วันที่ 18 เมษายน 2561 ณ ห้องประชุมชั้น 24 อาคารการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง ไทยลีก กับลีกชั้นนำของยุโรปอย่าง ลา ลีกา ขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างกันเป็นเวลา 2 ปี เพื่อส่งเสริมการพัฒนาด้านลูกหนัง
โดยพิธีการเซ็นสัญญาได้รับเกียรติจาก พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, มร. อิบัน คอดินา หัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ ลา ลีกา และ มร. มาเรีย ซัลเชโด้ รองหัวหน้าฝ่ายพันธกิจแห่งสถานทูตสเปนประจำประเทศไทย ซึ่งบันทึกความเข้าใจดังกล่าวยังได้เป็นการริเริ่มโครงสร้างการสื่อสารในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านจริยธรรมกีฬา, ฟุตบอลหญิง และการบริหารจัดการด้านกีฬาในแง่มุมที่หลากหลาย
สำหรับหนึ่งในประเด็นสำคัญของข้อตกลงก็คือทางด้านของ ลา ลีกา จะให้คำแนะนำแก่ ไทยลีก ในการสร้างศูนย์ฝึกกีฬาสำหรับเยาวชนและโครงการพัฒนาสำหรับนักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี, 19 ปี และ 21 ปี ที่จะได้ไปฝึกซ้อมยังประเทศสเปน
นอกจากนี้ ลา ลีกา จะยังมีการแนะแนวทางพัฒนาฟุตบอลหญิงในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นเดียวกับการสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับรายการแข่งขันและกลยุทธ์ด้านดิจิตัลเพื่อเพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับฟุตบอลลีกอาชีพของไทย ในการนี้ โครงการแลกเปลี่ยนจึงได้เกิดขึ้น รวมถึงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อให้สโมสรในไทยได้เข้าถึงวิธีการเชิงลึกของ ลา ลีกา อีกด้วย
และจากการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกัน ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายยังได้ร่วมมือกันต่อต้านการทุจริตผลการแข่งขัน และกิจกรรมต่างๆ อันทำให้เกมลูกหนังต่อเสื่อมเสีย ยิ่งไปกว่านั้น ไทยลีก ยังร่วมมือกับ ลา ลีกา ในการรณรงค์ปราบปรามเว็บไซต์ถ่ายทอดสดที่ผิดกฎหมายเช่นกัน
พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการลงนามในครั้งนี้ว่า “เราต้องยอมรับว่า ลาลีกา เป็นหนึ่งในลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก และมีผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกเล่นอยู่ในลีกนี้มากมาย นอกจากนี้ทีมชาติสเปนยังถือเป็นทีมระดับท็อปเทนของโลก ณ เวลานี้ด้วย”
ขณะที่ มร. อิบัน คอดินา กล่าวว่า “ลา ลีกา ได้เข้ามามีส่วนรับผิดชอบกับเกมลูกหนังทั่วโลกอย่างจริงจัง ซึ่งข้อตกลงกับไทยลีกฉบับนี้จะทำให้ ลา ลีกา ได้สนับสนุนในส่วนขององค์ประกอบหลักในการบริหารจัดการและการฝึกสอนฟุตบอล เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับประเทศที่หายใจเข้าออกเป็นกีฬาฟุตบอล เราเชื่อว่าการร่วมมือกันครั้งนี้จะทำให้ ลา ลีกา ได้ใกล้ชิดกับแฟนบอลยิ่งขึ้น และเราเองก็ตั้งตารอที่จะทำงานร่วมกับไทยลีก ในการที่จะทำให้เกมฟุตบอลแพร่หลายและเป็นไปอย่างเท่าเทียมมากขึ้นเช่นกัน”
ข้อมูลจาก Fair