เบนจามิน ตัน รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด และผู้อำนวยการคลับ ไลเซนซิง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เผยถึงกระแสตอบรับจากการเดินทางไปตรวจสนามทั้งในระดับ โตโยต้า ไทยลีก (ไทยลีก 1) และ เอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ (ไทยลีก 2) ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยตัวแทนจาก บริษัท ไทยลีก จำกัด และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เริ่มทำการตระเวณตรวจความพร้อมของสโมสรทั่วประเทศตั้งแต่สัปดาห์ก่อน เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับการขอใบอนุญาตสโมสรตามหลักเกณฑ์ด้านต่างๆ จากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) ในการเข้าร่วมแข่งขันลีกอาชีพก่อนเริ่มฤดูกาลหน้า พร้อมทั้งตรวจความคืบหน้าแผนงานที่ทางสโมสรได้ยื่นของบประมาณในการพัฒนาสาธารณูปโภค ตามโครงการ FA Development Programme ประจำปี 2561
ซึ่งทางด้านของ เบนจามิน ตัน ได้กล่าวถึงการไปเยือนแต่ละสนามว่า “สนามของ พีที ประจวบ ถือเป็นสนามที่ดีและมีโครงสร้างที่คล้ายกับสนามส่วนใหญ่ของหลายๆ จังหวัด แต่สโมสรก็มีความคิดสร้างสรรค์ในการเพิ่มห้องรับรอง และมีการรักษาความปลอดภัยที่ค่อนข้างดีเช่นกัน เรารู้สึกประทับใจกับการบริหารจัดการของสโมสรที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีการใช้เงินจากโครงการ FA Development Programme ในการปรับปรุงห้องแถลงข่าว, พัฒนาระบบไฟฟ้าและติดตั้งกล้อง CCTV อีกด้วย”
“ส่วนลำปาง เอฟซี นั้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชน ซึ่งสำคัญต่ออนาคตของฟุตบอลไทย พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าทีมตรวจสนามจะมาเยือนลำปาง เอฟซี เพื่อพูดคุยและแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาฟุตบอลไทยไปด้วยกัน นั่นทำให้เราฟังแล้วรู้สึกปลื้มใจมาก”
“นอกจากนี้สโมสรยังสร้างห้องแต่งตัวใหม่และติดตั้งไฟที่สนามซ้อมใหม่โดยใช้เงินจากโครงการ FA Development Programme ด้วย”
“ขณะเดียวกันเราก็ได้ไปเยือนสนามกีฬาสมโภช 700 ปี ของเชียงใหม่ เอฟซี ซึ่งเป็นสนามที่ใหญ่และดีสนามหนึ่ง และสโมสรยังพยายามให้ความสำคัญกับฟุตบอลรากหญ้าเช่นกัน อย่างไรก็ตามสนามยังไม่พร้อมดีนัก เพราะระหว่างการปรับปรุง โดยจะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2018”
“สำหรับสโมสรการท่าเรือ เอฟซี พวกเขามีโอกาสดีที่จะได้เล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่จากการที่สนามมีพื้นที่ค่อนข้างเล็ก ทำให้อาจต้องใช้ราชมังคลากีฬาสถาน หากพวกเขาได้ไปเล่นในรายการฟุตบอลสโมสรเอเชียฤดูกาลหน้า ในฤดูกาลนี้พวกเขาใช้เงินไปกับการเซ็นสัญญานักเตะไปพอสมควร เราจึงแนะนำให้ลงทุนกับสนามและสิ่งอำนวยความสะดวกเช่นกัน โดยสโมสรมีความแข็งแกร่งด้านการเงินและบัญชีอย่างมาก”
“ส่วน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด มีประสบการณ์ในการเล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือกมาแล้ว และมีโครงสร้างที่ดีในหลายๆ ส่วน อีกทั้งยังมีบุคลากรที่มีมาตรฐาน นอกจากนี้ยังมีการให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชน โดยจ้างผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคและหัวหน้าฝ่ายอะคาเดมีที่มีไลเซนส์จากยูฟ่า ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในการพัฒนาเยาวชนไทย นอกจากนี้ยังมีสถานะทางการเงินและบัญชีที่ดีอีกด้วย”
“ขณะที่นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ก็มีสนามที่มีความจุในระดับที่เหมาะสมแก่การจัดแมตช์ใหญ่ๆ และมีการสร้างแบรนด์สโมสรที่ดีรอบๆ ตัวสนาม พวกเขามีแผนที่จะปรับปรุงห้องแถลงข่าวใหม่เช่นกัน อย่างไรก็ตามยังจำเป็นต้องปรับปรุงในเรื่องของสกอร์บอร์ดและไฟสนามโดยการใช้เงินจาก FA Development Programme ซึ่งหน่วยงานราชการอย่างการกีฬาแห่งประเทศไทย สามารถให้การสนับสนุนการปรับปรุงสนามได้”
โดยทางคณะทำงานยังมีแผนการเพื่อเดินทางไปตรวจความพร้อมของสโมสรอื่นๆ ดังต่อไปนี้
วันพุธที่ 15 สิงหาคม
สโมสร ขอนแก่น เอฟซี ณ สนามกีฬาเทศบาลขอนแก่น
วันพุธที่ 15 สิงหาคม
สโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี ณ สนามกีฬาเทศบาลหนองบัวลำภู
วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม
สโมสรอุดรธานี เอฟซี สนามสถาบันพลศึกษา จังหวัดอุดรธานี
วันอังคารที่ 21 สิงหาคม
สโมสร พัทยา ยูไนเต็ด
ณ สนามเทศบาลเมืองหนองปรือ
วันอังคารที่ 21 สิงหาคม
สโมสรราชนาวี เอฟซี ณ สนามกม. 5 สัตหีบ
วันพุธที่ 22 สิงหาคม
สโมสร ระยอง เอฟซี ณ สนามกีฬาจังหวัดระยอง
วันพุธที่ 22 สิงหาคม
สโมสร ปตท.ระยอง ณ สนาม ปตท.
วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม
สโมสร ตราด เอฟซี ณ สนามกีฬาจังหวัดตราด
วันอังคารที่ 4 กันยายน
สโมสร สุพรรณบุรี เอฟซี ณ สนามกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี
วันพฤหัสที่ 6 กันยายน
สโมสร ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ณ สนามมิตรผล สเตเดียม
ขอขอบคุณ : Thai League