ศึกฟุตซอลโลกที่โคลอมเบียคือเวทีที่เหล่าแข้งช้างศึกต่างก็ช่วยกันสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งสร้างสถิติผ่านเข้าไปเล่นรอบ16ทีมสุดท้ายด้วยการเก็บคะแนนได้ 6 แต้ม เป็นครั้งแรกรวมถึงผลงานโดยรวมของทีมชุดนี้ยังเหนือกว่าเพื่อนร่วมเอเชียที่ผ่านเข้าไปเล่นรอบน็อคเอ้าท์ด้วยเช่น
นอกจากนี้ยังมีการทำสถิติส่วนตัวของนักเตะ อย่างรายของ วิวัฒน์ ไทยเจริญ ที่ทำประตูแรกของตัวเองในฟุตซอลโลก ทั้งที่เพิ่งถูกเรียกตัวติด ลุยศึกเวิล์ดคัพที่โคลอมเบียเป็นครั้งแรกและ จิราวัฒน์ สรวิเชียน ที่ยิงทุกนัดในฟุตซอลโลกที่ 4 ประตู ทั้งนี้ไม่เว้นแต่นักเตะไทยคนแรกที่ สามารถทำแฮตทริกในฟุตซอลโลก และยิง 4 ประตูจากสองนัด แถมยิงประตูมากที่สุดของแข้งไทยในฟุตซอลโลก ที่ 7 ประตูนับแต่ปี 2012 อย่างเจ้าอาร์ม ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ขณะที่มี 5 เรื่องที่หลายคนยังไม่รู้เกี่ยวกับ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง
ที่ผ่านมาเราคงได้เห็นเจ้าอาร์มยิงบอลได้ดีทั้งเท้าซ้ายและขวา ที่จริงแล้วเขาเป็นคนถนัดเท้าขวา ปัจจุบันที่เล่นได้ทั้งซ้ายและขวาก็เพราะว่า ในอดีตย้อนไปเมื่อเขาอายุ 12 ปี ระหว่างเกมการแข่งขันที่เจ้าตัวกำลังโชว์ลวดลายอยู่บนพื้นสนาม ก็มีเสียงตะโกนเข้ามาว่า “ระวังเท้าขวาอย่างเดียว ปิดเอาไว้อย่างให้ได้ง้างยิงเด็ดขาด” นั่นคือจุดเริ่มต้นให้เจ้าอาร์มเกิดความคิดที่จะแก้คำถากถางพวกนั้น ด้วยการมุมานะฝึกซ้อมการเล่นด้วยเท้าที่ไม่ถนัดจนมีความชำนาญเท่ากันในที่สุด ซึ่งทุกวันนี้เขาจำไม่ได้แล้วว่า สถิติการยิงด้วยซ้ายหรือขวาทำประตูได้มากกว่ากัน
ในวัยเด็ก อาร์มเล่นทั้งฟุตซอลและฟุตบอล แต่ตอนนั้นดูเหมือนตัวเองจะเอาดีทางด้านสนามใหญ่มากว่า แต่มาพลิกผันเมื่อตอนอายุ15ปี หลังจบ ม.3 กำลังเตรียมตัวไปเป็นนักฟุตบอลช้างเผือกของโรงเรียน อัสสัมชัญกรุงเทพ แต่ดันโชคร้ายกระดูกเท้าแตกเสียก่อน จึงยกเลิกสัญญา เขาเลยกลับมาราชบุรีเหมือนเดิม ก่อนจะมาจริงจังด้านโต๊ะเล็กจนกลายเป็น ศุภวุฒิ ในทุกวันนี้
รางวัลที่เจ้าตัวภูมิใจที่สุดในชีวิต เขายกให้เป็นรางวัลนักฟุตซอลยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ปี 2013 รางวัลของ “เจ้าอาร์ม” เกิดจากที่ช่วยให้ต้นสังกัดของเขา คว้าแชมป์ฟุตซอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย และได้ตำแหน่งนักฟุตซอลยอดเยี่ยมในเกมชิงแชมป์สโมสรเอเชีย 2013 ที่เมืองนาโงย่า ประเทศญี่ปุ่น ได้เป็นครั้งแรกของสโมสร ส่วน ชลบุรี บลูเวฟ ได้รับรางวัลทีมยอดเยี่ยมแห่งปีเหนือคู่แข่งอย่าง เซนาเย กิติ ปาซานด์ (อิหร่าน) และ นาโงย่า โอเชียน (ญี่ปุ่น)
คู่หู ช้าง-อาร์ม เริ่มต้นจากความสัมพันธ์กว่า14ปี ตั้งแต่เขาอายุ 13 ขวบ จนบัดนี้ไปไหนไปกัน ทั้งเรียนที่เดียวกัน สโมสรเดียวกัน ติดทีมชาติพร้อมกัน รวมถึงเป็นคนราชบุรีเหมือนกันอีกด้วย ทั้งนี้เจ้าอาร์มยืนยันว่า ไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะมีปากเสียงกับกัปตันช้าง เพราะทั้งสองคนยึดหลักว่าจะไม่เถียงกัน หากอีกฝ่ายไม่ทำตาม ก้ปล่อยมันไปและไม่เอามาคิดอีก
สำหรับทีมชาติ คู่หูเจ้าอาร์ม กลับเป็น เจ้าต๊อบ เจษฎา ชุเดช ซึ่งเป็นรูมเมท นอนด้วยกันมาตลอด ก็เพราะว่าเล่นในตำแหน่งเดียวกัน ได้แชร์ความรู้กันได้ และที่สำคัญที่สุดที่เจ้าอาร์มบอกว่า “ต๊อบมันขยัน ผมขี้เกียจ มีอะไรก็ใช้มัน มันทำให้หมด ผมเลยชอบอยู่ห้องเดียวกับมัน”
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://goo.gl/T3t6YE
