ธีรเทพ วิโนทัย กองหน้าวัย 33 ปี พูดถึงคู่ต่อสู้ของ “ช้างศึก” ในรายการเอเชียน คัพ 2019 พร้อมแสดงความมั่นใจว่าหากปรับเกมรุกให้เฉียบขาดขึ้นโอกาสผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์มีสูง
โดยทีมชาติไทย ถูกจับให้อยู่สายเอ ร่วมกับเจ้าภาพ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี, อินเดีย และ บาห์เรน ในการแข่งขันฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ 2019 ระหว่างวันที่ 5 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2562
ซึ่งทางด้านของ “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย ที่เคยเป็นหนึ่งในขุนพล “ช้างศึก” ลงแข่งขันฟุตบอลเอเชียน คัพ 2007 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับ มาเลเซีย เวียดนาม และ อินโดนีเซีย เมื่อ 12 ปีก่อน ได้กล่าวว่า
“การจับสลากเราอยู่สายเอ ร่วมกับ ยูเออี, บาห์เรน และ อินเดีย ถามว่าหนักไหม? ผมคิดว่าก็ไม่หนักมากสำหรับทีมชาติไทย การเจอ ยูเออี และ บาห์เรน แน่นอนว่าอาจจะเป็นงานที่ยากสำหรับเราหน่อย เพราะทีมจากตะวันออกกลางมีชั้นเชิงฟุตบอลที่ดีกว่าเรา อย่างยูเออี พวกเขาเป็นทีมชั้นนำของทวีปเอเชีย และมีอันดับฟีฟ่าแรงกิ้งสูงกว่าเรา”
“ส่วนบาห์เรน แม้พวกเขาจะไม่ได้อยู่ในช่วงที่ดีที่สุด แต่พวกเขาก็ไม่ได้แย่มาก ขณะที่อินเดีย ผมมองว่าศักยภาพของเราตอนนี้เราดีกว่าพวกเขา การแข่งขันครั้งนี้ผมมองว่าไทยไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่หนักมากเหมือนเมื่อ 12 ปีที่แล้ว เพราะตอนนั้นเราอยู่สายเดียวกับ ออสเตรเลีย, โอมาน และอิรัก ที่ก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์ในครั้งนั้น ผมคิดว่าด้วยศักยภาพนักเตะที่มีอยู่ หากเราเตรียมทีมและวางแผนให้ดี ผมคิดว่าเรามีโอกาสผ่านเข้าสู่รอบต่อไปสูง”
“ส่วนโค้ชราเยวัช นั้น ผมว่าเขามาทำให้ทีมไทยดีขึ้น โดยเฉพาะในเกมรับ เมื่อก่อนทีมชาติไทย เป็นทีมที่เสียประตูง่าย แต่หลังจากราเยวัช ได้เข้ามาทำงานที่ผ่านมาจะเห็นว่า เราพัฒนาเรื่องเกมรับได้ดีขึ้น เสียประตูยากขึ้น แต่สิ่งที่ต้องปรับก็คือเรื่องทำประตูที่ยังทำได้น้อยอยู่ แต่ว่านักเตะในเกมรุกของเราตอนนี้มีศักยภาพที่ดีขึ้นมาก และหลายคนมีประสบการณ์ในการออกไปเล่นต่างประเทศ ดังนั้นหากเราปรับเกมรุกให้ดีขึ้น ยิงมากขึ้น น่าจะเป็นกุญแจสำคัญในการพาทีมชาติไทย เก็บชัยชนะแต่ละเกมในการแข่งขันเอเชียน คัพ ครั้งนี้ครับ”
“ตอนนี้ผมมีโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงมากขึ้น ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น แม้จะทำประตูไม่ได้มากเหมือนเดิม แต่เราสามารถทำหน้าที่ตามที่โค้ชมอบหมายได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งเปิดทางให้เพื่อนขึ้นไปทำประตู หรือการดึงกองหลังให้เสียตำแหน่ง คือเราเน้นการทำงานเพื่อทีมมากขึ้น แต่กองหน้าต้องทำประตู ดังนั้นผมจะพยายามทำผลงานให้มีความสม่ำเสมอ รักษาตำแหน่งตัวจริงให้นานที่สุด และจะพยายามทำประตูให้มากขึ้นครับ”
“ถามว่าตอนนี้หวังกลับไปติดทีมชาติไทยอีกไหม ตอนนี้ไม่ได้หวังเหมือนในอดีตแล้ว เพราะด้วยปัจจัยต่างๆ อาทิ อายุที่มากขึ้น มันอาจจะเป็นเรื่องยากหน่อย เราแค่พยายายามทำหน้าที่ในสนามให้ดีที่สุด และรักษาสภาพร่างกายให้ดี เมื่อเขาเห็นความทุ่มเทของเรา และเรียกเราไปติดทีมชาติไทย ผมก็พร้อมกลับไปรับใช้ชาติเสมอ อย่างที่ผมบอกตลอดว่าผมรักและภูมิใจในการลงสนามให้ทีมชาติไทยครับ” หัวหอกวัย 33 ปี กล่าวปิดท้าย
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ 2019 จะแข่งขันที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 5 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งโปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทย มีดังนี้
วันที่ 6 มกราคม 2562 ไทย – อินเดีย ที่สนาม อัล นาห์ยาน สเตเดียม, กรุงอาบูดาบี
วันที่ 10 มกราคม 2562 บาห์เรน – ไทย ที่สนาม อัล มัคตูม สเตเดียม, นครดูไบ
วันที่ 14 มกราคม 2562 สหรัฐ อาหรับ เอมิเรตส์ – ไทย ที่สนาม ฮัซซา บิน ซายิด สเตเดียม, อัล ไอน์