ไฮไลต์การแข่งขันบอลถ้วยเอฟเอคัพรอบ4 โดยมีคู่ที่สนใจคือศึกแดงเดือดระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดvsลิเวอร์พูล รวมไปถึงแชมป์เก่าอาร์เซนอลที่จะบุกไปดวลกับเซาแธมป์ตัน
เซาแธมป์ตัน 1 : 0 อาร์เซนอล
ต้นเกมเจมส์ วอร์ด-เพราส์ลักไก่เปิดลูกเตะมุมหวังให้บอลมุมเสียบเสาแรกแต่บอลก็ยังชนคานไปอย่างน่าเสียดาย นาที15ทีมเยือนได้ทักทายบ้าง นิโกล่า เปเป้ได้เปิดลูกตั้งแต่ไปลุ้นเขตโทษ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ได้หลุดไปยิงแต่บอลก็ยังตรงตัวเฟรเซอร์ ฟอสเตอร์นายด่านนักบุญ อย่างไรก็ตามนาที25เซาแธมป์ตันก็มาได้ประตูออกนำ เมื่อเจ้าถิ่นได้ลูกฟรีคิ๊ก เจมส์ วอร์ด-เพราส์เปิดเข้าไปให้ไคล์ วอคเกอร์ ปีเตอร์สอดเข้ามาเล่นบอลที่หน้าเขตโทษ กาเบรียล มากัลเกญสที่ตามมาติดๆพยายามเข้าสกัดแต่ผิดเหลี่ยมการเป็นเข้าประตูตัวเอง ช่วงเวลาที่เหลือต่างมีเวลากันทั้งคู่ไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ ทำให้จบเกมเซาแธมป์ตันเอาชนะอาร์เซนอลไปได้ 1-0
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3 : 2 ลิเวอร์พูล
เริ่มเกมมาได้ 16 นาทีหงส์แดงขึ้นก่อนเมื่อฟีร์มิโน่ทำทางให้ซาล่าหลุดเข้าไปกระดกบอลผ่านนายด่านผีตุงตาข่าย แต่เพียง10 นาทีต่อมาแมนยูฯก็ตามตีเสมอได้ เมื่อแรชฟอร์ดเปิดบอลข้ามฝากมาให้เมสัน กรีดวู๊ดเติมมายิงด้วยขวาไหลเข้าเสาไกลให้สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1 ครึ่งหลังนาที 48 ผีแดงพลิกนำบ้างเมื่อเมสัน กรีดวู๊ดเปิดบอลยาวไปในแดนลิเวอร์พูล รีส วิลเลี่ยมส์กองหลังดาวรุ่งหงส์สกัดบอลพลาดกลายเป็นส่งให้แรชฟอร์ดหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงสวนอลิสซงตุงตาข่ายเป็น 2-1 นาที 58 ลิเวอร์พูลฮึดตีเสมอได้บ้างเมื่อเมื่อฟีร์มิโน่จ่ายบอลขวางไปหน้าเขตโทษ เจม มิลเลอร์วิ่งข้ามหลอกให้กองหลังแมนยูเสียจังหวะบอลเลยไปถึงโมฮัมเหม็ด ซาล่ายิงง่ายๆเข้าไป 2-2 ทว่าน่าที78ปีศาจแดงก็มาได้ประตูเพิ่มเมื่อบรูโน่ แฟนันเดซปั่นฟรีคิ๊กระยะหวังผลเสียบมุมเสาไกลเข้าไปอย่างงดงามกลายเป็นประตูชัยให้แมนูเฉือนชนะลิเวอร์พูลไปอย่างสุดมันส์ 3-2
เชลซี 1 : 0 บาร์นสลี่ย์
นาที11ทีมเยือนเกือบได้เฮเมื่อคัลลั่ม บริทเทนได้ชาร์จจ่อๆแต่บอลก็ยังติดเซฟเกป้า อารีซาลาบาก้านายด่านเชลซี นาที41 เชลซีเกือบได้เหมือนกันเมื่อคริสเตียน พูลิซิชได้เช้าชาร์จเหมือนกันแต่บอลไม่เข้ากรอบ ครึ่งหลังเชลซีเน้นครองเกมบุกใส่นาที57 คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอยได้หลุดไปยิงด้วยซ้ายแต่บอลก็ผ่านหน้าประตูออกไป อย่างไรก็ตามนาที64เชลซีก็ขึ้นนจนได้เมื่อรีส เจมส์หลุดเข้าไปเขตโทษก่อนตบเข้ากลางให้แทมมี่ อับบราฮัมปรี่เข้ายิงง่ายๆเป็น1-0 มาถึงนาที77 บาร์นสลี่ย์เกือบได้ประตูตีเสมอเมื่อมิคาเอล โซลล์เบาเออร์ตัวสำรองได้ยิงบอลวิถีตรงเข้ากรอบด้วยแตโชคที่แทมมี่ อับบราฮัมยังลงมาช่วยสกัดออกจากเส้นไว้ได้ ครบ90นาทีเชลซีจึงเฉือนหวิวไปเพียง1-0 ทะลุเข้าสู่รอบ16ทีมสุดท้ายต่อไป