บุรีรัมย์ รับไปก่อน 30 ล้าน จากการที่จะลงเล่นถ้วย ACL Elie เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปแข่งขัน
สโมสรฟุตบอล “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” เป็นตัวแทนจากประเทศไทย ในการลงเล่นถ้วย ACL Elie และรอลุ้น แบงค็อกยูไนเต็ด อีกทีมที่จะไปเพลย์ออฟทีมจากจีน
สหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) ประกาศยอดเงินรางวัลของสโมสรที่เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอล ACL Elite ประจำฤดูกาล 2024/25 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ๆ
AFC ได้ทำการรีแบรนด์การแข่งขัน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยเปลี่ยนมาใช้ชื่อ ACL Elite และปรับรูปแบบการแข่งขันใหม่ จากเดิมรอบแรกจะแบ่งเป็นกลุ่ม ก็เปลี่ยนมาแข่งในระบบลีกแทน แบ่งเป็นโซนตะวันตกและตะวันออก ฝั่งละ 12 ทีม แข่ง 8 เกมเหย้า-เยือน กับคู่ต่อสู้ไม่ซ้ำหน้า โดย 8 อันดับแรกของแต่ละโซน จะได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบน็อคเอาท์
ส่วนเงินรางวัลนั้น AFC จ่ายเป็นรอบ ๆ ดังนี้
รอบลีก : 800,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (30 ล้านบาท)
รอบ 16 ทีม : 200,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (7.5 ล้านบาท)
รอบ 8 ทีม : 400,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (15 ล้านบาท)
รอบรองชนะเลิศ : 600,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (22 ล้านบาท)
รองแชมป์ : 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (150 ล้านบาท)
แชมป์ : 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (370 ล้านบาท)
เท่ากับว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ได้เข้ามาเล่นในรอบลีกในฐานะแชมป์ไทยลีก จะรับทรัพย์แน่ ๆ แล้ว 800,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (30 ล้านบาท) ซึ่งยังไม่รวมโบนัสจากผลการแข่งขันที่จะได้ หากชนะได้อีก 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (1.8 ล้านบาท), เสมอ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (370,000 บาท) และค่าเดินทางตอนเล่นเป็นทีมเยือน 45,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเกม (1.6 ล้านบาท)
เช่นเดียวกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด หากผ่านเข้ามาเล่นในรอบลีกได้ พวกเขาก็จะการันตีรายได้แน่ ๆ 30 ล้านบาท นอกจากนี้ บียู จะได้เงินอีก 30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (1.1 ล้านบาท) หากผ่านด่าน ซานตง ไท่ซาน ในรอบเพลย์ออฟได้ แต่ถ้าแพ้ก็จะตกลงมาเล่นในถ้วย ACL 2 กับ การท่าเรือ เอฟซี
เงินรางวัลของ ACL 2 มีดังนี้
รอบแรก : 300,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (11 ล้านบาท)
รอบ 16 ทีม : 80,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (3 ล้านบาท)
รอบ 8 ทีม : 160,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (6 ล้านบาท)
รอบรองชนะเลิศ 240,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (9 ล้านบาท)
รองแชมป์ : 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (36 ล้านบาท)
แชมป์ : 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (90 ล้านบาท)