวกเค้าพยายามเล่นให้รัดกุมที่สุด แต่เล่นไปแค่7นาทีพวกเค้าก็เสียประตูไปก่อนเมื่อกาเบรีล เฆซุสได้บอลที่กราบขวาก่อนเปิดโด่งไปหน้าปากประตู แม้บอลจะดูไม่อันตรายอะไรแต่ทว่าคัลลั่ม แชมเบอร์ดันกะจังหวะโหม่งสกัดพลาดทำให้บอลตกใส่หัวอินคาย กุยโดกันโขกง่ายๆตุงตาข่ายเป็น1-0 อีก5นาทีถัดมาสกอร์ไหลเป็น2-0 เมื่อแบร์นาโด้ ซิลวาจ่ายบอลเข้าหาหน้าเขตโทษเซดริก ซัวเรสแบ็คขวาอาร์เซนอลสกัดบอลผิดเหลี่ยมไปเข้าทางปืนฟอร์รัน ตอเรสได้จิ้มโล่งๆเข้าประตูไป สกอร์ตามหลังไม่พอนาที35ทีมปืนใหญ่ยังมาเหลือผู้เล่นน้อยกว่าอีกต่างหากเมื่อกรานิต ชาก้าดันมาโดนใบแดงจากการพุ่งสกัดสองเท้าใส่เจา กานเซโล่ ก่อนหมดครึ่งแรกสองนาทีแจ็ค กรีลิชโชลีลาพาบอลไปทางซ้ายก่อนไหลต่อไปให้กาเบรีล เฆซุสได้ยิงง่ายๆเป็น3-0 ครึ่งหลังนาที53 โรดรี้ได้ตั้งป้อมยิงเล่นทางเสียบเสาขวามือเป็น4-0 และนาที85 ริยาร์ด มาเรซโยกหลอกทางกราบขวาก่อนเปิดโด่งไปให้ฟอร์รัน ตอเรสสอดมาขวิดเข้าประตูปิดกล่องให้แมนเชสเตอร์ซิตี้ไล่ถล่มอาร์เซนอลไปขาดลอย 5-0
ลิเวอร์พูล 1 : 1 เชลซี
นาทีที่21 เชลซีส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้ก่อนเมื่อไคล์ ฮาแวตซ์ขึ้นโขกลูกเตะมุมย้อนเข้าประตูไปเชลซีขึ้นนำ1-0 หลังจากนั้นทีมเยือนก็เล่นเน้นรัดกุมแล้วก็เกือบได้ประตูที่สองในนาที26 เมื่อฮาแวตซ์ได้จังหวะยิงอีกครั้งแต่ติดบล็อกเกมรับหงส์แดง อย่างไรก็ตามก่อนจบครึ่งแรกลิเวอร์พูลก็ตามตีเสมอได้สำเร็จจากลูกจุดโทษของโม ซาล่านอกจากนั้นรีส เจมส์ที่ใช้มือพยายามสกัดบอลจนเสียจุดโทษก็ยังได้รับใบแดงไล่ออกจากสนามไปอีกด้วย ครึ่งหลังเจ้าบ้านพยายามใช้ตัวผู้เล่นที่มากกว่าบุกใส่เพื่อหวังประตูที่สองแต่ก็ทำได้เสียว นาที57 จอร์แดน แฮนเดอร์สันกัปตันลิเวอร์พูลได้จังหวะลองปั้นเน้นๆหวังให้บอลมุดเข้าเสาไกลแต่บอลก็หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย นาที83 โควาซิสมิดฟิลด์เชลซีได้มีเน้นที่เสาแรกแต่ทว่าอลิสซง เบ็คเกอร์ก็ยังป้องกันไว้ได้ ทำให้หมดเวลาการแข่งขันลิเวอร์พูลเสมอเชลซีไป 1- 1
วูล์ฟแฮมตัน วันเดอร์เรอร์ 0 : 1 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
วูล์ฟทักทายก่อนตั้งแต่ต้นเกม นาทีที่2 อดาม่า ตราโอเร่ไหลบอลต่อไปถึงราอูล ฮิเมเนซได้ยิงเน้นในกรอบเขตโทษแต่ก็ยังติดเซฟของดาบิด เด เคอา อีกสองนาทีต่อมาวูล์ฟก็น่าจะได้ประตูแบบสุดๆเมื่อตรินเกาหลุดเดี่ยวไปดวลกับเด เคอา ก่อนยิงผ่านนายด่านสเปนไปแล้วแต่ทว่ายังไปติดการพุ่งเข้าสกัดดาบสองของอารอน วาน บิสซาก้าแบ็คขวาแมนยูฯ นาที38ผีแดงได้เสียวบ้างเมื่อป็อกบาวางบอลยาวให้บรูโน่ได้ยิงตุงตาข่ายไปแล้วแต่ทว่าผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน ครึ่งหลังนาที69วูล์ฟได้ลูกเตะมุมโรแม็ง ซาอิสส์เติมขึ้นมาโหม่งเน้นๆแต่บอลก็ยังติดเซฟเด เคอา เกมทำท่าจะจบแบบไม่มีประตูอยู่แล้วทว่านาที80 เมสัน กรีนวู๊ดก็ลากหนีผู้เล่นเจ้าบ้านก่อนยิงยัดไปที่หน้าประตูแม้โฮเซ่ ซาร์ผู้รักษาประตูหมาป่าจะเซฟไว้ได้แต่ด้วยความแรงทำให้บอลปลิ้นเข้าไปซุกตาข่ายให้แมนยูขึ้นนำ1-0 ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีใครทำประตูเพิ่มได้ หมดเวลาการแข่งขันแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจึงเป็นฝ่ายชนะไปด้วยสกอร์1-0