เนวิน ชิดชอบ บอสใหญ่ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงโตโยต้า ไทยลีก เปิดใจหลังโปรแกรมการแข่งขันถี่ยิบ พร้อมยืนยันใจบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดใจสู้เสมอ
“ไทยลีก นัดที่ 8 เป็นเกมแห่งศักดิ์ศรีของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 8 ปีที่ผ่านมา การพบกับชลบุรี เอฟซี ไม่ว่าจะเป็นเกมเหย้า หรือเกมเยือน ฟุตบอลลีก หรือฟุตบอลถ้วย ไม่มีเกมไหนง่าย มีแต่เกมที่ยาก กับเกมที่หนักเพราะทุกครั้งที่พบกัน มันคือเกมแห่งศักดิ์ศรี ที่มีศรัทธาของแฟนๆ เป็นเดิมพัน นอกเหนือจากชัยชนะที่ต้องการ และ 3 แต้มที่ต้องคว้ามาไว้ในมือให้ได้”
“ดังนั้น เกมกับชลบุรี เอฟซี ที่จะมาถึงวันที่ 31 มีนาคม นี้ จึงเป็นเกมที่เราต้องมีความมุ่งมั่น มีสมาธิตลอดเวลา และประมาทไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว เพราะเป้าหมายของเราคือการเก็บ 3 แต้มในบ้าน และยืนอยู่หัวตารางต่อไปจนจบฤดูกาล”
“สัปดาห์นี้ เป็นห้วงเวลาที่หนักมากสำหรับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อต้องเจอกับเกมหนักๆ ถึง 3 เกม ในเวลา 7 วัน จบเกมเยือนอุบล ยูเอ็มที 28 มี.ค. ที่ผ่านมา วันที่ 31 มี.ค. ต้องรับชลบุรี เอฟซี ต่อด้วย 3 เม.ย. เปิดบ้านรับ กวางโจว เอเวอร์แกรนด์ รายการเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก”
“ไม่ว่าจะหนักแค่ไหน แต่หัวใจเรายังสู้เสมอ และจะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อแฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทุกคน ที่ยืนเคียงข้างให้กำลังใจ สนับสนุนพวกเรา”
“ต้นฤดูกาลไทยลีก ปีนี้ มีปรากฎการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจให้เราได้เห็นทุกๆ สัปดาห์ เหมือนที่ผมเคยบอก ไทยลีกปีนี้ ไม่มีทีมใหญ่ทีมเล็ก 18 ทีมในไทยลีก มีศักดิ์ศรีเท่ากันทุกทีม มีแต่หัวใจที่ใหญ่ เล็ก ไม่เท่ากัน และมีแต่หัวใจที่จะต้องทำเพื่อแฟนๆ ที่ให้กำลังใจ จึงเกิดปรากฎการณ์หักปากกาเซียน ให้ได้เห็นทุกสัปดาห์ ยิ่งเป็นการส่งสัญญาณบอกกับตัวเราเองว่า ทุกนัดที่ลงสนาม ต้องจริงจังทุกนาที ประมาท หรือขาดสมาธิเมื่อไร อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ทันที”
“จบเกมกับชลบุรี เอฟซี วันที่ 31 มี.ค.นี้ การพบกับกวางโจว เอเวอร์แกรนด์ ในวันที่ 3 เม.ย. น่าจะเป็นเกมที่หนักที่สุด และมีความท้าทายมากที่สุดของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพราะเรายังมีเป้าหมายที่จะก้าวสู่รอบต่อไปในรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก และเรามั่นใจว่าเราจะทำได้ หากไม่โชคร้ายเกินไปนัก”
“4 แมตช์ที่ผ่านมา ในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก เราได้พิสูจน์ให้เห็นวงการฟุตบอลเอเชียเห็นแล้วว่าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สู้ได้กับทุกทีม แม้ว่าเราจะมีผู้เล่นที่มีประสบการณ์กับเกมระดับนี้น้อยที่สุด แม้ว่าเราจะมีเม็ดเงินสนับสนุนการทำทีมน้อยที่สุด แต่เราเชื่อว่าเรามีหัวใจ และความมุ่งมั่น ที่ไม่แพ้ทีมใดๆ ที่เข้ามาแข่งขันในรายการนี้”
“ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น และไม่ยอมแพ้ ทำให้เราก้าวมาสู่จุดที่มีความหวังจะได้ไปต่อ แบบหักปากกาเซียนหลายสำนักในเอเชีย และสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับฟุตบอลเอเชียอย่างน่าตื่นตาตื่นใจเช่นกัน”
“เกมกับกวางโจว เอเวอร์แกรนด์ วันที่ 3 เม.ย. นี้ แม้เราจะเป็นเจ้าบ้าน แม้เราจะได้เปรียบหลายๆ เรื่อง แต่การที่แฟนกวางโจว เอเวอร์แกรนด์ ตามมาเชียร์ทีมของเขามากถึง 1,500 คน ก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะทำให้ความได้เปรียบของเรา หายไป ด้วยเสียงเชียร์ของแฟนๆ ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลตามมาเชียร์ และแสดงให้เห็นว่าเกมนี้เป็นเกมที่เขาตั้งใจมาเก็บชัยชนะในบ้านเรา”
“โดยศักยภาพของทีม เรารู้ว่าเป็นรอง แต่โดยหัวใจของผู้เล่นทุกคน เราไม่เคยเป็นรองใคร และเกมนี้ จะเป็นอีกเกมที่เราจะแสดงให้เห็นว่า ฟุตบอล คือ ทีม และหัวใจนักสู้ จะนำมาซึ่งผลการแข่งขันที่เราต้องการ ที่รออยู่ ก็คือ แฟนๆ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่จะเอาหัวใจมาสู้ด้วยกัน เพื่อที่เราจะก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน”
