“ช้างศึก” ทีมชาติไทย แยกทาง มาโน่ โพลกิ้ง พร้อมแต่งตั้ง มาซาทาดะ อิชิอิ คุมทัพอย่างเป็นทางการ
“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการ ทีมชาติไทย ประกาศอย่างเป็นทางการแยกทาง มาโน่ โพลกิ้ง จากหัวหน้าผู้ฝึกสอน หลังผลงานคัดฟุตบอลโลก 2 นัดแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยตั้ง มาซาทาดะ อิชิอิ ทำหน้าที่แทนทันที พร้อมยืนยันในฐานะผู้จัดการทีมทำงานภายใต้บทบาทหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่มาตลอด และไม่เคยแทรกแซงโค้ชในด้านเทคนิคฟุตบอล
“สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ที่เพิ่งผ่านไป 2 นัด ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกคนคาดหวังและตั้งความหวังไว้มากที่สุด เช่นเดียวกับแป้งและนักกีฬาทุกคน แต่ในเมื่อผลงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเฉพาะนัดแรกที่เราเปิดบ้านแพ้ จีน 1-2 ซึ่งเสียหาย และมีผลอย่างมากต่อโอกาสลุ้นเข้ารอบ 3 ในช่วง 4 เกมที่เหลือ แป้งจึงมีการแจ้งท่านนายกสมาคมฯ ให้รับทราบ และมีการพูดคุยกับโค้ชมาโน ซึ่งคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เพื่อให้ทีมชาติไทยมีความพร้อมมากขึ้นยามที่จะเจอทีมในระดับเอเชีย โดยก่อนที่เราจะแยกทางกันด้วยดี ในฐานะผู้จัดการทีม แป้งต้องขอบคุณโค้ชมาโน รวมถึงทีมงานสตาฟฟ์โค้ชที่ทุ่มเทและมุ่งมั่นในการทำหน้าที่ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่อย่างน้อยได้ทำให้คนไทยมีความสุข คือการพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์อาเซียน 2 สมัยติดต่อกัน”
“สำหรับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ เราได้มีการพิจารณาอย่างดีที่สุด ก่อนได้บทสรุปว่าเราจะแต่งตั้ง มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชชาวญี่ปุ่นพร้อมทีมงานสตาฟฟ์โค้ชส่วนตัวเ ข้ามาทำหน้าที่แทนทันที เพราะด้วยเงื่อนไขเวลาที่จำกัด ก่อนถึงเอเชียน คัพ รอบสุดท้ายที่กาตาร์ในเดือน มกราคม 2567 และคัดบอลโลกที่เหลืออีก 4 นัด เราต้องเลือกโค้ชที่รู้จัก คุ้นเคย และมีข้อมูลผู้เล่นทีมชาติไทยมากที่สุด รวมถึงโค้ชอิชิอิยังมีประสบการณ์ และผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ในระดับเจลีก ไทยลีก รวมถึงบนเวทีฟุตบอลระดับชิงแชมป์สโมสรโลกด้วย และที่สำคัญ ญี่ปุ่นยังเป็นประเทศต้นแบบในเชิงฟุตบอลของเอเชีย และอยู่ในอันดับท็อป 20 ของโลก ดังนั้น เชื่อว่าโค้ชอิชิอิ คือบุคคลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเราในตอนนี้ และแป้งพร้อมสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่”
“นอกจากนี้ แป้งยังขอเปิดใจในหน้าที่ผู้จัดการทีม แป้งรับหน้าที่นี้มาตั้งแต่ปี 2021 มีหน้าที่บริหารจัดการ อำนวยความสะดวกเรื่องอาหารการกิน ที่พัก การเดินทาง อุปกรณ์ต่าง ๆ ความเป็นอยู่ ทุกข์สุขของทุกคนในทีม ทั้งในและนอกสนาม ขวัญและกำลังใจของนักกีฬา รวมทั้งค่าตอบแทนพิเศษ หรือเงินอัดฉีด ซึ่งเป็นเงินส่วนตัวและเพื่อนฝูงที่มีใจรักฟุตบอล แป้งคิดว่าตนเองได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 16 ปี ตั้งแต่เป็นผู้จัดการฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย จนมาถึงปัจจุบันกับทีมฟุตบอลชาย แป้งมีความเข้าใจในบทบาทและหน้าที่ของผู้จัดการทีมดี ไม่เคยเข้าไปแทรกแซงการทำหน้าที่ของหัวหน้าผู้ฝึกสอนในด้านเทคนิคฟุตบอล ทั้งในการเลือกผู้เล่น แผนการเล่น การจัดตัวหรือการเปลี่ยนตัวระหว่างการแข่งขัน มีเพียงการยกหูเพื่อขอตัวนักเตะจากประธานสโมสรทุก ๆ ทีมทั้งในไทยลีกและต่างประเทศ ตามรายชื่อที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนต้องการเท่านั้น เพราะมีความจำเป็นให้ทีมชาติไทยได้นักกีฬาที่ดีที่สุดมา ซึ่งจะได้หรือไม่นั้น ก็ย่อมเป็นดุลพินิจของสโมสรอีกชั้นหนึ่ง”
“แป้งจึงขอความเห็นใจ และความเป็นธรรมในการทำหน้าที่ผู้จัดการทีม ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำอย่างเต็มที่มาโดยตลอดภายใต้ขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบของแป้ง แต่เมื่อใดที่ผลการแข่งขันไม่เป็นดังหวัง แป้งก็เสียใจไม่ต่างจากทุกคน และยินดีน้อมรับคำแนะนำต่าง ๆ ด้วยเหตุและผล ภายใต้ความหวังดีของทุกคน อันจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการทีม เพื่อนำไปพัฒนา ปรับปรุง เพื่อสร้างความสำเร็จให้แก่ทีมชาติไทย แป้งไม่สามารถหักห้ามความคิดใครได้ แต่ก็ยอมรับแบบตรงไปตรงมาว่าในบางคอมเมนต์ ย่อมสร้างความเสียใจ บั่นทอนความรู้สึกในการทำงานของทุกคนไปมาก ทั้งที่แป้งเองตั้งใจและทุ่มเทอย่างสุดความสามารถ และรักในการทำหน้าที่นี้อย่างแท้จริง ด้วยความหวังและความฝันที่อยากเห็นฟุตบอลไทยประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับทุกคน“ มาดามแป้ง ปิดท้าย