มีคนได้สัมภาษณ์ผู้เล่น Topson แห่งทีม OG หลังจากที่เขาพ้นจากสถานการณ์ lockdown และกลับมาเล่น Dota 2 อีกครั้งในระดับมืออาชีพ
Topson ได้เล่าเกี่ยวกับประสบการณ์การเล่นในเซิฟ SEA และความคิดเห็นของเขาหลังจากจบงาน The International 2019
“ผมได้เล่นใน pub ของเซิฟเวอร์ SEA และมันก็… (หัวเราะ) ไม่ใช่ประสบการณ์ที่ดีเท่าไหร่นัก ทำให้ผมไม่ค่อยได้เล่นเกมเท่าไหร่มากนัก ในตอนแรกผมพยายามจะฆ่าเวลาด้วยการเล่น Dota 2 แต่ว่ามันก็ไม่ได้อย่างที่ใจคิด ทำให้ผมหยุดสตรีมเกมไปเกือบ 3 อาทิตย์ และหลังจากการ lockdown ถูกผ่อนลงและผมได้กลับมาเล่น Dota 2 ที่บ้านเกิดเพื่อแข่งขันอีกครั้ง ผมรู้สึกว่าผมตามคนอื่นไม่ทัน”
ส่วนสัมภาษณ์หลังจากจบงาน The International 2019
“ผมได้ถามตัวเองเกี่ยวกับคำถามนี้เหมือนกัน หลังจบงาน The International 2019 ผมได้ขอหยุดยาวไปช่วงเวลาหนึ่ง ทำให้ผมได้มีเวลานั่งคิดทบทวนอะไรหลาย ๆ อย่าง ผมเริ่มคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับการแขวนเมาส์ลาวงการ และผลที่จะตามมาหากผมทิ้งทุกอย่างในตอนนี้
แต่พอเวลาผ่านไป ผมก็ยังรู้สึกหลงรักในเกม Dota 2 อยู่ ผมชอบทดลองอะไรใหม่ ๆ ทดสอบวิธีการเล่นใหม่ ๆ และผมเป็นคนที่ชอบการแข่งขันอยู่แล้ว Dota 2 นั้นสามารถทำให้ผมไปแข่งขันในจุดที่สูงสุดได้ ผมเลยตัดสินใจเล่นต่อ
ผมคงจะลาวงการหากผมหมดไฟให้กับเกมนี้ หรือมีปัญหาทะเลาะกับเพื่อนร่วมทีมที่ไม่สามารถหาทางลงได้”
นอกจากนี้เขายังให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสมาชิกทีมใหม่และสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปในทีมด้วย
“ตอนนี้เรามีสมาชิกทีมใหม่หลายคน ทำให้การเล่นของเรานั้นค่อนข้างแตกต่างไปจากเดิม และปฏิสัมพันธ์ในขณะเล่นก็ต่างไปจากเดิมด้วย เช่น ถ้าเทียบกับ ana แล้ว Suma1L ค่อนข้างจะพูดกับเพื่อนร่วมทีมมากกว่าเยอะมาก เรียกได้ว่า ana แทบไม่พูดอะไรเลยระหว่างเล่น แต่ Suma1L เขาจะเสนอไอเดียใหม่ ๆ ที่น่าสนใจระหว่างเล่นเสมอ ในทางกลับกัน Saksa กลับไม่ค่อยพูดอะไรเลย ซึ่งตรงข้ามกับ JerAx ที่มักจะหาอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอในระหว่างการเล่นเป็นประจำ”
และเขาก็ทิ้งท้ายไว้ให้กับผู้เล่นหน้าใหม่ที่กำลังจะเข้าวงการ Dota 2
“ผมเป็นคนที่เสียสละทุกอย่างเพื่อมาถึงจุดนี้ (หัวเราะ) ผมต้องจากบ้าน ผมไม่ได้ออกไปเล่นกับเพื่อน ๆ ตามประสาวัยรุ่น ผมต้องนั่งจดจ่อกับมันตลอดเวลา และเมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว ก็ไม่ใช่ว่าผมจะสามารถผ่อนคลายได้ แต่กลับกัน ผมต้องจริงจังและให้เวลากับมันมากขึ้นอีก เพื่อให้ตัวเองพร้อมตลอดเวลา
ในเกมนี้ คนที่จะประสบความสำเร็จได้วัดกันที่เวลาการฝึกฝน หลาย ๆ คนที่ผมรู้จักต้องเล่นเกมนี้อย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวันเพื่อให้ตัวเองตามเมต้าทัน ผมรักเกม Dota 2 แต่ว่าพอจากสิ่งที่รักกลายเป็นงานประจำขึ้นมา มันทำให้เกมสูญเสียสเน่ห์บางส่วนไป
ถ้าคุณเหนื่อยล้า คุณก็สามารถพักผ่อนได้ แต่สำหรับผม ในขณะที่ลาพักนั้น ในหัวผมก็คิดกังวลว่า “ในขณะที่เรากำลังพักอยู่ คนอื่นกลับได้ซ้อม Dota 2 ตลอดเวลา” มันทำให้ผมรู้สึกกังวลและเพิ่มความตึงเครียดให้กับตัวเองเขาไป แต่พอผมเริ่มกลับมาเล่น Dota 2 อีกครั้ง วังวนที่ไม่รู้จบนี่ก็จะวนต่อไป
คิดอีกทีไม่รู้ว่าผมพลาดหรือเปล่าที่เขามาเป็นผู้เล่นมืออาชีพนี้ เพราะการเล่น Dota 2 8-10 ชั่วโมงต่อวันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย(หัวเราะ)”
Cr. Cyberclasher