ภายหลังจาก “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก อดีตเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยื่นเรื่องถึงการกีฬาแห่งประเทศไทย กรณีให้มีการตรวจสอบการทำงานบางอย่างของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ภายใต้การบริหารงานของ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ พร้อมมีการขู่หากยังเงียบจะมีการยื่นเรื่องไปถึง ปปช.
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2562 ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ การกีฬาแห่งประเทศไทย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ตั้งโต๊ะแถลงถึงการทำงานของกกท.ในกรณีข้อพิพาทระหว่าง พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก กับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ
ผู้ว่ากกท. กล่าวว่า “ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยไม่ได้นิ่งเฉยละเลยต่อเรื่องดังกล่าว วันนี้อยากจะมาชี้แจงให้ทุกคนได้เข้าใจการทำงานของกกท. ทางเราได้รับเรื่องร้องเรียนจากพล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2561 ซึ่งก็ได้ตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนแล้วว่ามีประเด็นอะไรบ้าง หลังจากนั้นในวันที่ 5 พ.ย.61 เราได้ทำหนังสือไปยังส.ฟุตบอลถึงการร้องเรียนดังกล่าว และเราก็ให้สิทธิส.ฟุตบอล กับ นายกฯ ชี้แจง เพราะเราต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายร้องเรียน และฝ่ายถูกร้องเรียน”
“หลังจากนั้น ส.ฟุตบอล ทำหนังสือชี้แจงเรื่องทั้งหมดตอบกลับมาให้เราในวันที่ 12 ธ.ค.61 และเราก็ได้มอบหมายให้คุณณัฐวุฒิ เรืองเวช รองผู้ว่ากกท. เป็นหัวหน้าคณะทำงานในการตรวจสอบพิจารณาเรื่องดังกล่าว ซึ่งเรื่องต่างๆที่ร้องเรียนไปมันไม่ใช่แค่หน่วยงานของกกท.อย่างเดียวที่ต้องรับผิดชอบ เพราะเรื่องอื่นอย่างเช่น ภาษี ก็ต้องให้หน่วยงานที่เขารับผิดชอบโดยตรงตรวจสอบให้ถี่ถ้วนเสียก่อน ซึ่งหลายๆเรื่องส่วนใหญ่เราพิจารณากันเสร็จสิ้นแล้วบางส่วน แต่ทั้งนี้ก็ยังคงมีเรื่องที่เรายังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณากันอยู่”
“และเมื่อวันที่ 3 ม.ค.62 เราก็ได้รับเอกสารร้องเรียนเพิ่มเติมจากทาง พล.ต.ท.พิสัณห์ ซึ่งมีทั้งเรื่องเก่าและเรื่องใหม่เพิ่มเติมด้วย ทางเรากำลังทำหนังสือไปยังส.ฟุตบอล ให้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมทั้งเรื่องเก่าและเรื่องใหม่ที่ท่านพิสัณห์ได้ร้องเรียนไป ย้ำว่าเราต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ใช่เพียงแค่กกท.ที่ต้องพิจารณาในเรื่องนี้ เพราะอย่างที่บอกไปมันมีเรื่องของหน่วยงานอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะฉะนั้นตอนนี้ยังลงลึกไม่ได้ว่าใครถูกหรือใครผิด เราต้องดำเนินการให้เท่าเทียมกันทั้ง 2 ฝ่าย ให้โอกาสทั้ง 2 ฝ่ายได้ชี้แจงอย่างถี่ถ้วน”
“สำหรับเรื่องการถอดถอนท่านพิสัณห์ ออกจากตำแหน่งเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นเรื่องที่เรากำชับให้ส.ฟุตบอล ยื่นเรื่องเข้ามาชี้แจงถึงกระบวนการการถอดถอนอีกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่ยังไม่ชัดเจน เพราะทางส.ฟุตบอลยังชี้แจงได้ถี่ถ้วนในครั้งแรก เราต้องตรวจสอบว่าการถอดถอนท่านพิสัณห์ออกจากตำแหน่งเลขาฯ นั้นชอบธรรมตามกฎข้อบังคับหรือไม่ เช่น การเชิญสภากรรมการเข้ามาประชุมจะต้องแจ้งต่อสมาชิกล่วงหน้า 7 วันหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่เป็นไปตามข้อกำหนด ท่านพิสัณห์ก็จะกลับไปเป็นเลขาฯ ส.ฟุตบอลเหมือนเดิม”
“ทั้งนี้ถ้าเราพิจารณาตรวจสอบว่า ส.ฟุตบอล มีความผิดตามที่ฝ่ายร้องเรียนยื่นเรื่องเข้ามาจริงๆ บทลงโทษหนักที่สุด คือยกเลิกคณะกรรมการชุดที่สั่งถอดถอนท่านพิสัณห์ ออกจากตำแหน่ง”
ด้าน “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก กล่าวหลังฟังคำชี้แจงของผู้ว่ากกท. ว่า “วันนี้คือสิ่งที่ผมอยากได้ คือคำชี้แจงของทางกกท. ก่อนหน้านี้ที่ผมยื่นหนังสือเข้ามาเตือนเมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา เพราะผมไม่ทราบความคืบหน้าอะไรเลย แต่คือตอนนี้ผมได้ทราบจากปากท่านผู้ว่าหมดแล้ว คือที่ยื่นเรื่องไปเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 3 ม.ค. คือผมก็ได้ยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมไปด้วยสมัยที่ผมยังเป็นเลขาสมาคมฯ อยู่”
“สิ่งที่ผู้ว่าแถลงก็ตรงกับใจผมที่อยากจะทราบ อยากให้กกท.ได้พิจารณาหลักฐานที่ผมส่งไป กับเอกสารที่ทางส.ฟุตบอล ยื่นมาชี้แจง ว่าตรงกันไหม ซึ่งถ้ามันไม่ตรงกันก็ต้องมาพิจารณากันว่าเอกสารไหนจริงหรือเท็จ ทางกกท.และคณะกรรมการพิจารณาก็ต้องมาชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานเอาเองว่าอันไหนน่าเชื่อถือกว่ากัน”
“หลังจากนี้ก็คงรอฟังผลการตัดสินครับ ผมยอมรับการตัดสินทุกอย่างอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการถอดถอนถ้าสรุปมาแล้วว่าไม่เป็นธรรมและผมได้กลับไปเป็นเลขาฯ อีกครั้ง ผมก็คงต้องกลับไปทำหน้าที่ตรงนั้นเหมือนเดิม หรือถ้าสุดท้ายการตรวจสอบมันถูกต้องและผลออกมา ส.ฟุตบอล ไม่มีความผิด ผมก็ต้องยอมรับครับ ผมเป็นข้าราชการมาก่อน ผมรู้กระบวนหมด ผมลูกผู้ชายพอที่จะยอมรับทุกเรื่อง”
ขอขอบคุณ : MGR SPORT