ใครจะเป็นแชมป์กลุ่ม ใครจะเข้ารอบ ใครจะเป็นม้ามืดหรือทำผลงานได้น่าผิดหวัง นี่คือการคาดการณ์ของเรา
ผลการแบ่งสายรอบแบ่งกลุ่มมีดังนี้
กลุ่มเอ: บาเยิร์น มิวนิก-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด-เอฟซี โคเปนเฮเกน-กาลาตาซาราย
กลุ่มบี: เซบีญา-อาร์เซนอล-พีเอสวี ไอน์โฮเฟน-ลองส์
กลุ่มซี: นาโปลี-เรอัล มาดริด-บรากา-อูนิโอน เบอร์ลิน
กลุ่มดี: เบนฟิกา-อินเตอร์ มิลาน-ซัลซ์บวร์ก-เรอัล โซเซียดัด
กลุ่มอี: เฟเยนูร์ด-แอตเลติโก มาดริด-ลาซิโอ-เซลติก
กลุ่มเอฟ: ปารีส แซงต์ แชร์กแมง-โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์-เอซี มิลาน-นิวคาสเซิล
กลุ่มจี: แมนฯ ซิตี้-ไลป์ซิก-เวอร์เวนา ซเวซดา-ยัง บอยส์
กลุ่มเอช: บาร์เซโลนา-เอฟซี ปอร์โต-ชัคตาร์ โดเนตส์ค-รอยัล อันท์เวิร์ป
กลุ่มเอ: บาเยิร์น มิวนิก-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด-เอฟซี โคเปนเฮเกน-กาลาตาซาราย
วิเคราะห์ – หากดูจากหน้าเสื่อแล้ว หากพูดแบบตรงไปตรงมา บาเยิร์น มิวนิค และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะเป็นสองทีมที่ผ่านเข้ารอบ และมีโอกาสที่จะมองไปถึงแชมป์ โดย เสือใต้มีสถิติที่ดี พร้อมทั้งยังได้ตัวนักเตะ อย่างแฮร์รี เคน เข้ามาเป็นผู้นำในเกมรุก ส่วน เอริค เทน ฮาก แม้จะออกสตาร์ทในพรีเมียร์ลีกได้ไม่ดี แต่มองว่า กาลาตาซาราย และ โคเปนเฮเกน ก็ไม่ได้มศักยภาพมากมายเท่าไหร่
เชื่อว่า ทั้ง บาเยิร์น และ แมนฯยูไนเต็ด น่าจะสามารถผ่านเข้ารอบต่อไป แม้จะมีงานให้ต้องทำอีกมาก โดยเฉพาะ โธมัส ทูเคิล กับภารกิจในการปลุกเสือที่หลับไหลให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งในฟตุบอลรดับทวีป
ในขณะเดียวกัน กาลาตาซาราย น่าจะเป็นทีมที่จบอันดับ 3 ของกลุ่ม และสร้างความลำบากให้กับหลายทีมในยามมาเยือนที่ตุรเคีย โดยเฉพาะสองทีมใหญ่
กลุ่มบี: เซบีญา-อาร์เซนอล-พีเอสวี ไอน์โฮเฟน-ลองส์
วิเคราะห์ – หลังจากที่รอมานานหลายปีกับการกลับมาเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีก อาร์เซนอล ก็ได้อยู่ในกลุ่มที่เหมือนกับว่าพวกเขายังเล่นอยู่ในระดับ ยูโรป้า ลีก โดย พีเอสวี และ ลองส์ ต่างก็ทำผลงานในลีกตัวเองได้ยอดเยี่ยม แต่ก็ต้องเสียนักเตะตัวหลักไปมากมายในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา อยาาง ลองส์ ก็ต้องเสีย เชโก โฟฟานา และ โลอิส โอเพนด้า ส่วน พีเอสวี ก็ต้องเสีย ชาบี ซิมอนส์ และแม้จะมีตัวมาทดแทนแต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะทำได้ดีในเปี้ยนส์ลีก โดยที่ พีเอสวี พวกเขายังทำได้ดีพอ ในการเอาชนะ เรนเจอร์ส ในรอบเพลย์ออฟ
ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถลืมเซบีญา ได้ แต่พวกเขาก็ออกสตาร์ทในลาลีกาได้อย่างย่ำแย่ แม้ โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์ จะสามารถพาทีมรอดตกชั้น แต่พวกเขาคือเจ้าบอลถ้วย แต่หลายทีมต่างก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ อาร์เซนอล ที่ต้องการไปให้สุดทาง นี่เลยกลายเป็นเส้นทางที่สดใสสำหรับพวกเขา และก้าวไปเทียบชั้นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า
กลุ่มซี: นาโปลี-เรอัล มาดริด-บรากา-อูนิโอน เบอร์ลิน
วิเคราะห์ – เมื่อมองไปที่กลุ่มนี้กอ่นออกสตาร์ท และเดาแบบง่ายๆคือ เรอัล มาดริด และ นาโปลี น่าจะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วน บราก้า กับ อูนิโอน เบอร์ลิน น่าจะต้องไปแย่งชิงตั๋วไปยูโรป้าลีก อย่างไรก็ตาม ซัมเมอร์ที่ผ่านมา นาโปลี มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย แม้จะคว้าสคูเด็ตโต้ มาครอง แต่พวกเขาก็เสีย ลูเซียโน สปัลเล็ตติ และไปเอาตัว รูดี้ การ์เซีย อดีตเฮดโค้ช อัล นาสเซอร์ มาคุมทีม นอจกากนี้ยังเสีย คิม มิน แจ ให้กับบาเยิร์น มิวนิค แต่ยังเก็บตัวรุกอย่าง วิคเตอร์ โอซิมเฮน และ ควิชา ควารัตสเคเลีย ไว้ได้
เรอัล มาดริด น่าจะสามารถคว้าแชมป์กลุ่มตามมาด้วย นาโปลี ส่วน บราก้า กับ อูนิโอน เบอร์ลิน ก็มีศักยภาพที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และไม่สามารถประมาทได้เช่นกัน
กลุ่มดี: เบนฟิกา-อินเตอร์ มิลาน-ซัลซ์บวร์ก-เรอัล โซเซียดัด
วิเคราะห์ – อินเตอร์ มิลาน และ เบนฟิก้า เคยเผชิญหน้ามาแล้วเมื่อฤดูกาลก่อน และเป็นอินเตอร์ ที่ชนะ และผ่านเข้ารอบแปดทีมสุดท้าย ดว้ยการบุกไปชนะ 2-0 และเสมอในบ้าน 3-3 แต่ตอนนี้ทั้งสองทีมก็มีการเปลี่ยนแปลงไปมากมาย หลังจบสองเกมดังกล่าว
โดย อินเตอร์ ก็เสีย อันเดร โอนาน่า รวมถึง มาร์เซโล่ โบรโซวิช ไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ เช่นเดียวกับ โรเมลู ลูกากู และ เอดิน เชโก้ ไปอีกด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่ารองแชมป์เก่า น่าจะอาศัยประสบการณ์เข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่มตามมาด้วย เบนฟิก้า
ส่วน เรอัล โซเซียดาด กับ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก คงต้องไปแย่งชิงอันดับ 3 เพื่อไปต่อในยูโรป้า ลีก ซึ่งในกลุ่มนี้คาดว่าจะไม่มีเซอร์ไพรส์ เกิดขึ้น
กลุ่มอี: เฟเยนูร์ด-แอตเลติโก มาดริด-ลาซิโอ-เซลติก
วิเคราะห์ – กลุ่มนี้ ถือเป็นกลุ่มที่ผสมผสานได้อย่างน่าสนใจ หลังมีทีมอย่าง เฟเยนูร์ด-แอตเลติโก มาดริด-ลาซิโอ-เซลติก แน่นอนว่า หลายคนอาจจะไม่ค่อยสนใจกลุ่มนี้ สักเท่าไหร่ แต่ระดับของทั้งสี่สโมสร ต่างอยู่ใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม แอตเลติโก มาดิรด ยังคงเป็นตัวเต็งที่จะเป็นแชมป์กลุ่ม เหนือทีมจาก เนเธอร์แลนด์ และ อิตาลี
คาดว่า ทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ น่าจะดูแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มนี้ ส่วน เฟเยนูร์ด ก็ยังต้องพิสูจน์ตัวเองในเกมระดับทวีป ส่วน ลาซิโอ ของ เมาริซิโอ ซาร์รี ที่ผ่านมาก็ถูกประเมินค่าต่ำเกินไป ส่วน เซลติก ที่ได้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ก็เป็นทีมที่พร้อมสร้างเซอร์ไพรส์ และวางเป้าว่าอย่างน้อยต้องได้ไปยูโรป้า ลีก ทำให้กลุ่มนี้น่าจะดุเดือดในการทำอันดับ
กลุ่มเอฟ: ปารีส แซงต์ แชร์กแมง-โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์-เอซี มิลาน-นิวคาสเซิล
วิเคราะห์ – นี่คือกลุ่มแห่งความตายอย่างแท้จริงในฤดูกาลนี้ หลัง ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง ต้องมาอยู่ร่วมสายกับทีมอย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์-เอซี มิลาน-นิวคาสเซิล ซึ่งเหมือนเป็นอุปสรรคที่ทำให้ความสำเร็จอาจจะดูยิ่งใหญ่ขึ้น
แชมป์ลีกเอิง น่าจะเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่มด้วยขุมกำลังเงินล้านของพวกเขา ที่ดูดีกว่าเดิม หลังได้เพิ่มความสมดุลเข้าไป แต่ทีมจากอิตาลี และ พรีเมียร์ลีก ก็คงไม่ยอมให้พวกเขากินง่ายๆ โดยเฉพาะ นิวคาสเซิล ที่มีกลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบีย หนุนหลัง และน่าจะมีเบื้องหลังมากมาย กับการเจอกับ เศรษฐีจากกาตาร์ ที่มีอะไรเดิมพันมากมาย
อย่างไรก็ตาม แม้ดอร์ทมุนด์ จะไม่ได้อยู่ในช่วงที่ดีเท่าไหร่ในฤดูกาลนี้ แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะสร้างปัญหาให้กับหลายสโมสร แม้ เปแอสเช และ มิลาน อาจจะเป็นตัวเต็งในสายนี้ เพราะฟอร์มของนิวคาสเซิล ในช่วงออกสตาร์ท อาจจะยังไม่ดี และนี่น่าจะเป็นบทเรียนชั้นดีของ นิวคาสเซิล ของ เอ็ดดี้ ฮาว สำหรับการมาเล่นในรายการนี้ครั้งแรก แต่ก็น่าจะจบอันดับ 3 ของกลุ่ม
กลุ่มจี: แมนฯ ซิตี้-ไลป์ซิก-เวอร์เวนา ซเวซดา-ยัง บอยส์
วิเคราะห์ – กลุ่มใดก็ตามที่มีทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในสายตัดไปได้เลยว่าจะมีทีมอื่นเบียดเป็นแชมป์กลุ่ม แต่ แอร์เบ ไลป์ซิก ก็ไม่สามารถตัดพวกเขาออกไปได้ เพราะพวกเขาเป็นทีมที่เจอกับ แมนซิตี้ ในแชมเปี้ยนส์ลีก มาบ่อยที่สุด และมีพัฒนาการของทีมมาอย่างต่อเนื่อง เพราะพวกเขาทำสิ่งง่ายๆ ให้เกิดคาดมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะการมีนักเตะอย่าง ดานี โอลโม่, ชาบี ซิมอนส์ และ โลอิส โอเพนด้า ที่พร้อมยิงประตู
อย่างไรก็ตามการเจอกับ แมนซิตี้ คือพวกเขาต้องหยุด เออร์ลิง เบราท์ ฮาลันด์ และ ฮูเลียน อัลวาเรซ ให้อยู่ แม้พวกเขาจะเป็นสองทีมที่น่าจะผ่านเข้ารอบ แต่การไปเยือน เซอร์เวนา ซเวซด้า ในเซอร์เบีย หากไมนิ่งพอก็อาจะเสร็จได้ และยังมี ยัง บอยส์ ที่ต้องการไปเล่นยูโรป้า ลีก เป็นอย่างน้อย
กลุ่มเอช: บาร์เซโลนา-เอฟซี ปอร์โต-ชัคตาร์ โดเนตส์ค-รอยัล อันท์เวิร์ป
วิเคราะห์ – กลุ่มนี้ เป็นกลุ่มของ บาร์เซโลนา และอาจจะชนะรวดเลยก็เป็นได้ โดยเฉพาะตอนนี้ทีมกำลังออกสตาร์ทได้ดี และมีความมั่นใจในเกมรุกอย่างมาก เชื่อว่าพวกเขาคงติดปีกมากกว่านี้ หากมีเงิน
แม้ปอร์โต้ จะมีกองหน้าตัวโหดอย่าง เมห์ดี้ ทาเรมี แต่พวกเขาคงมีลุ้นได้แค่เป็นรองแชมป์กลุ่ม ขณะที่ ชัคตาห์ โดเนสต์ และ รอยัล อันท์เวิร์ป น่าจะต้องไปแย่งอันดับ 3 เพื่อไปลุ้นลุยยูโรป้า ลีก ซึ่งทีมจากเบลเยียม จะขาดกองหลังตัวหลักอย่าง แซม ไวน์ส์ ที่พลาดลงทะเบียนลุยแชมเปี้ยนส์ลีก
แชมป์, รองแชมป์, ดาวซัลโว, ม้ามืด, นักเตะยอดเยี่ยม?
เบนเก้ – มันอาจะเป็นเรื่องยากในการป้องกันแชมป์ยุโรป ยิ่งโดยเฉพาะฤดูกาลที่ผ่านมา แมนซิตี้ ได้สามแชมป์ แต่ต้องยอมรับว่าเวลานี้ แมนซิตี้ ยังคงเป็นทีมที่ดีที่สุดในยุโรก และ ฮาลันด์ ที่มีชื่อขึ้นพาดหัวในทุกวัน แต่ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ปีนี้ มีแต่นักเตะระดับท็อป ทั้งเกมรุกและเกมรับ และสถิติที่แข็งแกร่งยามเล่นในบ้าน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ
แม่พวกเขาอาจจะเสีย อิลกาย กุนโดกันไป แต่ก็ได้มาเตโอ โควาซิช เข้ามาแทน และเพิ่มความนิ่งในแดนกลาง ด้วยคุณภาพทำให้พวกเขาเป็นตัวเต็งที่จะเป็นแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก และแม้การป้องกันแชมป์จะเป็นเรื่องยากแต่นี่คือทีมที่มีโอกาสมากที่สุด
บูธ – การเลือกทีมเต็งแชมป์ คงเลือกยากมาก แต่ทีมที่ถูกมองมากที่สุด ก็คือแชมป์เก่าๆ อย่างแมนซิตี้ เพราะในขณะที่ทีมอื่นๆ ยังคงมีจุดอ่อน แต่ แมนซิตี้ คือทีมที่ยากจะหยุดได้ ยกเว้นแต่ตัวเอง แม้คุณจะหยุด ฮาลันด์ ได้แต่ก็ยังมี ฮูเลียน อัลวาเรซ ที่กำลังยกระดับต่อเนื่อง นอกจากนี้ การได้ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล มาเสริมเกมรับก็ทำให้ทีมดูแข็งแกร่งมากขึ้น
แคตทรีย์ – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ใช่ทีมเดียวที่มีความน่ากลัวในฤดูกาลนี้ เรอัล มาดริด เองก็มีนักเตะอายุน้อยผสมผสานกับประสบการณ์โดยเฉพาะในแดนกลางและแนวรุก ที่มี ออเรเลียน ชูอาเมนี และ วินิซิอุส จูเนียร์ ที่เป็นตัวหลัก นอกจากนี้ยังได้ จูด เบลลิงแฮม ที่เริ่มต้นกับทีมใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม และอาจจะเป็นคีย์แมน พามาดริด คว้าแชมป์ยุโรป ในปีนี้
จอห์นสัน – ในตอนนี้เป็นเรื่องยากที่จะหาใครมาเบียด แมนซิตี้ ทั้งในลีก และบอลยุโรป พวกเขายังออกสตาร์ทได้อย่างน่ากลัว และมีโอกาสสูงมากที่จะป้องกันแชมป์ แม้จะเสียนักเตะไปหลายราย แต่ แมนซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ก็ยังดูน่ากลัว แม้ฮาลันด์ อาจจะโดนจับตายมากขึ้น แต่ยังเชื่อว่า แมนซิตี้ จะเข้ารอบได้ลึก และมีโอกาสที่จะได้เข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ได้อีกครั้งในปีนี้
ปอร์ซิโอ – หลังจากที่ปลดล็อคแชมป์ยุโรป สมัยแรก มันทำให้มีความรู้สึกว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา จะทำได้อีกในปีนี้ พวกเขาได้นักเตะมาเพิ่มและยังรักษาตัวหลักไว้ได้เกือยทั้งหมด ไม่มีเหตุผลที่จะต้องตัดพวกเขาจากการเป็นตัวเต็งแชมป์ และมีโอกาสที่จะคว้าแชมป์อีกครั้งที่ลอนดอน ในปีนี้