ฝ่ายพัฒนา ผู้ตัดสิน จัดพิธีปิดการอบรม FIFA MA MEN REFEREE COURSE ติวเข้มกติกาก่อนเปิด ไทยลีก
ฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสิน สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดพิธีปิดการอบรม FIFA MA MEN REFEREE COURSE ซึ่งเป็นคอร์สสำหรับการเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขัน ฟุตบอล รีโว่ ไทยลีก ฤดูกาล 2024/25 เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ณ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี การอบรมในครั้งนี้ใช้เวลา 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 7-10 กรกฎาคม 2567 ภายใต้การดูแลอย่างเข้มข้นของ วิทยากรจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) ประกอบด้วย ซุบคิดดิน บิน โมฮัมหมัด ซัลเลห์, วิดิยา ฮาบีบาห์ บินติ ชัมสุรี, อาหมัด คาลิดี้, โมฮัมหมัด โรซาลี บิน ยาคอบ
โดยมี ผู้ตัดสิน ที่สามารถทำหน้าที่ในรีโว่ ไทยลีก เข้าร่วมอบรม แบ่งเป็นผู้ตัดสิน 24 คน, ผู้ช่วยผู้ตัดสิน 31 คน และ ผู้ตัดสินหญิงอีก 6 คน รวมทั้งหมด 55 คน การอบรมได้เน้นเรื่องของการทบทวนความรู้ และทำความเข้าใจกับกฏกติกา Laws of the Games ที่จะใช้ในฤดูกาล 2024/25 ซึ่งมีกฎที่เปลี่ยนแปลง ดังนี้
1. กติกา Laws of the Games 2024/25 ที่มีการเปลี่ยนแปลง
#กติกาข้อ1 การใช้เทคโนโลยีที่เส้นประตู
– การขยายความเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เส้นประตู (Goal-line Technology) เพื่อแจ้งให้รู้ว่ามีการทำประตูได้ จากฤดูกาลที่ผ่านมาจะแจ้งไปที่เฉพาะนาฬิกาข้อมือ ให้เปลี่ยนเป็นแจ้งทั้งนาฬิกาข้อมือ และ ระบบเครื่องมือสารของวีเออาร์ด้วย (หูฟัง)
#กติกาข้อ3 เกี่ยวกับการเปลี่ยนตัวฉุกเฉิน
– การใช้การเปลี่ยนตัวฉุกเฉิน (Concussion substitutions) ยกตัวอย่างเช่นนักกีฬาได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ หรือ ความผิดปกติที่หัวใจ เมื่อผู้ตัดสิน ได้มีการประเมินร่วมกับแพทย์สนามแล้ว ทีมดังกล่าวจะได้สิทธิ์ในการเปลี่ยนตัวเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ และอีกทีมก็จะได้สิทธิ์อัตโนมัติเช่นกัน โดยไม่ต้องได้รับการบาดเจ็บ ซึงได้ระบุลงไปอย่างชัดเจน ในกติกา (ก่อนหน้านี้การจะนำกฎดังกล่าวฝ่ายจัดการแข่งขันจะต้องแจ้งเรื่องไปยังฟีฟ่า เนื่องจากอยู่ในการทดลองใช้) นั่นหมายความว่าในฤดูกาลนี้ หากจะนำกฎดังกล่าวมาใช้ ฝ่ายจัดการแข่งขันจะนำมาใช้ฝ่ายจัดการแข่งขันสามารถดำเนินการได้เลย
#กติกาข้อ 4 ปลอกแขนกัปตันทีม และสนับแข้ง
– นักกีฬาทุกคนต้องใส่สนับแข้งที่มีวัสดุและขนาดที่เหมะสม ซึ่งโดยกติกาคือสนับแข้งต้องอยู่ภายใต้ถุงเท้าเท่านั้น และผู้เล่นจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อขนาดและวัสดุของสนับแข้งด้วยตัวเอง
– ขยายความข้อบังคับของหัวหน้าทีม (Captain) ในการสวมใส่ปลอกแขน (Armband) รูปแบบ หรือ ลักษณะ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากฝ่ายจัดการแข่งขันเท่านั้น (เพื่อป้องกันประเด็นทางการเมืองและการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์)
– ทาง IFAB อนุญาตให้ ผู้รักษาประตูสามารถใส่กางเกงขายาว ลงทำการแข่งขันได้
#กติกาข้อ 12 การเจตนาเล่นลูกบอลด้วยมือ
– การขยายความเกี่ยวกับความผิดที่ไม่มีเจตนาใช้มือเล่นลูกบอล (non-deliberate handball) จากเดิมการทำผิดกติกา แฮนด์บอล จะปฏิบัติตามกฏ ถ้าเป็นในกรณี (Stop-Promising-Attack=SPA) จะเป็นการให้จุดโทษและใบเหลือง และในกรณีที่ ทำผิดกฎกติกา ในรูป (Deny and Obvious Goal Scoring Oppurtunity) จะเป็นการให้จุดโทษและใบแดง **แต่กติกาที่เปลี่ยนแปลงใหม่จะลดโทษในกรณีที่ผู้เล่นไม่มีเจตนาในการทำแฮนด์บอล (non-deliberate handball) โดยความตั้งใจของ IFAB คือเพื่อต้องการลดจำนวนใบเหลือง-ใบแดง จากการทำผิดในกรณีแฮนด์บอล
#กติกาข้อ 14 การเตะลูกโทษ (เพิ่มเติม)
– จากกติกาเดิม ลูกบอลทั้งใบจะต้องอยู่บนจุดโทษเท่านั้น แต่ในกติกาใหม่ ทาง IFAB อนุญาตให้วางบอลโดยมีส่วนใดส่วนหนึ่งของลูกฟุตบอลสัมผัสจุดโทษ (เหมือนกับการวางลูกฟุตบอลในขณะเตะลูกเตะมุม) โดยความตั้งใจของ IFAB คือลดข้อถกเถียงระหว่างนักกีฬากับผู้ตัดสิน
– การเข้าในกรอบเขตโทษ ของผู้เล่น (Encroachment) ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการยิงจุดโทษ จากที่ก่อนหน้านี้ จะพิจารณาทุกคนที่เข้ากรอบเขตโทษก่อน แต่ในกฏ กติกาใหม่ จะพิจารณาเฉพาะนักกีฬาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลที่เกิดขึ้น ยกตัวอย่าง กรณีที่การยิงจุดโทษ และติดเซฟหรือชนเสา ในกรณีที่ผู้เล่นฝ่ายรุกยิงซ้ำเข้าไป และเข้ามาในกรอบเขตโทษก่อน จะถูกตัดสินให้เป็น In-Direct Free kick กับ อีกฝ่ายทันที และถ้าหากในกรณีที่ ฝ่ายรับเข้ามาในกรอบเขตโทษก่อน และสกัดลูกบอลออกไป จะให้ ฝ่ายรุกได้ยิงจุดโทษใหม่อีกครั้งเป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีการ ทบทวนเหตุการณ์ จากคลิปวีดีโอต่างๆ ซึ่งเป็นกรณีศึกษาที่จะทำให้ผู้ตัดสินเกิดความเข้าใจและชำนาญถึงหลักการพิจารณาในจังหวะต่างๆ อาทิ การแย่งชิงบอล, การกระทำผิดทางยุทธวิธี, การเล่นลูกบอลด้วยมือ, จังหวะการล้ำหน้า, เหตุการณ์ในเขตโทษ, การบริหารจัดการเวลาในจังหวะต่างๆ และ ทบทวนการเรียกใช้ VAR รวมทั้ง การฝึกภาคสนาม เพื่อเรียนรู้ตำแหน่งและการเคลื่อนที่ ฝึกทักษะการอ่านเกมและคาดการณ์ล่วงหน้า การทำงานเป็นทีม
ก่อนปิดท้ายการอบรม ด้วยการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่ง ผู้ตัดสิน ผู้ช่วยผู้ตัดสิน จะต้องผ่านการทดสอบก่อนที่จะทำหน้าที่ตัดสินไทยลีก 1 ประกอบไปด้วย การสปรินท์ เทสต์, อินเตอร์วัล เทสต์, โคด้า เทสต์ โดยจากผู้เข้าร่วมอบรม ทั้งหมด 61 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บระหว่างการทดสอบ 7 คน จึงต้องเข้าทดสอบใหม่อีกครั้ง ก่อนที่ฤดูกาลแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนสิงหาคม 2567
ขณะเดียวกันหลังจากนี้ ทางฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสิน จะมีการอบรมผู้ตัดสินที่จะทำหน้าที่ในระดับ ไทยลีก 2 ระหว่างวันที่ 14-18 กรกฎาคม 2567 ณ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี และจัดอบรมผู้ตัดสินระดับไทยลีก 3 ภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 26-29 กรกฎาคม 2567 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จังหวัดพิษณุโลก เพื่อเตรียมพร้อมก่อนการแข่งขันฤดูกาล 2024/25 ต่อไป