แมตต์ สมิธ ตั้งเป้า พา บีจี ปทุม ยูไนเต็ด รักษาฟอร์มที่ดีให้สม่ำเสมอ และยกระดับทีมให้มีลุ้นแชมป์ในทุกฤดูกาล
แมตต์ สมิธ ตั้งเป้า พา บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ให้มีความสม่ำเสมอ และยกระดับทีมต่อเนื่อง เพื่อประสบความสำเร็จให้ได้ในทุกๆปี
บีจี ตัดสินใจดึงตัว สมิธ กลับมาร่วมงานอีกครั้งในฐานะเฮดโค้ช เพื่อแทนที่ของ มาโกโตะ เทกุระโมริ
”ผมดีใจที่ได้กลับมา และอดใจรอที่จะเจอพวกคุณไม่ไหว เป็นความรู้สึกดีที่ได้กลับมาที่นี่ เป็นเวลานานที่ผมติดตามดูทีมอยู่ห่างๆ ผใขอบคุณสำหรับโอกาสที่ได้เข้ามาคุมทีมที่วิเศษที่นี่ ผมภูมิใจมากๆ กลับการมาทำงานกับทีมนี่้อีกครั้ง” สมิธ กล่าว
“เมื่อตอนผมย้ายร่วมทีมในปี 2014-2015 สโมสรเรามีการวางแผนระยะยาวไว้ พวกเขารู้ว่าอยากจะมายืนอยู่ที่จุดไหน เราประสบความสำเร็จมากมายด้วยกันตลอด 4 ปีที่ผมเล่นให้สโมสร ผมจากไป 3-4 ปี แต่ไม่แปลกใจเลยเมื่อผมกลับมาอีกครั้ง และได้เห็นสิ่งที่สโมสรสร้างขึ้น จากมุมมองของผมคงมีไม่กี่ที่บนโลกที่จะมีศูนย์ฝึกซ้อมเทียบชั้นกับที่นี่ได้ ซึ่งชัดเจนว่าความสำเร็จในสนาม เป็นผลมาจากความสำเร็จนอกสนามจ การเป็นผู้เล่นต่างชาติคนแรกที่ลงสนามมากกว่า 114 นัดให้สโมสร คือความสำเร็จที่ยอดเยี่ยม ตอนที่ผมย้ายมาร่วมทีมผมได้ยืนเรื่องราวของตำนานนักเตะมากมายที่เล่นครบ 114 เกม ซึ่งนั้นกลายเป็นอีกหนึ่งของหลายๆเป้าหมายที่ผมตั้งตาอยากทำให้สำเร็จที่เมืองไทย ผมอยากสร้างประวัติศาสตร์ไว้ที่เมืองไทย อีกทั้งผมยังเป็นกัปตันทีมชาวต่างชาติคนแรกของสโมสร นั่นถือเป็นสิ่งพิเศษที่ผมจะจดจำไว้ตลอดชีวิต”
“สมัยที่เป็นนักเตะบีจีพียู สิ่งที่ผมชื่นชอบที่สุดคือประสบการณ์ในวันแข่งขัน การได้อยู่ต่อหน้าแฟนบอลที่สนามแห่งนี้ เป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนที่ไหน ผมยังขนลุกอยู่เสมอๆ เมื่อนึกถึงเกมใหญ่ๆ ที่เคยลงเล่นที่นี่ เสียงร้องอันกึกก้องของแฟนบอล ผมยังจำได้ดีถึงเสียงสนับสนุนของกลุ่มแฟนๆ แม้กระทั่งคืนที่ผ่านมา ผมรู้สึกดีที่ได้พบหน้าพบตาแฟนบอลหลายๆคนที่คุ้นเคย หากให้เลือกโมเมนต์ใดโมนต์หนึ่งคงยาก แต่ผมขอยกการเดินทางตลอด 4 ปีด้วยกันของเรา จากจุดเริ่มต้นและพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงเพื่อนนักเตะที่ผมลงเล่นด้ยและโค้ชที่ผมลงเล่นให้ ทั้งหมดเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำของผม”
“หลังจากย้ายออกจาก บีจีพียู ผมมีโอกาสไปค้าแข้งที่ฮ่งกงเป็นเวลา 1 ซีซั่น ในช่วงยั้นปลายของเส้นทางนักเตะ ผมมีความสุขกับช่วงเวลาสั้นๆที่นั่น แม้จะเป็นเวลาเพียง 7-8 เดือน ผมกลับออสเตรเลียหลังแขวนสตั๊ด โดยใน 3 ปีที่ผ่านมา ผมดำรงตำแหน่งเฮดโค้ช และผู้อำนวยการฟุตบอลของบริสเบน ซิตี้ เอฟซี ผมเรียนรู้ประสบการณ์มากมายในเรื่องของการเป็นโค้ชทีมชุดใหญ่ และการบริหารสโมสรฟุตบอลได้สร้างและได้ช่วยพัฒนาสโมสร เป็นประสบการณ์อันล้ำค่าที่ผมได้รับ ซึ่งตอนนี้ทีมก็อยู่ในจุดที่ดีมากๆ เป็นประสบการณือันล้ำค่าที่ผมได้รับ ส่วนเมื่อเร็วๆมานี้ ผมได้กลับไปร่วมงานกับ บริสเบน โรว์ ทีมเก่าของผม จังหวะคือทุกอย่างในโลกของฟุตบอล”
“บีจีพียู ติดต่อผมมาเมื่อสัปดาห์ก่อนและมอบโอกาสให้กลับมาที่นี่ เป็นอะไรที่ผมปฎิเสธไม่ได้แน่นอน สัปดาห์ที่แล้ว บีจีพียู ติดต่อผมมาเกี่ยวกับตำแหน่งเฮดโค้ช ผมยังคงมีแพชชั้นต่อบีจีพียู ผมมีช่วงเวลาและความทรงจำที่ดีกับบีจีพียู และณ ตอนนีตผมกำลังผันตัวจากผู้เล่นมาเป็นเฮดโค้ช เพราะฉะนั้นนี่คืองานที่ผมหมายตาไว้ก่อน การกลับมาเป็นเฮดโค้ชจึงเป็นเรื่องที่ตัดสินใจได้ง่ายมาก”
“ผมคิดว่รความคาดหวังที่มีต่อ บีจีพียู ณ เวลานี้ เป้นเรื่องที่ถูกต้อง แฟนบอลคิดถูกที่คาดหวังให้เราไล่ล่าชมป์ในทุกๆซีซั่น สโฒสรแห่งนี้เติบโตึ้นมากในหลายมิติ เรามีมีทีมที่เต็มไปด้คุณภาพมากมายทั้งนักเตะไทยและนักเตะต่างชาติ จึงสมเหตุสมผลที่เราจำเป็นต้องตั้งเป้าหมายในการไล่ล่าแชมป์ และปีนี้ก็เช่นกัน ถ้ามองไปที่ตารางคะแนนตอนนี้ ตารางคะแนนไม่เคยโกหกเรา เรามีงานให้ต้องทำอีกเยอะ แต่ในแง่ดีคือเรายังมีเกมเหลืออีกหลายเกม เรามีเกมกลางสัปดาห์และเกมช่วงพักฤดูกาล รวมถึงเวลาวางแผนช่วงเลกสอง เพราะฉะนั้นผมหวังว่าเราจะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งในเลกที่สอง ผมยังไม่อยากมองตารางคะแนนวันนี้ แต่ผมขอดูตารางคะแนนอีกทีเมื่อจบฤดูกาล”
“คุณสมบัติที่ผมอยากนำมาสู่ทีมตั้งอยู่บนสองหลักการ นั่นคือแนวทางและปรัชญาการเล่นของผมเอง ผสมกับบางส่วนที่ผมเรียนรู้จากโค้ชเก่งๆ ที่เคยร่วมงานกันในฐานะนักเตะ ช่วงเวลาที่ผ่านมากับ บริสเบน ซิตี้ เอฟซีเป็นโอกาสที่ผมได้ทดลองอะไรหลายอย่าง ผมเชื่อว่าแฟนฟุตบอลไทย และ แฟนฟุตบอล บีจีพียู คงทราบดีถึงบุคลิคในสนามของผม ผมมีความดุดันและรักที่จะเล่นด้วยการครองบอล ผมชื่นชอบฟุตบอลเกมรุก ผมเชื่อมั่นในการควบคุมทุกๆ สถานการณ์ของเกม ผมมีรูปแบบการเล่น รวมถึงระบบที่ อยากให้แฟนบอลออกจากสนามด้วยความสนุก หลังจากนี้ก็ต้องมาดูว่าผู้เล่นจะเข้ากับระบบของผมได้เร็วขนาดไหน”
“เป้าหมายของผมคือการเป็นทีมที่เสมอต้นเสมอปลาย และมีลุ้นแชมป์ในทุกฤดูกาล ที่สำคัญกว่าคืออยากเห็นนักเตะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราต้องมีความกระหายในชัยชนะ นั่นคือเป้าหมายของผม และจะเกิดขึ้นได้ต้องเริ่มจากความกระหายในสนามฝึกซ้อมก่อน”