เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุม ครั้งที่ 5 ประจำฤดูกาล 2567/68 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน ได้พิจารณาเรื่องร้องเรียนเหตุการณ์ ได้พิจารณาเรื่องร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน และ เหตุการณ์ผิดปกติในการแข่งขันฟุตบอล ดังนี้
การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการลีก คัพ คู่ระหว่างสโมสรฟุตบอล ราชนาวี พบ สโมสร ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา
เหตุการณ์
ในนาทีที่ 83 (เวลา 19:40 น.) ในการแข่งขันครึ่งเวลาหลัง ได้เกิดไฟฟ้าดับลงในสนาม ทางผู้ควบคุมการแข่งขันจึงได้แจ้งทั้งสองทีมตามกฎระเบียบการแข่งขันเรื่องไฟฟ้าส่องสว่างสำหรับใช้ส่องสว่างสนามขัดข้องจนไม่สามารถดำเนินการแข่งขันได้ ตามกฎระเบียบการแข่งขันไฟฟ้าขัดข้องเป็นเวลารวมกันทั้งหมดเกิน 60 นาที จึงดำเนินการจับเวลา ทางเจ้าหน้าที่ทีมเจ้าบ้าน สโมสรฟุตบอลราชนาวี เอฟซี จึงรีบดำเนินการแก้ไข และทางผู้ควบคุมการแข่งขันได้ประสานแจ้งทาง Match Center เป็นระยะ ในนาทีที่ 27 ของการจับเวลา ( เวลา 20:07 น.) ไฟฟ้าส่องสว่างกลับมาติดอีกครั้งแต่ยังไม่สามารถแข่งขันได้ เนื่องจากสว่างไม่เพียงพอ ผู้ตัดสินไม่สามารถตัดสินได้ หลังจากนั้นไฟได้ดับไปทุกดวงเป็นครั้งที่ 2 ผู้ควบคุมการแข่งขันได้จับเวลาต่อไป จนดำเนินการจับเวลาเกิน 60 นาที (จับเวลาได้ 67 น.) ยังไม่สามารถดำเนินการแก้ไขให้ทำการแข่งขันได้ จึงจำเป็นที่จะต้องยุติการแข่งขัน โดยให้กรรมการแจ้งให้กัปตันทั้งสองทีม ผู้จัดการทีมทั้งสองทีม รับทราบ กรรมการจึงได้ทำการยุติการแข่งขัน ได้สอบถามสาเหตุที่ไฟฟ้าดับกับเจ้าหน้าที่ดูแลสนาม ได้ทำการแจ้งว่าเกิดจากไฟกระชาก ทำให้ระบบการจ่ายไฟไม่ครบสามเฟส เนื่องจากไฟฟ้าตก เพื่อที่จะทำการแก้ไขโดยเปลี่ยนไปใช้การจ่ายไฟจากรถปั่นไฟที่เตรียมสแตนบายไว้ ตรวจสอบพบว่าสายไฟของเครื่องปั่นไฟโดนตัด จึงไม่สามารถจ่ายไฟทดแทนไฟปกติได้ จึงทำให้ไม่สามารถแก้ไขได้ จนเกินเวลา 60 นาท
ผลพิจารณา
คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาทฯ พิจารณาจากรายงานผู้ควบคุมการแข่งขัน แล้วเห็นว่า กรณีไฟฟ้าส่องสนามขัดข้อง ไม่สามารถแก้ไขได้ทันเป็นระยะเวลารวมกันทั้งหมดเกินกว่า 60 นาที และ กรณีสายไฟของเครื่องปั่นไฟฟ้าสำรองโดนตัดนั้น การตีความว่าเหตุใดจะเป็นสุดวิสัยนั้น จะต้องเป็นเหตุใด ๆ อันจะเกิดขึ้นก็ดี จะให้ผลพิบัติก็ดี เป็นเหตุที่ไม่อาจป้องกันได้ แต่ทั้งสองกรณี เป็นความรับผิดชอบของทีมเหย้าที่ต้องตรวจสอบและระมัดระวังเพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นก่อนการแข่งขัน และต้องเตรียมมีเจ้าหน้าที่เทคนิคที่มีความชำนาญคอยดูแลอยู่ด้วย ทั้งสองกรณีจึงถือว่าไม่ใช่เหตุสุดวิสัย
1) ลงโทษสโมสรฟุตบอลราชนาวี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.1.10 (2) ให้ปรับสโมสรฟุตบอลราชนาวี แพ้ สโมสรฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี ประกอบกับบทที่ 3 ของระเบียบดังกล่าว ข้อความว่า “ข้อกำหนดบทลงโทษเรื่องการปรับแพ้ ให้ปรับทีมนั้นเป็นแพ้ โดยให้นับประตูเสียตามที่เสียจริง หากเสียน้อยกว่า 3 ประตู ให้นับประตูเสียเป็น 3 ประตู ส่วนประตูได้ให้ปรับเป็น 0 ประตู” จึงลงโทษปรับสโมสรฟุตบอลราชนาวี แพ้ สโมสรฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี 0 ประตูต่อ 3
2) ลงโทษสโมสรฟุตบอลราชนาวี เครื่องปั่นไฟฟ้าสำรองไม่สามารถใช้การได้ โดยไม่ใช่เหตุสุดวิสัย มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.1.9 ปรับเงิน 16,666 บาท