เผยบทสัมภาษณ์ พ่อคนที่สองของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ มิดฟิลด์ทีมชาติไทย ของสโมสรคอนซาโดล ซัปโปโร ทีมในศึกเจลีก ประเทศญี่ปุ่น
คอลัมน์ “ถามตอบบอลไทย” โดย “แมน” โกสินทร์ อัตตโนรักษ์ ล่าสุดผมมีโอกาสพูดคุยกับ โจเซ่ อัลเวส บอร์จีส อดีตกุนซือชาวบราซิเลี่ยนของทีม บีอีซี เทโรศาสน ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่หัวหน้าศูนย์ฝึกอคาเดมี่ให้กับสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ต้องขอเท้าความสักเล็กน้อยก่อนว่า โจเซ่ คือคนที่ เจ ชนาธิป ให้การยอมรับนับถือเสมือนคุณพ่อคนที่สอง และคุณพ่อของเจ ยกให้โจเซ่เป็นหนึ่งในโค้ชที่รู้วิธีใช้งานเจได้ดีที่สุด คราวนี้ผมเลยตั้งคำถามในหลายๆ ประเด็นเกี่ยวกับ ชนาธิป ที่น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเจ้าตัวและคนอื่นๆ ไม่น้อยทีเดียว
ผม : สวัสดีครับโจเซ่ ผมอยากคุยเกี่ยวกับเรื่องของ เจ ชนาธิป เพื่อนำไปเขียนลงในคอลัมน์ “ถามตอบบอลไทย” พอจะมีเวลามั้ยครับ
โจเซ่ : ยินดีครับ
ผม : พี่จุ้ง ก้องภพ (พ่อของชนาธิป) เล่าให้ผมฟังว่า เจ นับถือคุณเหมือนเป็นพ่อคนที่สอง และยกย่องว่าคุณเป็นโค้ชที่รู้วิธีการใช้งานลูกชายของเขาได้ดีที่สุดคนหนึ่งเลย ช่วยขยายความให้หน่อยครับ
โจเซ่ : ก็ถือว่าผมประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่พอสมควรนะ (กับเทโร) เพราะผมรู้จักวิธีใช้งานนักเตะในสนาม ผมจะเลือกมองหาจุดเด่นของผู้เล่นแต่ละคน และให้พวกเขาใช้จุดเด่นนั้นเอามาใช้ผสมกับแนวความคิดของทีม คนเป็นโค้ชจะต้องรู้วิธีใช้งานนักเตะ และสร้างทีมขึ้นมาด้วยคุณภาพของผู้เล่นที่มี โค้ชไม่ควรผลักดันให้ผู้เล่นทำในสิ่งที่เขาต้องการ แต่ต้องเลือกสิ่งที่ลูกทีมของเขาสามารถทำได้
ผม : ได้ดูแมตช์ล่าสุดที่เจเล่นให้คอนซาโดเล่ ซัปโปโร มั้ยครับ คิดว่าฟอร์มของเขาเป็นไงบ้าง
โจเซ่ : ได้ดูครับ เขายังต้องใช้เวลาสักพักเพื่อปรับตัวเข้ากับสไตล์ฟุตบอลญี่ปุ่น ตอนอยู่ไทยเขาเล่นได้ง่ายเพราะที่นี่เข้าประกบตัวแย่งบอลกันช้า แต่ที่ญี่ปุ่นเขาเข้าประกบถึงตัวกันเร็วกว่ามาก แถมยังมาร์คตัวได้อย่างชาญฉลาดมากกว่าอีกด้วย ดังนั้นเจก็ยังคงจำเป็นต้องใช้เวลาในการปรับตัว แต่ผมก็แฮปปี้มากนะที่เห็นว่าเขาโชว์ศักยภาพออกมาได้ดี ต้องขอแสดงความยินดีกับเจด้วย
ผม : มองว่าพัฒนาการของเจเป็นยังไงบ้าง ในเรื่องสไตล์การเล่น, ทักษะ, เทคนิค, สภาพจิตใจ ทั้งในความสามารถส่วนตัวและความเป็นทีม
โจเซ่ : ก็ถือว่าเขาทำได้ดีทั้งสองแมตช์ในเจลีกเลยนะ และจะยิ่งดีไปกว่านี้อีกเมื่อเขาสามารถปรับตัวกับฟุตบอลญี่ปุ่นได้ ผมเชื่อว่าเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้เล่นชั้นนำของเจลีกได้เลยล่ะ
ผม : ลองสมมติว่าถ้าคุณเป็นโค้ชของซัปโปโร คิดว่าควรจะใช้งานเจยังไงถึงจะได้ประโยชน์สูงสุด
โจเซ่ : เจต้องเล่นเป็นศูนย์กลางของแนวรุกคอยบัญชาเกมอยู่หลังกองหน้าตัวเป้า 2 คน เพราะเจเก่งมากในการแอสซิสต์บอลให้เพื่อนทำประตู และก็คงเหมือนอย่างที่ผมเคยบอกเจแหละว่า เวลาที่มีบอลหากถึงคราวต้องดวลกับกองหลังแบบตัวต่อตัว ต้องกล้าเลี้ยงบอลไปข้างหน้าเพื่อพยายามทำลายแผงไลน์แบ็คของคู่ต่อสู้ให้ได้
ผม : คิดว่าในตอนนี้เจเก่งพอสำหรับเจลีกมั้ย และจะสามารถก้าวขึ้นไปสู่ระดับที่สูงกว่านี้ได้อีกหรือเปล่าครับ
โจเซ่ : สบายมาก เขาสามารถขึ้นไปอยู่ระดับท็อปได้เลย เพราะเขามีคุณภาพที่แม้แต่นักเตะญี่ปุ่นเองก็ไม่มี เขามีทั้งทักษะการเลี้ยงบอล, มีเทคนิคที่ยอดเยี่ยม และคล่องแคล่วยามที่ต้องเลี้ยงบอลหลบคู่แข่ง
ผม : ช่วงนี้ได้คุยกับเจบ้างมั้ย ถ้าแนะนำได้อยากจะบอกอะไรเจบ้าง
โจเซ่ : ก็ขอให้รักษาบุคลิกที่แข็งแกร่งในสนามแบบนี้ไว้ต่อไป เวลาอยู่นอกสนามก็จงเป็นคนที่ดูมีความสุขอยู่ตลอดเวลาอย่างที่เขาเป็นอยู่นั่นแหละครับ
ผม : ในเมืองไทยตอนนี้ คิดว่ามีใครที่สามารถย้ายไปเล่นในเจลีก หรือลีกอื่นๆในต่างประเทศได้อีกมั้ย
โจเซ่ : ธนบูรณ์มีความสามารถในระดับนานาชาติหากเขาได้เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ แต่มีโค้ชบางคนจับเขาไปยืนเซ็นเตอร์แบ็ค ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ผิดมากๆ ตอนนี้เขาบาดเจ็บอยู่ ผมก็หวังว่าเขาจะหายเจ็บกลับมาเล่นกองกลางได้เหมือนเดิม และบางทีเขาน่าจะมีโอกาสได้ไปเล่นที่ต่างประเทศเหมือนกัน
ผม : งานที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเป็นไงบ้างครับ ผมเห็นมีเด็กๆ ที่นั่นติดทีมชาติชุดเยาวชนหลายคนเลยนะ
โจเซ่ : ผมอยากสร้างอคาเดมี่ที่ดีที่สุดในเอเชียขึ้นมา และหวังเปลี่ยนแนวทางพัฒนาฟุตบอลไทยโดยหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชน ต้องทำอย่างจริงจังและเป็นมืออาชีพเพื่อต่อยอดสู่ผลงานที่ดีของทีมชาติไทย ภายใน 20 ปีเราจะไปฟุตบอลโลก ฟุตบอลมันไม่ใช่แค่ลมปากที่พ่นคำพูดสวยหรูว่าเราจะไปบอลโลก แต่เป็นเรื่องของการทำงานอย่างหนักในการพัฒนาเยาวชนโดยใช้วิทยาศาสตร์การกีฬา และเพราะว่าคุณเนวินเป็นคนทำงานหนักมากและมีความฝันอันยิ่งใหญ่ ผมจึงมาที่นี่เพื่อจะทำให้มันเป็นจริงขึ้นมาให้ได้ คงต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่ผมรอได้เพื่อจะไปให้ถึงวันนั้น
ผม : วันนี้ต้องขอบคุณมากๆ นะครับ ผมว่าคำตอบของคุณมีประโยชน์มากเลยนะทั้งกับตัวเจเอง และคนอื่นๆด้วย
โจเซ่ : ขอบคุณเช่นกันครับ
ปล. ถ้าชอบก็กดไลค์ ถูกใจก็แชร์ต่อๆ กันได้เลยนะครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก : “ถามตอบบอลไทย” โดย “แมน” โกสินทร์ อัตตโนรักษ์