ขอพาเพื่อนๆไปผลการแข่งขันพรีเมียร์ลีกในสัปดาห์ที่ 36 เริ่มที่ศึกลอนดอนดาร์บี้ระหว่างเชลซีและอาร์เซนอล รวมไปถึงศึกแดงเดือดนัดรีเพลย์ว่าหงส์แดงจะยังรักษาเส้นทางลุ้นโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีกไว้ได้หรือไม่
เชลซี 0 : 1 อาร์เซนอล
นาที11 ไคล ฮาร์แวตซ์ฉกบอลจากกองหลังอาร์เซนอลไปได้อย่างสวยแต่ดันยิงข้ามคานในจังหวะสุดท้ายแบบเสียของ แล้วในนาที16อาร์เซนอลก็กลายเป็นฝ่ายขึ้นนำแบบมีดวงเมื่อจอร์จินโญ่ที่ครองบอลในแดนเชลซีกลับคืนบอลพลาดจนทำท่าจะไหลเข้าประตูตัวเอง แม้เกป้าจะปรีเข้ามาปัดทิ้งไว้ได้บนเส้นแต่โอบาเมยองก็ยังตามมาเก็บบอลได้ก่อนไหลคืนให้เอมิล สมิธ-โลร์ซ้ำนิ่มเป็น1-0 หลังจากนั้นเจ้าถิ่นก็บุกหนักหวังตีเสมอ นาที28 ไคล ฮาร์แวตซ์หาช่องจ่ายต่อให้เมสัน เม้าส์ได้สอดมายิงเป็นเน้นๆแต่ผู้รักษาประตูแบรนด์ เลโน่ก็เซฟไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ ครึ่งหลังนาที61เขลซีมีลุ้นอีกครั้งจากจังหวะเตะมุมไคล ฮาร์แวตซ์โขกชงต่อให้คริสเตียน พูลิซิชพักอกบอลเข้าประตูแต่ทว่าVARตัดสินเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน ช่วงทดเจ็บเชลซีน่าจะได้ประตูตีเสมอแบบสุดๆเมื่อเคิร์ท ซูม่าเติมาโหม่งเน้นๆแบรนด์ เลโน่ปัดบอลไปชนคาน โดยมีโอวิริเยร์ ชิรูด์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ แต่กองหน้าน้ำหอมกลับดีดบอลกลับไปชนคานซ้ำสองไปอย่างน่าเจ็บใจ ทำให้จบเกมอาร์เซนอลบุกมาชนะเชลซี1-0
เเมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 2 : 4 ลิเวอร์พูล
เริ่มเกมได้10นาทีผีแดงออกนำ1-0 เมื่ออารอน วาน บิสซาก้าไหลบอลคืนมาให้บรูโน่ แฟร์นันเดซยิงดีดไซด์ก้อยไปแฉลบแน็ท ฟิลลิปส์เปลี่ยนทางสุดปัญญาที่อลิสซงจะป้องกันได้ นาที34หงส์แดงมาตามตีเสมอได้จากจังหวะเตะมุมกองหลังแมนยูฯสกัดได้ไม่ขาด แน็ท ฟิลลิปส์กองหลังทีมเยือนครองบอลมาหามุมยิงบอลไม่ได้ดูอันตรายอะไรเลยแต่มันดันมีดิโอโก้ โชต้าคว่ำยิงเปลี่ยนทางเข้าประตูไปเป็น1-1 เกมครึ่งแรกทำท่าจะจบลงแบบเสมอกันอยู่แล้วแต่เทรนด์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลก็เปิดลูกตั้งเตะมาให้โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่สอดมาโชกเสาไกลเสียบมุมเป็น2-1ลิเวอร์พูลพลิกนำ เริ่มครึ่งหลังมาได้นาทีเดียวหงส์แดงก็มาบวกสกอร์ได้อีกเม็ด เทรนด์ -อาร์โนลตามมาเก็บบอลได้มุมเขตโทษฝั่งขวาก่อนเจ้าตัวยิงยัดตรงตัวดีน แฮนเดอร์สัน แต่นายด่านผู้ดีกลับพยายามจะรับเข้าซองทำให้บอลที่แรงกระดอนออกมาเข้าทางปืนฟีร์มิโน่ตามซ้ำนิ่มๆเป็น3-1 นาที67 คาวานี่ได้บอลที่หน้าปากประตูก่อนไหลต่อให้แรชฟอร์ดหลุดไปจิ้มบอลเล่นทางเสียบมุมเป็น2-3 นาที69ผีแดงน่าได้ประตูตีเสมอแบบสุดๆเมื่อบอลนัวเนียอยู่หน้ากรอบเขตโทษเมสัน กรีนวู๊ดหาเหลี่ยมซัดผ่านมืออลิสซงไปแล้ว แต่ทว่ายังมีแน็ท ฟิลลิปส์ที่ยืมคุมเส้นสกัดไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ ช่วงเวลาที่เเมนยูฯพยายามบุกหวังยิงประตูคืนกลายเป็นเข้าทางลิเวอร์พูล นาที89 โม ซาล่าหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงล่อเป้าเป็น4-2 หมดเวลาการแข่งขันเจอร์เกน คล็อปป์ปลดล็อคพาลิเวอร์พูลบุกมาเก็บชัยชนะเหนือแมนยูฯได้สำเร็จเป็นครั้งแรก4-2
นิวคาสเซิล 3 : 4 เเมนเชสเตอร์ซิตี้
นาที25สาลิกาดงนำก่อนจากจังหวะที่จอนโจ้ เชลวี่ย์เปิดเตะมุมมาให้เอมิล คราฟฟ์โขกตุงตาข่าย1-0 นาที39แมนซิตี้ตามตีเสมอได้สำเร็จ โรดรี้ได้บอลที่กราบซ้ายก่อนไหลคืนมาให้เจา กานเซโล่ซัดเสียบเสาไกลเป็น1-1 อีกสามนาที่ถัดมาทีมเยือนพลิกนำจากลูกฟรีคิ๊ก อินคาย กุยโดกันเปิดบอลมาให้ฟอร์ลัน ตอเรสดีดบอลกลับหลังเข้าประตูไปอย่างเหนือชั้นเป็น2-1 แต่นิวคาสเซิลก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆเช่นกัน ช่วงทดเวลาครึ่งแรก นาธาน อาเก้กองหลังซิตี้ไปเกี่ยวโจเอลลิงตันล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษ แล้วเป็นโจเอลลิงตันรับหน้าที่สังหารเองไม่พลาดเป็น2-2 ครึ่งหลังนาที62 นิวคาสเซิลพลิกนำอีกรอบเมื่อโจ วิลล็อคโดนทำฟาวส์ในเขตโทษ แล้วเป็นโจ วิลล็อคที่ขอยิงเอง แล้วถึงแม้เจ้าตัวจะยิงติดเซฟในทีแรกแต่ก็ยังตามซ้ำบอลสองเข้าไปได้สำเร็จเป็น3-2 ดีใจได้นาทีเดียวทีมเยือนก็มาตามตีเสมอได้เหมือนกันกาเบรียล เฆซุสลากบอลไปสุดเส้นฝั่งขวาก่อนปาดต่อมาให้ฟอร์ลัน ตอเรสยิงเข้าไปเป็น3-3 นาที66ทีมตราเรือใบก็ยิงประตูที่สี่ได้สำเร็จ เจา กานเซโล่ได้ยิงไกลอีกครั้งบอลชนเสามาเข้าทางปืนของฟอร์ลัน ตอเรสได้ยิงตามน้ำไม่เหลือซาก หมดเวลาการแข่งขันแมนเชสเตอร์ซิตี้จึงบุกมาชนะนิวคาสเซิลไปอย่างสุดมันส์4-3