เบนจามิน ตัน รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด และผู้อำนวยการคลับ ไลเซนซิง ได้กล่าวถึงการไปเยือน ขอนแก่น เอฟซี, หนองบัว พิชญ เอฟซี และอุดรธานี เอฟซี 2 สโมสรจาก เอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ ระหว่างวันที่ 15-16 สิงหาคมที่ผ่านมา
โดยตัวแทนจาก บริษัท ไทยลีก จำกัด และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับการขอใบอนุญาตสโมสรตามหลักเกณฑ์จากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) ในการเข้าร่วมแข่งขันลีกอาชีพก่อนเริ่มฤดูกาลหน้า พร้อมทั้งตรวจความคืบหน้าแผนงานที่ทางสโมสรได้ยื่นของบประมาณในการพัฒนาสาธารณูปโภค ตามโครงการ FA Development Programme ประจำปี 2561
ซึ่งเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะทำงานได้เดินทางไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และได้ตรวจสอบความคืบหน้าในการเตรียมความพร้อมของสโมสรขอนแก่น เอฟซี, หนองบัว พิชญ เอฟซี และอุดรธานี เอฟซี ในการเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพฤดูกาล 2562 โดยทางด้านของ เบนจามิน ตัน ได้ให้ความเห็นว่า
“สำหรับขอนแก่น เอฟซี เราได้เห็นความตั้งใจในทางบวกหลังจากการไปเยือนแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้รับการปรับปรุงอย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นห้องแต่งตัวหรือที่นั่งสำหรับวีไอพี”
“ตัวสนามนั้นพวกเขาได้รับการสนับสนุนที่ดีจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสปอนเซอร์ โดยสโมสรมีความสัมพันธ์อันแนบแน่นกับชุมชนในท้องถิ่นและทำงานร่วมกับโรงเรียน, ระดับรากหญ้าและอะคาเดมีได้ดี”
“นอกจากนี้ยังมีความผูกพันอันแน่นแฟ้นกับแฟนบอล และมีความรับผิดชอบทางสังคมเชิงบรรษัท (CSR)อย่างตอนที่เกิดเหตุการณ์เขื่อนแตกในสปป.ลาว และยังมีการจัด ที-เร็กซ์ ฟาร์ม เพื่อสร้างสัมพันธืกับแฟนบอลเด็กๆ ด้วย”
“ขอนแก่นถือว่ามีศักยภาพที่ดีมากเนื่องจากมีทำเลในเชิงกลยุทธ์ที่จะขยายฐานฟุตบอลในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งตอนนี้พวกเขาก็ได้ทำงานร่วมกับทิคเก็ต เมลอน ในโครงการนำร่องที่จะมีการขายตั๋วออนไลน์, เก็บข้อมูลและสร้างสัมพันธ์กับแฟนบอล”
“อย่างไรก็ตาม สโมสรจำเป็นต้องโฟกัสกับที่นั่งในสนามที่ตอนนี้มีเพียง 1,500 ที่นั่ง รวมถึงไฟสนามที่ต้องมีความสว่าง 1,200 ลักซ์สำหรับ โตโยต้า ไทยลีก”
“ขณะที่หนองบัว พิชญ มีพันธกิจและวิสัยทัศน์ที่ละเอียดเนื่องจากเป็นสโมสรที่ค่อนข้างใหม่ และมีการวางรากฐานความเป็นมืออาชีพผ่านโครงสร้างและการบริหารจัดการภายในสโมสร นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญในระดับรากหญ้าและเยาวชนอย่างมาก ซึ่งเห็นได้จากความสำเร็จในรายการแข่งขันระดับท้องถิ่นและภูมิภาค โดยมีทีมเทคนิคที่ประกอบด้วยโค้ชระดับไลเซนส์ในการพัฒนาเยาวชน นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการฝึกสอนเยาวชนที่ดีอีกเช่นกัน”
“ในส่วนของสนามถือว่ามีศักยภาพที่จะจัดเกมระดับไทยลีก 1 ได้ หากมีการปรับปรุงเรื่องที่นั่งและไฟสนาม ขณะเดียวกันสโมสรก็กำลังสร้างสนามใหม่ซึ่งน่าจะพร้อมใช้งานในช่วงเลกสองของฤดูกาล 2019 ซึ่งเราก็ได้แนะนำพวกเขาให้จัดทำแผนการสร้างสนามมายังไทยลีกด้วย”
“ส่วนอุดรธานี แม้จะเป็นสโมสรน้องใหม่ใน เอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาและการลงทุนที่ดี สโมสรได้ทำการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกในสนาม และตั้งใจจะย้ายสนามใหม่ฤดูกาลหน้า”
“โดยสนามใหม่มีศักยภาพที่จะเป็นสนามระดับ เอ คลาส แต่จำเป็นต้องปรับปรุงที่นั่งและสกอร์บอร์ดไฟฟ้า ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทยในการปรับปรุงสนาม”
“ขณะเดียวกันสโมสรก็ถือว่ามีหนึ่งในทีมที่มีแฟนบอลเหนียวแน่นในไทยลีก 2 โดยขายเสื้อไปแล้วถึง 40,000 ตัว นอกจากนี้ยังจัดรายการแข่งขันระดับเยาวชนในระดับจังหวัด เพื่อสรรหาและพัฒนานักเตะเยาวชนอีกด้วย”
วันอังคารที่ 21 สิงหาคม
สโมสร พัทยา ยูไนเต็ด
ณ สนามเทศบาลเมืองหนองปรือ
วันอังคารที่ 21 สิงหาคม
สโมสรราชนาวี เอฟซี ณ สนามกม. 5 สัตหีบ
วันพุธที่ 22 สิงหาคม
สโมสร ระยอง เอฟซี ณ สนามกีฬาจังหวัดระยอง
วันพุธที่ 22 สิงหาคม
สโมสร ปตท.ระยอง ณ สนาม ปตท.
วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม
สโมสร ตราด เอฟซี ณ สนามกีฬาจังหวัดตราด
วันอังคารที่ 4 กันยายน
สโมสร สุพรรณบุรี เอฟซี ณ สนามกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี
วันพฤหัสที่ 6 กันยายน
สโมสร ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ณ สนามมิตรผล สเตเดียม
ขอขอบคุณ : Thai League