“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ผ่านรอบรองชนะเลิศซูเปอร์โคปา เดอ เอสปันญ่า ไปได้ หลังเอาชนะ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 5-3 ที่อัล-อัลวาล ปาร์ค ในประเทศซาอุดิอาระเบีย
เกมนี้ คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือ เรอัล มาดริด ใช้ 3 ประสานแนวรุก นั่นก็คือ จูด เบลลิงแฮม, วินิซิอุส จูเนียร์ และ โรดริโก้ โกเอส
ส่วน ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือ แอตเลติโก มาดริด ตัดสินใจวางตัว อองตวน กรีซมันน์ ยืนเป็นกองหน้าคู่กับ อัลบาโร่ โมราต้า
นัดนี้ “ราชันชุดขาว” ได้ทั้ง 3 ประตูจาก อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ในนาทีที่ 20, แฟร์ล็องด์ เมนดี้ ในนาทีที่ 30 และ ดานี่ คาร์บาฆาล ในนาทีที่ 85 ส่วน “ตราหมี” ได้ทั้ง 3 ประตูจาก มาริโอ เอร์โมโซ่ ในนาทีที่ 7, อองตวน กรีซมันน์ ในนาทีที่ 37 และ เกป้า ผู้รักษาประตูฝั่งตรงข้ามทำเข้าประตูตัวเองในนาทีที่ 78
จบ 90 นาที เสมอ 3-3 จึงต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาทีเพื่อตามหาผู้ชนะ ปรากฎว่า เรอัล มาดริด ได้เพิ่มอีก 2 ลูกจาก สเตฟาน ซาวิช กองหลังฝั่งตรงข้ามทำเข้าประตูตัวเองในนาทีที่ 115 และ บราฮิม ดิอาซ ในช่าวงทดเจ็บไปแล้ว 2 นาที
ทำให้ เรอัล มาดริด ได้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเแป็นทีมแรกไปยืนรอพบผู้ชนะคู่ระหว่าง บาร์เซโลน่า กับ โอซาซูน่า ในคืนวันที่ 14 ม.ค.นี้กันต่อไป