มีรายงานว่า ท็อดด์ โบห์ลี่ เจ้าของทีม เชลซี มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับ PIF หลังทยอยปล่อยนักเตะไปค้าแข้งในซาอุดิอาระเบีย
มีรายงานว่า ท็อดด์ โบห์ลี่ เจ้าของทีม เชลซี มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับ PIF หรือ กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณของซาอุดิอาระเบีย ที่ได้เข้าเทคโอเวอร์ 4 ทีมใหญ่ในลีก คือ อัล นาสเซอร์, อัล ฮิลาล, อัล อาลีห์ และ อัล อิตติฮัด โดยถือหุ้นทีมละ 75 เปอร์เซ็นต์
ในเวลานี้ลีกซาอุดิอาระเบียกำลังมีความคึกคักอย่างมาก หลังมีนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์หลายรายย้ายไป โดยเฉพาะจาก เชลซี ที่ปล่อย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ไป อัล ฮิลาล เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะปล่อยไปอีก 3 รายทั้ง เอดูอาร์ เมนดี้, คาลิดู คูลิบาลี่ และ ฮาคิม ซิเย็ค
โดย PIF เป็นหนึ่งในลูกค้าของบริษัท เคลียร์เลค แคปิตอล บริษัทจัดการสินทรัพย์ ที่ดูแลสินทรัพย์ของนักลงทุนมากกว่า 300 กลุ่มทั่วโลก และเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ เชลซี ซึ่ง PIF มีทรัพย์สินอยู่หลายพันล้านปอนด์ที่จัดการโดย เคลียร์เลค นั่นเอง
ซึ่งหลังจากที่ โบห์ลี และ เคลียร์เลค เข้ามาเทคโอเวอร์ เชลซี ก็ได้ใช้เงินในการเสริมทัพนักเตะไปมากกว่า 600 ล้านปอนด์ ทำให้เสี่ยงที่จะผิดกฎทางการเงินจนต้องโละนักเตะส่วนเกินออก หลายสื่อก็รายงานตรงกันว่า นักเตะเหล่านี้ได้รับข้อเสนอให้ย้ายไปเล่นในลีกซาอุฯ หลายคน
นอกจากนี้ เดอะ เทเลกราฟ รายงานว่า หลายสโมสรระดับท็อปของยุโรป เรียกร้องให้มีการสอบสวนกรณีที่ เชลซี กำลังระบายนักเตะไป ซาอุดิอาระเบีย เพื่อลีกเลี่ยงกฏการเงิน อีกทั้ง เคลียร์เลค ยังมีลูกค้าเป็น PIF ซึ่งอาจเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อนด้วย
แต่สโมสรยืนยันว่า ไม่มีกลุ่มทุนซาอุฯ เข้ามาเกี่ยวข้องในการซื้อสโมสร และไม่มีกรณีผลประโยชน์ทับซ้อนแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีรายงานว่า PIF ลงทุนกับ เคลียร์เลค ไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ และยังมีบริษัทอื่นๆ ที่คอยจัดการสินทรัพย์ให้อีก แต่ทั้งสองฝ่ายก็มีความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยม