อเล็กซ์ ชอล์ค ตื้นเต้นที่จะได้ดวล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอดทีมระดับโลกในรอบรองฯชิงแชมป์สโมสรโลก
อเล็กซ์ ชอล์ค แข้ง อูราวะ เรด ไดมอนส์ เผยหลังเกมเอาชนะ “คลับ เลออน” 1-0 ในศึกชิงแชมป์สโมสรโลก รอบที่ 2 เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา พร้อมผ่านเข้าไปเจอกับ “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” แชมป์ยุโรป
“มันเป็นความรู้สึกที่สุดยอดมากๆ ครับ แบบว่าไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ มันเหมือนฝันเลยจริงๆ ก็อย่างที่กุนซือ (มาเชียจ สคอร์ซ่า) พูดเอาไว้ครับ (ฟีฟ่า)คลับ เวิลด์คัพ เป็นรายการที่ครั้งนึงในชีวิตนักเตะจะได้สัมผัส การที่นักเตะคนนึงได้ลงไปทำผลงานนั้นเป็นดั่งฝันสำหรับพวกเขาเลยก็ว่าได้”
“ตอนอยู่บนม้านั่งสำรองโค้ชสคอร์ซ่าถามผมว่าจะสามารถลงสนามไปเติมความสดให้เกมได้หรือไม่ ซึ่งผมก็คิดว่าหลายๆ เกมในลีกญี่ปุ่นที่ผ่านมาผมสามารถลงไปเติมความสดให้ทีมได้ครับ ดังนั้นกุนซือจึงตัดสินใจส่งผมลงสนามเพื่อช่วยทีม มันคือความรู้สึกตั้งแต่ตอนวอร์มอัพครับที่ผมรู้สึกว่าวันนี้ผมจะต้องช่วยทีมได้อย่างแน่นอน ซึ่งมันก็เกิดขึ้นจริงๆ ด้วย, ต้องขอบคุณลูกจ่ายจาก (โฆเซ่)คานเต้ ที่ส่งมาได้อย่างยอดเยี่ยมและนั่นก็ทำให้ประตูนี้เกิดขึ้นครับ”
“บอลจากแนวหลังของ (อเล็กซานเดอร์)โชลซ์ ทำได้ดี จึงทำให้คานเต้สามารถสร้างสรรค์โอกาสจนมาถึงผมได้และมีพื้นที่มีเวลามากพอที่จะแต่งบอลได้เพื่อลุ้นประตู มันเป็นส่วนหนึ่งที่พวกเรานั้นฝึกซ้อมกันมาในทุกๆ วัน ซึ่งนั่นทำให้พวกเราได้ประตูนี้มา”
“แฟนๆ ของพวกเราเดินทางมาหมื่นกิโลเมตรเพื่อมาให้กำลังใจพวกเราที่ข้างสนาม ผมว่ามันน่าเหลือเชื่อมากๆ ที่พวกเดินทางมาไกลขนาดนี้และมากมายขนาดนี้เพื่อมาเชียร์พวกเรา ซึ่งผมก็ดีใจมากๆ ที่ได้มีโอกาสมอบชัยชนะกลับไปให้กับพวกเขาที่พยายามอย่างหนักเพื่อเรา, และเกมหน้ากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเราก็จะสู้ไปพร้อมกันเช่นกัน”
“เกมต่อไปจะเป็นเกมที่พวกเราจะต้องดวลกับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆ ที่สโมสรอุราวะ เรดส์ จะได้มีโอกาสลงสนามเจอกับทีมที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้, ทั้งนี้ทั้งนั้น มันอาจจะไม่ใช่เกมที่ยอดเยี่ยมของพวกเราหากไม่ใช่วันของเราและเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดสำหรับคู่ต่อสู้ แต่พวกเราก็อยากจะพยายามอย่างเต็มที่ให้ได้ เพราะเกมหนึ่งเกมอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน”
“มันคือเกมที่ประเทศญี่ปุ่นทุกคน รวมไปถึงนักเตะญี่ปุ่นทุกคนต่างให้การจดจ้องกับเกมนี้ ดังนั้นผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เป็นหนึ่งในตัวแทนประเทศญี่ปุ่นในการลงสนามเกมนี้”