ข่าวฟุตบอลเขามีดีอย่างไร? ทำไมถึงมีคนเรียกร้องให้ติดทีมชาติ สิโรจน์ ฉัตรทอง
โพสต์รูปภาพ
 เป็นที่ตื่นตา ตื่นใจ ตื่นเต้น ของแฟนบอลแถบชายแดนกันอีกครั้ง .. เมื่อมีกระแสความร้อนแรงของ เจ้าโป้ หรือ โลโป้ หรือปีโป้ ที่เพื่อนๆพี่น้องชอบเรียกนาย สิโรจน์ ฉัตรทอง ตามความสนิทสนม เพื่อเพิ่มความน่ารักของเจ้าตัว จากนิสัยใจคอ และช่วยลดความบึกบึน จากรูปร่าง หน้าตา ที่ค่อนข้างผิดจากนิสัยแบบลิบลับ .. เมื่อมีการเอ่ยปากจากโค้ช อดีตทีมชาติไทยยุคดรีมทีม เจ้าของฟรีคิกประวิติศาสตร์ดับเกาหลีใต้ที่สนามมัง ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล ว่า “เด็กคนนี้น่าติดทีมชาติ” .. เพราะนี่ไม่ใช่ ตาสีตาสา แฟนบอล หรือสื่อเซราะกราว อย่าง อันซีนชายแดนไทย-กัมพูชา พูด!! แต่เป็นการการันตีของกองกลางทีมชาติไทยในตำนานคนหนึ่ง .. จึงทำให้มีน้ำหนัก และความน่าเชื่อถือมากเป็นพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้น คนที่น้าวังกล่าวถึง ไม่ใช่ลูกทีมของตน แต่เป็นคู่ต่อสู้ที่ได้กำชับให้ลูกทีม ระวังแล้ว ระวังอีก ก็ไม่วาย ถูกกองหน้าจากเมืองช้างเล่นงานจนเอาตัวไม่รอด .. และแล้วทุกคนก็ได้รู้จักเจ้าโป้ เพิ่มขึ้น จากข้อมูลต่างๆที่ได้ค้นหากัน .. แต่ยัง ยังไม่พอสำหรับอันซีนชายแดนไทย-กัมพูชา เพราะเราจะนำทุกท่านเจาะลึกเข้าไปอีก เพื่อเพิ่มอรรถรสในการติดตามให้กำลังใจ .. ไปดูกันว่า เขามาจากไหน มายังไง ก่อนที่จะเป็นที่รู้จักของทุกคน ..
สิโรจน์ เป็นชาวสุรินทร์แท้ๆ บ้านอยู่ซอยตาดอก ย่านตลาดสด ซึ่งอาจจะสร้างความสงสัย และ งงงวย ให้กับแฟนๆบ้างเล็กน้อย เพราะเขาไม่ใช่เด็กบ้านนอกคอกนา มีสนามทุ่งนาเป็นสเตเดี้ยมแรก แต่เขาเติบโตมาจากชุมชนเมือง ที่บ้านประกอบอาชีพ ขายเนื้อหมูในตลาดสด .. อ้าว ยิ่งแล้วใหญ่ล่ะทีนี้ ขายหมูที่ตลาดมันเกี่ยวข้องยังไงกับฟุตบอล เขามีวันนี้ได้ยังไง .. ซอยตาดอกก็แคบๆ มีแต่ตึกคอนกรีต จะไปวิ่งเตะบอลที่ไหน .. เอาล่ะ อันซีนจะเฉลยให้ทุกท่านฟัง ถ้าใครเคยผ่านซอยตาดอกเมื่อสิบปีที่แล้ว ถ้าสังเกตุดีๆ ใกล้ๆโต๊ะสนุ้กในซอยจะมีล็อกว่างอยู่ 1 ล็อก ที่ยังมีพื้นดินให้สัมผัสกันอยู่ นั่นแหละ คือสนามแรกของเจ้าโป้ .. แต่ไม่ได้สวยหรูเท่าทุ่งนาเหมือนสนามแรกของนักบอลส่วนใหญ่หรอกนะ .. เพราะมันทั้งแคบ และฝุ่น ฝุ่นจนชนิดว่า หายใจไม่ออก จนกลายเป็นชื่อสนามแห่งนั้นคือ “สนามหายใจไม่ออก” ที่เด็กๆแถวนั้นรวมถึงเจ้าโป้ใช้เรียก .. นอกจากเจ้าตัวแล้ว โป้ มี ป๊อก พี่ชายแท้ๆที่มีใจรักฟุตบอลพอๆกัน ใช้เวลาทุกเย็นหลังเลิกเรียน หรือ ช่วยแม่ขายหมูเสร็จ ก็จะมาสูดดมฝุ่นกันที่นี่ .. แต่ป๊อก(พี่ชาย) ชอบและก็เล่นเป็นผู้รักษาประตู และนี่คือสนามแรกของยอดกองหน้าเจ้าของฉายา บัวขาวอุบล ในขณะนี้
เจ้าของฉายา บัวขาวอุบล ในขณะนี้
ป๊อก ศรศักดิ์ ฉัตรทอง พี่ชายแท้ๆของสิโรจน์ ฉัตรทอง
 .. จนกระทั่ง ปีโป้เข้าโรงเรียน จนสามารถเดินทางไปไหน มาไหนไกลกว่าในซอยได้ จึงได้เข้ามาเล่นที่สนามโรงเรียนเมืองสุรินทร์ และที่นี่แหละ คือจุดเปลี่ยน จุดแรกของโลโป้ .. แม้โป้จะเข้าโรงเรียนแล้ว แต่งานหลักของเขา คือการช่วยทางบ้านขายหมูในตลาด รวมถึงพี่ชายด้วย ทำให้ช่วงหลังพี่ชายต้องช่วยงานที่บ้านมากกว่าเดิมเพื่อเสียสละให้โป้ ได้มีโอกาสเล่นฟุตบอลอย่างเต็มที่ ตัวเองก็ต้องห่างหายจากการเฝ้าเสาสนุกสนานกับเพื่อนไป .. แต่กระนั้น โป้ ก็ไม่ได้ใช้เวลาว่างทั้งหมด มาเล่นฟุตบอล เขาเองก็ยังต้องช่วยครอบครัวเช่นกัน ทำให้ไม่อาจเข้ามาเป็นนักฟุตบอลโรงเรียนได้ ต้องมีเวลาจริงๆ เช่น เสาร์-อาทิตย์ ถึงจะได้อยู่กับฟุตบอลอันเป็นที่รัก .. เขาใช้ชีวิตแบบนั้นจนอายุ 15 – 16 ปี การไม่ได้เป็นตัวแทนทีมโรงเรียน จึงไม่ได้รับการฝึกอย่างถูกต้อง และไม่มีเวทีให้ได้แสดงเหมือนนักฟุตบอลคนอื่นๆ .. แต่แล้ว สวรรค์ก็มีตา เมื่อเจ้าแอม ชยพล อุดรพันธุ์ กัปตันลำพูน วอริเออร์ จ่าฝูงโซนเหนือในปัจจุบัน ซึ่งในขณะนั้นกำลังวาดลวดลายให้ช้างตกมัน สุรินทร์เอฟซีบ้านเกิดอยู่ ได้เข้าไปเล่นสนุกสนานที่สนามโรงเรียนเมืองสุรินทร์ ที่ ที่เจ้าโป้ใช้แทนสนามหายใจไม่ออก ในการเลี้ยงหลบเพื่อนๆ .. ด้วยสายเลือดนักฟุตบอล เจ้าแอมก็ได้ชักชวนโลโป้ มาร่วมเล่นฟุตบอลเดินสาย กับพี่ๆนักฟุตบอลอาชีพ (ที่ตอนนั้นต้องอาศัยเดินสายด้วย) และด้วยความเป็นเด็ก ก็มักจะโดนพี่ๆ ทั้งหยอก แกล้ง อำ สารพัด รวมถึงโดนด่าในสนามด้วย แต่โลโป้ ไม่เคยถอย .. เพราะสิ่งที่เค้าโดนต่อว่า สอน ดุ จากรุ่นพี่ คือสิ่งที่เขาต้องรีบนำกลับมาปรับปรุง เพราะอย่างที่เรียนให้ทุกท่านทราบ เขาไม่ได้รับการฝึกมาอย่างถูกต้อง จึงต้องเรียนรู้เองจากพี่ๆ ทำให้เขา ช้า ไปหนึ่งก้าว เมื่อเทียบกับนักฟุตบอลคนอื่น .. แต่ด้วยความมุมานะ ตั้งใจ ผนวกกับ สรีระ พละกำลัง เขาก็พัฒนาตัวเอง สามารถเล่นกับพี่ๆ ช่วยเหลือทีมได้ จนเป็นที่ยอมรับ และคว้าแชมป์ฟุตบอลเดินสายทั่วจังหวัดสุรินทร์ .. แต่นั่นเป็นเพียงฟุตบอลเดินสายเท่านั้น แข่งเสร็จ โลโป้จะแอบเอาเนื้อหมู มาให้พี่ๆจัดการปิ้งย่าง ทุกครั้งไป .. จนอาจเรียกว่าเป็นการติดสินบนในการลงสนามก็ได้ ?? ..
เจ้าแอม ชยพล อุดรพันธุ์ ผู้ชักชวนโลโป้ เข้าวงการฟุตบอลอย่างจริงจัง

.. จนมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับ สุรินทร์เอฟซี พี่โก้ ฐปกรณ์ ดีมาก ซึ่งถือเป็นพี่ใหญ่ ในวงการฟุตบอลจังหวัดสุรินทร์ ผู้ที่เป็นผู้ให้โอกาสนักฟุตบอลรุ่นน้อง มานักต่อนัก ได้มีโอกาสมาคุมทีมบ้านเกิด .. เจ้าโป้ ซึ่งเป็นน้องคนเดียวของพี่ๆ ที่ยังไม่ได้เล่นบอลอาชีพ ก็ถูกนำเสนอต่อพี่โก้ .. เจ้าโป้เลยมีโอกาสเข้ามาร่วมฝึกซ้อมกับทีม และถือเป็นการเรียนรู้อย่างถูกต้องครั้งแรกของเจ้าตัว .. ความขยัน ทุ่มเท และมีพี่ๆเป็นไอดอล คอยช่วยเหลือ ทำให้โป้ โดดเด่นขึ้นมา แต่ก็ยังไม่พอที่จะเบียดพี่ๆได้ รวมถึงข้อจำกัดในการส่งชื่อเข้าร่วมทีม โป้จึงยังเป็นแค่ เด็กฝึกหัดของทางสโมสร ไม่มีเบี้ยเลี้ยง เงินเดือน หรือแม้กระทั่งชุดซ้อม .. แต่เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นเลย ขอเพียงแค่ได้เข้ามาซ้อมกับพี่ๆ .. และแล้ว จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดจริงๆก็เกิดขึ้น การเปลี่ยนแปลงทำให้พี่โก้ต้องขึ้นโซนกรุงเทพและปริมณฑล เข้าไปทำหน้าที่กุนซือ อีกานน นนทบุรี เอฟซี .. รวมถึงดึงเจ้าโป้ ศูณย์หน้าอนาคตไกล ไปเซ็นสัญญากับทีมด้วย .. และนี่คือ จุดกำเนิด สิโรจน์ ฉัตรทอง อย่างแท้จริง .. เรื่องราวของเขาตามมามากมาย ที่สามารถติดตามทางสื่อใหญ่ๆ ที่อันซีนไม่ขอเล่าซ้ำ ให้วกไปวนมา แต่ขอนำเสนอข้อมูล ที่อันซีน เพราะเรื่องราวดังกล่าวได้เกิดขึ้น ณ ชายแดนไทย-กัมพูชา

ฐปกรณ์ ดีมาก โค้ชที่มากมายสำหรับโอกาสของทุกคน

.. ปัจจุบัน เจ้าโป้ ได้มาร่วมทีม อุบลยูเอ็มที ในลีกวัน จึงมีโอกาสกลับมาเยี่ยมบ้านที่สุรินทร์บ่อยขึ้น และทุกครั้งที่มา เจ้าบัวขาวอุบล ก็ใช้ชีวิตปกติเรียบง่าย เจอหน้าทักทาย ยกมือสวัสดี แบบกันเองเหมือนเดิม แม้จะมีชื่อเสียง เงินทอง จากการเล่นฟุตบอล แต่ โลโป้ ก็คือ โลโป้ ที่รักของพี่น้องทุกคนเหมือนเดิม ..