ข่าวฟุตบอล ไทยลีกโค้ชโย่งชี้ การเรียนโค้ชช่วยให้ทัศนคติการคุมทีมมีมิติขึ้น
buaksib sport news
โค้ชโย่ง
วรวุธ ศรีมะฆะ

“โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ยืนยันขอทำหน้าที่คุมทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ให้ดีกว่าเดิม และเชื่อว่าการเรียนโปรไลเซนส์ จะช่วยให้ทัศนคติในการคุมทีมมีมิติเพิ่มขึ้น

สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้ประกาศแต่งตั้ง โค้ชโย่ง วรวุธ ศรีมะฆะ กลับมาคุมทีมช้างศึก U21 อีกคำรบ ซึ่ง “โค้ชโย่ง” ได้กล่าวถึงการเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีว่า “การมารับตำแหน่งครั้งนี้ ก็ต้องพยายามทำให้เต็มที่ที่สุด และอีกอย่างก็ต้องทำผลงานให้ดีกว่าครั้งที่ผ่านมาครับ”

“ส่วนกดดันหรือไม่นั้นผมคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาครับ เพราะเรามาอยู่ในตำแหน่งที่หลายคนอยากจะอยู่ มันก็ต้องกดดันแน่นอน ฟุตบอลมันมีข้อผิดพลาดอยู่แล้ว แต่อยู่ที่ว่า ถ้าเราเอาข้อผิดพลาดมาปรับปรุง มันน่าจะดีกว่าที่จะมัวแต่หาคนผิด”

“การวางแผนหลังจากนี้ เราก็จะพยายามเก็บตัวในช่วงฟีฟ่า เดย์ ทุกช่วง ปัญหาของทีมชุดนี้ก็คงไม่ต่างจากชุดที่แล้ว อาจจะไม่ใช่ตัวหลักของสโมสร อย่างตอนเอเชียน เกมส์ คนที่เป็นตัวหลักอาจจะไม่ถูกปล่อยมา เราก็อาจจะต้องใช้ผู้เล่นชุดที่สองหรือสามไปเล่นแทน”

“ความแตกต่างของชุดปัจจุบัน กับ ชุดที่ผ่านมา คือ ชุดที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่าพวกเขามีความเป็นนักสู้ เพราะเด็กไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีทุกตำแหน่ง แต่เขาสู้และผ่านมาได้ ชุดนี้ก็ถือเป็นชุดใหม่ และพวกเขาก็เคยประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์อาเซียน U19 มาครอง พวกเขาน่าจะมั่นใจหากกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง”

“หลังจากที่ไปเรียน โปรไลเซนส์เราก็ต้องพัฒนาตามแนวทางของวิทยา เลาหกุล เราก็ต้องพยายามปรับทัศนคติในการเล่นทีมชาติ ความรวดเร็ว แข็งแกร่ง ความมืออาชีพ และความรักชาติ ตรงนี้ต้องปลูกฝังในตัวเด็กทุกคน ทำให้การทำทีมมีมิติเพิ่มขึ้น”

“เด็กชุดนี้ ก็มีหลายคนที่ได้ข้ามรุ่นไปเล่นในช่วงที่ผ่านมา เขาก็น่าจะเห็นข้อผิดพลาดอะไรต่างๆ ที่เกิดขึ้น และต้องมองว่าจะแก้ไขอย่างไร”

“ส่วนเป้าหมาย ระยะสั้นก็คือเอเชียน เกมส์ คราวที่แล้วเราจบด้วยการเป็นอันดับ 4 เป้าหมายก็ต้องเท่าเดิมเป็นอย่างน้อย เรารู้ว่ามันเป็นงานที่ยาก เพราะในเอเชียน เกมส์ หลายประเทศอาจจะส่งชุด U21 เหมือนกับเรา แต่บางประเทศ เขาจัดชุดเต็มผู้เล่นรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี และบวกกับนักเตะที่อายุเกินอีกจำนวน 3 คน แต่เราต้องพยายามแสดงให้เห็นถึงวิธีการเล่นว่ามีพัฒนาการ เหมือนที่เราเคยวิจารณ์มา เราก็ต้องทำให้ดีกว่าเดิม”

“ระยะกลางผมก็อยากสร้างให้เด็กชุดนี้ไปโอลิมปิก คือหาตัวหลักได้ชัดเจนว่ามีใครบ้าง ส่วนระยะยาว เราต้องเข้าใกล้ให้ได้มากที่สุด คือการได้ไปรอบสุดท้ายของชิงแชมป์เอเชีย”

“ผมต้องยอมรับคำติชม ทุกอย่างๆ การจะแก้ไขได้ เราต้องลงมือทำ หากผมมัวแต่ตอบโตทุกคำวิจารณ์มันคงไม่มีประโยชน์ ซึ่งเราน้อมรับทุกคำวิจารณ์อยู่แล้ว เรามาในนามทีมชาติ ผมก็พยายามจะรับและพัฒนาให้ไปถึงจุดที่แฟนบอลทุกคนต้องการให้ได้ครับ”

ที่มาจาก Fair

 

buaksib sport newsbuaksib sport news