เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตดาวเตะ ลิเวอร์พูล ในฐานะกูรูช่อง สกาย สปอร์ต ข้องใจการเปลี่ยนตัวสำรองของ เยอร์เก้น คลอปป์ ควรจะทำได้ดีกว่านี้ หลังเสมอ เอฟเวอร์ตัน
สถานการณ์ของทีมต้องการ 3 คะแนน เพื่อกลับมาเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง คลอปป์ เลือกเปลี่ยนตัว เจมส์ มิลเนอร์, โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ และ อดัม ลัลลาน่า ลงสนาม แต่ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนแทคติก 4-3-3 ไปเล่นแบบอื่นที่ทำให้เกมรุกมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
นอกจากนี้ คาร์ราเกอร์ ยังแนะนำให้ คลอปป์ หากองกลางตัวสร้างสรรค์เกมมาไว้ในทีมมากกว่านี้ หลังถูกถามว่า ลิเวอร์พูล มีปัญหาหรือไม่
“แน่นอน ในแง่ของกองกลาง แต่มันไม่ใช่ปัญหาที่เพิ่งเกิด ผมคิดว่ามันเป็นปัญหามาตั้งแต่ตอนปิดซีซั่นที่แล้ว” คาร์ราเกอร์ แจง
“เราเสียคูตินโญ่ไปเมื่อมกราคมที่แล้ว และพวกเขาไม่สามารถหาใครมาแทนที่ได้ พวกเขาพยายามแล้วกับใครสักคนจากลียง (นาบิล เฟคีร์) เมื่อตอนซัมเมอร์ แต่ทำไม่สำเร็จ และพวกเขาไม่มี 3 หรือ 4 ทางเลือกอื่นอีก”
“ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ประเด็นในตอนนี้ และเชื่อว่าแม้ท้ายที่สุดต่อให้ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์มาครองได้ พวกเขาก็ยังต้องพยายามหานักเตะในตำแหน่งนี้มาเสริมทีมให้ได้ ไม่ใช่แค่ต้องการนักเตะใหม่หรือนักเตะที่ดีที่สุด แต่เป็นเพราะเราไม่มีนักเตะแบบนี้ที่จะมาช่วยคอยเปลี่ยนเกม”
“ถ้าคุณพูดถึงปัญหาของลิเวอร์พูล ผมยังไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องน่าวิตกหลังจากวันนี้ หรือในสัปดาห์หน้า เนื่องจากพวกเขาไม่ได้เสียประตู และก็ไม่เสียมา 5 นัดติดต่อกันแล้วด้วย”
“แต่สิ่งที่ผมย้อนกลับไปมองคือเรื่องของมิดฟิลด์ ผมมองไปที่การเปลี่ยนตัวในซุ้มม้านั่งสำรอง ผมไม่คิดว่าพวกเขาทำได้ดีนักมาตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ตอนที่ส่งดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ลงสนาม”
“จากนั้นในวันนี้ ผมมองไปที่การเปลี่ยนตัวและคิดว่าส่งโรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ ลงสนาม จากนั้นพยายามให้ใครสักคนอยู่หลังมิดฟิลด์เอฟเวอร์ตัน และให้เขาอยู่กับ 3 มิดฟิลด์กลางสนาม”
“ถ้าคุณใช้งานฟีร์เมียโน่ให้เล่นในตำแหน่งหมายเลข 10 และใช้มิดฟิลด์กลางสนามแค่ 2 ตัวแทน 3 ตัวที่ใช้อยู่ มันจะทำให้มิดฟิลด์เอฟเวอร์ตัน 2 คนอยู่ข้างหน้าพวกเขา และอีกคนอยู่ข้างหลังพวกเขา”
“แม้ตอนที่ส่งลัลลาน่าลงมา พวกเขาก็ยังไม่ได้เข้ามาแทนที่ 1 ใน 3 มิดฟิลด์ เขาเข้ามาเล่เป็น 1 ใน 3 กองหน้า มาถึงตอนนี้บางทีคลอปป์คงคิดว่าทีมยังไม่ได้อยู่ในจุดที่เลวร้ายก็ได้”
“ลิเวอร์พูลเพิ่งจะแพ้ไปแค่ 1 นัดเดียวในฤดูกาลนี้ ผมเองก็เคยเล่นในซีซั่นที่แพ้ไปแค่ 2 นัด และไม่ได้แชมป์ลีก มันไม่สำคัญว่าคุณจะแพ้กี่นัด มันสำคัญที่ว่าคุณกำลังทำแต้มหลุดมือ ซึ่งคะแนนเหล่านั้นมันสำคัญ”
“คุณก็ได้แค่มองและคิดว่า มันควรที่จะเปลี่ยนตัวเล่นเกมรุกมากขึ้นกว่าที่พวกเขาทำหรือไม่ เราจะได้รู้คำตอบก็ต่อเมื่อซีซั่นนี้จบลงแล้วเท่านั้น”