เปิดใจ ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม กองหน้าดาวรุ่งวัย 20 ปี จาก แบงค็อก ยูไนเต็ด บี หลังซัดประตูในเกมนัดแรกที่ลงสนามในนาม U21 ในเกมเสมอกับ จอร์แดน U23
นี่คือนักเตะที่โดดเด่นในการแข่งขัน ยูโร่ เค้ก ลีก (T4) ในปีที่ผ่านมา หลังซัดไป 21 ประตู ให้กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด บี ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย มีทั้งผิดหวัง มีทั้งสมหวัง และ เขาก็ตอบแทนความไว้วางใจของโค้ชด้วยการยิงประตูให้กับทีมชาติไทยได้ทันที ในเกมนัดแรกที่ลงสนามในนาม U21 ในเกมเสมอกับ จอร์แดน U23
“ผมก็ดีใจมากที่ทำประตูได้ตั้งแต่นัดแรก ผมเองก็ตื่นเต้น ตอนแรกเรากังวลอยากช่วยทีมให้ไม่เสียประตู แต่พอปรับตัวได้ก็เริ่มมั่นใจขึ้นครับ และก็เริ่มเกมรุกได้มากขึ้น” เจ้าเบียว กล่าวเริ่ม
“การมาทีมชาติครั้งนี้ก็ได้อะไรมากมาย ทั้งความมั่นใจรวมถึง ประสบการณ์ต่างๆ ผมไม่กังวลนะครับที่ถูกจับมาเล่นเป็นปีกขวา เพราะตอนอยู่แบงค็อก ผมก็ถูกจับไปเล่นตำแหน่งต่างๆ”
จากชีวิตในจังหวัดตาก กับชีวิตที่ไม่ได้สุขสบาย โดยครอบครัวประกอบอาชีพเป็นกรรมกร อยู่พ่อแม่ และ พี่สาว แต่ชีวิตก็มาพบพากับลูกฟุตบอลตั้งแต่เริ่มต้น
“ผมเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 2 ขวบเลยครับ บอลลูกแรกที่ผมได้มา ก็เป็นบอลลูกเล็กขนาดเท่าฝ่ามือที่แถมมากับผงซักฟอก ที่แม่ซื้อมา ก็เตะอัดกำแพงบ้าน”
“หลังจากนั้นพออายุได้ประมาณ 6 ขวบ ผมก็ได้เล่นฟุตบอลจริงจังกับโรงเรียนชุมชน ชลประทานรังสรรค์ และก็เล่นฟุตบอลมาตลอด จนได้มาอยู่กับโรงเรียนสามเงาวิทยาคม ตอนนั้นด้วยความที่จังหวัดและแถวบ้านคนเล่นฟุตบอลน้อย เราก็เปลี่ยนมาเล่นฟุตซอล ก็ได้เป็นตัวแทนโรงเรียน ไปแข่งบอลเขต บอลจังหวัด และก็มาระดับประเทศ”
“พอ ม.5 ผมมีน้าเป็นทหารอยู่ที่กองทัพบก มาบอกผมว่า โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี มีเปิดคัดนักกีฬา ผมก็ลองมาดู ตอนนั้นที่มาคัดก็คัดเป็นฟุตซอลก็ติด ซึ่งผมก็พยายามเคลียร์ทุกอย่างแต่ดันติดศูนย์ที่โรงเรียนเก่า ผมหงุดหงิดที่มันไม่ผ่านสักที ก็ยอมมาเรียนซ้ำชั้น ม.4 ที่สุรศักดิ์มนตรี ตอนนั้นก็มีรายการแข่งขันพอดี ก็ยอมเรียนซ้ำชั้นเลยครับ”
“พอได้มาอยู่สุรศักดิ์มนตรี ก็ได้เล่นฟุตซอลกับ เตี้ย (วิศรุต อิ่มอุระ), ฟิว (เจษฏากร ขาวงาม) และ ไอซ์ (จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์) ซึ่งตอนนั้นเราก็เล่นควบคู่ไปเล่นทั้งฟุตซอลและฟุตบอล และตอนนั้นเราก็คว้าแชมป์มาหลายรายการ โดยเฉพาะรายการใหญ่อย่างบอล 7 สี, ฟุตซอลถ้วย ก.”
“ตอนนั้นก็ได้เซ็นสัญญากับแบงค็อก ยูไนเต็ด อคาเดมี และก็ได้เล่นในรายการโค้ก คัพกับทีมครั้งแรก ก็ถูกจับไปเล่นแบ็คขวา แทนตาหวาน (ศรายุธ สมพิมพ์) ที่ติดทีมชาติ และผมก็ทำประตูได้จนเป็นดาวซัลโวในรอบคัดเลือก ทั้งที่เล่นในตำแหน่งแบ็คขวา”
ชีวิตของณัฐวุฒิหลังจากนั้น แทบจะผิดหวังมาตลอด ทั้งการไปคัดตัวกับทีมชาติไทย U19 ชุดที่มีอนุรักษ์ ศรีเกิดคุมทีม แต่ก็ผ่านไปถึงการคัดตัวแค่รอบสองเท่านั้น นอกจากนี้ยังเคยเกือบติดทีมฟุตซอลทีมชาติไทยชุด U20 แต่ก็ต้องถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานไปอีก
“พอผิดหวัง ผมก็พยายามทำผลงานให้ดีที่สุดกับโอกาสที่ได้มาในทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด บี และก็ทำไปได้ 21 ประตู ก็เป็นดาวซัลโวในโซนตัวเอง และเป็นรองดาวซัลโวของทั่วประเทศ ตอนแรกผมก็ไม่มั่นใจ พอทำประตูแรกได้ความมั่นใจทุกอย่างมันมาหมดเลยครับ”
“หลังจากนั้นก็ถูกดึงตัวไปเล่นกับทีมชุดใหญ่ของแบงค็อก ยูไนเต็ด มันก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากเลยครับ ตั้งแต่การซ้อม ผมก็ได้กำลังใจจากรุ่นพี่อย่าง พี่อ้น (พุทธินันท์ วรรณศรี), พี่มิก้า (มิก้า ชูนวลศรี) ก็บอกอย่าไปเกร็งพี่ขอสักลูกนึงนะ ก็ได้แต่เฉียดไปเฉียดมา”
“ตอนซ้อม พี่ลีซอ (ธีรเทพ วิโนทัย) ก็สอนผมเยอะมากเลยนะครับ ผมก็ขอวิชาจากพี่เขาเยอะ ทั้งจังหวะวิ่ง จังหวะการยิงต้องไม่เกร็ง ให้เล่นสบายๆ แต่เขาไม่ได้สอนท่าดีใจผมนะ (หัวเราะ)”
“ส่วนในนามทีมชาติตอนแรกที่มีเก็บตัว U21 ผมไม่เสียใจนะ เพราะตอนนั้นผมคิดว่าผมยังทำได้ไม่ดีพอ จนมารอบนี้ ก่อนเก็บตัว เขาบอกว่าทางสมาคมฯ มาขอคลิปที่ผมทำประตูได้ใน T4 ไป และเขาก็เงียบหายไป”
“สำหรับผมทีมชาติมันเป็นสิ่งที่ผมใฝ่ฝัน พอมีชื่อติดทีมนี้ผมก็ดีใจมากๆ คือตอนแรกผมก็จะโทรไปบอกพ่อแม่ แต่พี่สาวเขาบอกก่อนแล้ว ผมโทรไปหาแม่ แม่ก็บอกว่ามีอะไรจะบอกไหม (หัวเราะ) แม่รู้แล้ว!! แต่แม่อยากรู้จากปากผมมากกว่า”
“เป้าหมายต่อไป ผมเองก็อยากไปเล่นกับทีมชาติในทัวร์นาเมนต์ต่อๆไป คือผมเคยติดไปทีมมหาวิทยาลัยแล้ว ที่เพิ่งจบไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อน แต่คิดว่ามันน่าจะแตกต่างกัน ก็จะทำให้เต็มที่ให้มันออกมาดีที่สุดครับ”
ข้อมูลจาก ฟุตบอลทีมชาติไทย