การเปลี่ยนแปลงโค้ช สองครั้งระหว่างฤดูกาล กลายเป็นภาพจำของ บีจีปทุมยูไนเต็ด อีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้ทำมาบ่อยจนแฟนบอลชินชา ก่อนจะประสบความสำเร็จ
หลังจากที่ไม่ชนะในลีกติดต่อกัน 5 นัด บีจีปทุมยูไนเต็ด ก็ตัดสินใจ ปลด ดุสิต เฉลิมแสน ออกจากตำแหน่งเฮดโค้ช พร้อมดัน ผู้อำนวยการสโมสรอย่าง สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ เข้ามารักษาการแทน
พลันที่มีข่าวยืนยันทางการจากสโมสร ก็มีคอมเมนต์จากแฟนบอลมากมาย ในเชิงไม่ดี ทั้ง วนลูปบ้าง, ปลด ออเรลิโอ วิดมาร์ ทำไม, บีจี กลับสู่ วัฏจักรเดิม และอีกหลากหลายคอมเมนต์ ที่เกิดขึ้นในโซเชียล
คำถามคือ บีจี ผิดอะไร มันเกิดอะไรขึ้นกับสโมสรแห่งนี้ พวกเขา เกาไม่ถูกที่คัน หรือ ติดกระดุม ผิดเม็ด
ย้อนกลับไปในวันที่ ธนาคารกรุงไทย ได้แปรเปลี่ยนมาเป็นสโมสร บางกอกกล๊าส เอฟซี ส่งต่อถึง บีจี นี่คือสโมสรที่สวิงไปมา มากที่สุดทีมหนึ่ง เส้นทางกว่าจะมาถึงวันนี้ มีทั้งความสำเร็จ การล้มลุกคลุกคลาน และอีกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นการตกชั้น การเลื่อนชั้น การคว้าแชมป์บอลถ้วย และการคว้าแชมป์บอลลีก และตอนนี้ทีมได้ถูกยกระดับเป็นทีมที่ใหญ่ เต็มตัว กับการทุ่มเงินก้อนโต คว้าตัวนักเตะชื่อดัง ทั้งไทยและเทศมาเสริมทัพ
และสุดท้ายทีมก็กลับมาเป็นแบบเดิมอีกครั้ง และเราต้องมาย้อนว่า บีจี ควรแก้ไขตรงไหน เพื่อเดินหน้าต่อ และเป็นทีมใหญ่ ที่ยืนระยะ ไม่ใช่กลับไปเป็นทีมกลางตาราง หรือต้องหนีตกชั้นอีกครั้ง
การเสริมทัพตลอดสองปีที่ผ่านมา ของ บีจีปทุมยูไนเต็ด สร้างความฮือฮา ได้เป็นอย่างมาก ทั้งการได้ตัวนักเตะอย่าง อันเดรส ตูเญซ, วิคเตอร์ การ์โดโซ, สารัช อยู่เย็น, ธีรศิลป์ แดงดา รวมถึงล่าสุดอย่าง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ
แต่สุดท้าย ผลงานในลีกของทีมกลับย่ำแย่ จนส่อแววโบกมือลาการลุ้นแชมป์ไปอย่างรวดเร็ว
สำหรับ บีจี นี่ถือเป็นหนึ่งในทีมที่น่ายกย่อง ในการยกระดับหลังบ้านสโมสร มีสนามแข่งขันที่ได้มาตรฐาน สนามซ้อม รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆที่ครบครัน พร้อมด้วยการบริหารจัดการต่างๆ ที่ไม่เคยมีข่าวว่าค้างค่าเหนื่อยนักเตะที่ต้องยกย่อง
แต่ผลงานในสนาม คือคำตอบ กับการวางรากฐาน ณ ปัจจุบัน สิ่งหนึ่งที่เห็นภาพได้ชัดของความล้มเหลวของ บีจี คือเรื่องของ อคาเดมี และแนวทางในสนาม
ถามย้อนกลับไปว่า ณ ตอนนี้ มีเด็กอคาเดมีที่บีจี ปลุกปั้นมาอย่างยาวนานและยืนระยะจนก้าวไปติดทีมชาติไทย มีจำนวนกี่คน คำตอบ คือ ศูนย์ ในขณะทีทีมอื่น ต่างมีการสร้างเด็กขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ชลบุรี มี วรชิต, กฤษดา, และอีกมากมายในรุ่นก่อนหน้านี้ รวมถึงหลังจากนี้ บุรีรัมย์ มีสองพี่น้อง สุภโชค, ศุภณัฏฐ์, เชียงราย มีเอกนิษฐ์, เมืองทอง มี จากเจเอ็มจี หลายคน ที่โตขึ้นมา รวมถึงรุ่นใหม่ที่กำลังก้าวขึ้นมาจากโรงเรียนโพธินิมิตร
แต่บีจี กลับไม่มีใครเลย อย่าง บดินทร์ ก็โตมาจาก วัดสุทธิวราราม, ธนาสิทธิ์ ศิริผลา ที่มาตอนวัยรุ่นตอนปลาย หรือ นักเตะรุ่นแรกจากอคาเดมี ของบีจี อย่าง ศิวกร แสงวงค์ เคยติดทีมชาติรุ่นเยาวชน แต่ก็เริ่มหาย หรือรุ่นใหม่อย่าง ตะวัน โคตรสุโพธ์ และ พงศ์รวิช จันทวงศ์ ก็ยังต้องรอเวลา เป็นเครื่องพิสูจน์
นอกจากนี้แนวทางล่ะ สโมสรจะเดินหน้าไปทางไหน เล่นเกมรุกหรือเกมรับอะไร บางปี เปลี่ยนมาเล่น หลัง 3 บางที หลัง 4 จะโจมตีด้านข้างหรือตรงกลาง สไตล์การเล่นของฟุตบอลเปลี่ยนไปตามผู้ฝึกสอนที่เข้ามา เมื่อคุณเปลี่ยนระบบ การพัฒนาเด็กในอคาเดมี สุดท้ายมันก็ยากที่จะสอดแทรก ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่
สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ บีจีปทุมยูไนเต็ด คือทีมที่มีเงิน มีการบริหารที่ดี นั่นคือเชือกเส้นหนึ่งที่พวกเขาคลายได้ดีมาตลอด แต่ปมที่ติดอยู่ตอนนี้คือแนวทาง และ การสร้างรากฐานสู่อนาคตระยะยาว พวกเขาจะแก้ไขปมนี้ได้เมื่อไหร่ และบางทีนี่อาจจะเป็นปมสำคัญ ที่บีจี สามารถพูดได้ว่าพวกเขาคือทีมใหญ่ ในไทยลีกอย่างเต็มตัว