เจอร์เก้น คล็อปป์ อดีตนายใหญ่สโมสร ลิเวอร์พูล เหน็บแนมทั้ง แมนซิตี้, เชลซี และ แมนยู หลังมาร่วมงานอีเวนต์พิเศษที่ขายตั๋วได้เกลี้ยง
กระทั่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ อดีตนายใหญ่สโมสร “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล พูดเหน็บทั้งสโมสร “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระหว่างร่วมช่วงกิจกรรมถาม-ตอบ ในงานอีเวนต์ที่เมืองลิเวอร์พูล
ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวเปิดโอกาสให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ สามารถพูดได้ทุกเรื่องตามรูปแบบอีเวนต์ถาม-ตอบ แต่ช่วงหนึ่ง คล็อปป์ ก็บอกในเชิงว่าเขาโดนห้ามพูดถึงประเด็นต่างๆ โดยระบุว่า “ผมโดนห้ามพูดถึง ทีเอ็นที (สื่อที่รับหน้าที่ถ่ายทอดเกมการแข่งขัน), เรื่องต้องเตะตอน 12.30 น., เรื่องกรรมการ, เรื่อง แมนซิตี้ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดไม่ด้น่ะนะ, เรื่องการเงิน ซึ่งผมก็ไม่รู้อีกว่าทำไมถึงห้ามพูดถึงเรื่องนั้น แล้วก็เรื่อง วีเออาร์”
หลังจากนั้นมีช่วงหนึ่งที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ โดนถามว่มันจะเป็นยังไงถ้าหากสโมสร “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถูกตัดสินว่าละเมิดกฎการเงิน 115 ข้อหาจริง และมีการริบแชมป์ลีก 2 สมัยในช่วงที่ “เรือใบสีฟ้า” ทำผิด พร้อมกับมามอบให้ ลิเวอร์พูล แทน ซึ่งเขาก็บอกว่า “ถ้าคุณจะจัดขบวนรถบัสฉลองแชมป์ที่ว่าล่ะก็ ผมก็จะมาร่วมขบวนด้วยแน่ ผมไม่สนหรอกว่ามันจะกินเวลานานเท่าไหร่ ไม่สนเลยสักนิด”
ในเวลาต่อมา เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็กล่าวชม เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป (เอฟเอสจี) กลุ่มทุนเจ้าของสโมสร “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ด้วย พร้อมกับเหน็บกลุ่มทุนของ ท็อดด์ โบห์ลี่ เจ้าของทีม เชลซี ไปในตัว “คุณนึกภาพออกไหมว่า ลิเวอร์พูล จะเป็นยังไงถ้าใช้เงินได้แบบไร้ขีดจำกัด ? ลองนึกภาพตามสิว่ามันจะเป็นยังไงถ้า คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ย้ายมาเล่นที่นี่, ถ้าเกิด จู๊ด เบลลิงแฮม ย้ายมาเล่นที่นี่, ถ้าหาก ฮาลันด์ มาเล่นกับที่นี่ แต่นั่นไม่ใช่แนวทางของเราอยู่แล้ว มันไม่เข้ากับแนวทางของเรา เราได้แชมป์ตามที่เราทำด้ และเราก็ทำได้ด้วยแนวทางของ ลิเวอร์พูล เรามีการหารือกันอย่างหนักขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นสโมสรอื่นๆ ไม่ได้ทำแบบเรา”
“เราสร้างอัฒจันทร์ใหม่ 2 ฝั่ง, สร้างสนามซ้อมแห่งใหม่, เรานำ เมลวู้ด กลับมาเป็นของเราได้ ซึ่งที่จริงผมก็คิดตั้งแต่ตอนที่เราขายมันไปแล้วว่าการขาย เมลวู้ด เป็นความคิดที่งี่เง่าที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมา เหล่าเจ้าของทีมทำในสิ่งที่เจ้าของทีมทำกัน ช่างน่าเซอร์ไพรส์ซะเหลือเกิน! นั่นคือเหล่าเจ้าของทีมต้องการเงิน ขอโทษด้วยที่ผมต้องบอกกับคุณแบบนั้น”
“อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ว่าพวกเขาได้เงินทุกวันหรอกนะ พวกเขาควักเงินลงทุนไปกับบางอย่างด้วย โลกมันเป็นแบบนั้น เราควรจะดีใจที่เรามีพวกเขามาเป็นเจ้าของทีมของเรา ไม่ใช่พวกที่ไปซื้อทีมในกรุงลอนดอน ถ้าคนกลุ่มนั้นมาเป็นเจ้าของทีม ลิเวอร์พูล แล้วล่ะก็ ผมก็คงไม่มีทางอยู่กับทีมได้ถึง 1 ปีแน่ๆ อารมณ์ของเจ้าของทีมกลุ่มนั้นเป็นประมาณว่า -เรามีพัฒนาการที่ดีนะ แต่ไม่ดีพอ เพราะงั้นปลดเขาซะ!- จากนั้นอีก 1 ปีก็ -ปลดกุนซืออีกคน- จนท้ายที่สุดแล้วพวกเขา (เชลซี) ก็เล่นฟุตบอลได้ดีจนทำให้ทุกคนคิดว่า -โอ้ พวกเขาอาจจะกลับมาแล้วก็ได้- แต่สุดท้ายพวกเขาก็ยังปลดกุนซืออยู่ดี”
“หลายคนมักจะคิดว่าสถานการณ์ของที่อื่นมันดีกว่าทีมของตัวเองอยู่เสมอ แต่ที่จริงแล้วเรามีกลุ่มเจ้าของทีมที่มีความรับผิดชอบในการทำงานกับสโมสรอย่างมาก และทำงานกันหนักสุดๆ เพื่อที่ทีมจะได้ประสบความสำเร็จ ที่ผ่านมาผมรู้สึกว่าตัวเองได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี เราทำได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว และผมก็พอใจกับสิ่งที่ทำได้”
มีช่วงหนึ่งที่ คล็อปป์ โดนถามถึงสไตล์การบริหารคนของเขา ซึ่งตรงนี้เองที่เจ้าตัวเหน็บ แมนยู โดยบอกว่า “ถ้าคนทั้งโลกไม่เชื่อและหมดศรัทธานักเตะคนใดคนหนึ่งแล้วน่ะ คนเป็นผู้จัดการทีมก็คือคนที่ต้องหนุนหลังนักเตะ ผมไม่สามารถคล้อยตามกับแนวคิดที่ว่า -หมอนี่มันไร้ประโยชน์ชัดๆ- เหมือนที่ทีมอื่นๆ ทำได้ อย่างเช่นทีมที่ซื้อนักเตะด้วยเงิน 80 ล้านปอนด์แล้วปล่อยเขาไปเล่นกับที่อื่นแบบยืมตัวน่ะ! (หมายถึงกรณีของ เจดอน ซานโช่)”