อุทัย บุญเหมาะ ไม่ได้สนใจ คู่ต่อสู้ว่าอาจจะต้องตกชั้นครั้งแรก เพราะ เมืองทอง ยูไนเต็ด เองก็ต้องโฟกัสตัวเองเพื่อขยับอันดับ
อุทัย บุญเหมาะ ไม่ได้โฟกัส เรื่องว่าคู่ต่อสู้อาจจะต้องตกชั้นเป็นครั้งแรก เพราะเมืองทอง ยูไนเต็ด ต้องโฟกัสตัวเองเป็นหลักเพื่อขยับอันดับ
เมืองทอง ต้องเจอกับ ชลบุรี เอฟซี ซึ่งหากชนะ ก็จะทำให้ฝ่ายหลังตกชั้นทันที
“เราไม่ได้ตั้งใจโฟกัสเรื่องคู่ต่อสู้ เราพยายามทำสองเกมของตัวเองให้ดี เราการันตีท็อป 5 แน่นอนแล้ว ส่วนเกมนี้เราจะแสดงความเป็นมืออาชีพรักษามาตรฐานของทีม ชัยชนะสำคัญกับเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเรา สถานการณ์ของชลบุรี คือวิถีของฟุตบอล สถิติก็เป็นเรื่องอดีต การเจอกันรู้สึกว่าเป็นเกมที่ยาก ในสถานการณ์ของเขา ก็ต้องการเก็บแต้มเพื่ออยู่รอด ส่วนเราก็ต้องทำคะแนนเพื่อขยับอันดับขึ้นไป เกมนี้เป็นเกมที่ยาก จะเป็นเกมสุดท้ายที่เมืองทอง จะเจอชลบุรี หรือไม่ มันไม่ใช่เรื่องที่เรากังวล เรากังวลแค่ผลการแข่งขันของเรา ว่าเราต้องทำให้ได้ตามต้องการ” โค้ชอุทัย กล่าว
“ชลบุรี เป็นทีมที่มีอนาคตตั้งแต่ปีที่แล้วใช้นักเตะดาวรุ่ง เลกแรกเราก็แพ้เขามา เกมนั้น เขาทำได้ดี ผมยังคิดว่าเขาจะไม่ตกชั้น แต่เลกสองเกิดอะไรขึ้นผมไม่รู้ การขาดตัวหลักหรือการเสริมทัพ อาจจะไม่เพียงพอหรือไม่ น่าจะเป็นประเด็นหลัก ฟุตบอลการเสริมตัวในเลกสองมันสำคัญ อย่างเราในเลกสองก็พยุงและรักษามาตรฐาน จนมาอยู่ตรงนี้ได้ ชลบุรี เราก้าวก้ายไม่ได้ แต่มองว่าการเสริมทัพเลกสองอาจจะไม่เยอะเท่าไหร่ และไมได้ยกระดับทีมขึ้นมา”
“สำหรับ พอพพ์ เรายังมีสัญญากับทีมอีกปี ส่วนสถาพร ก็ผลงานโอเค ก็อยู่รายละเอียดที่ต้องพูดคุยว่าจะตกลงกันอย่างไรก็ได้คุยต่อเนื่องก้คิดว่าเขาสนใจจะอยู่กับเราต่อก็เป็นเรื่องที่ดีถ้าเขาจะอยู่ต่อ และมีโอกาสสูง อยู่ที่ผู้บริหาร การทำงานโค้ชคู่ยังไม่มีรายละเอียดต้องคุยกันอีกที หรือจะเพิ่มโครงสร้างต่อไป ก็ต้องรอจบฤดูกาล มันมีเรื่องตำแหน่งผู้ฝึกสอนที่ผู้บริหารต้องพิจารณา”
“ส่วนเจริญศักดิ์ เราพยายามสร้างนักบอลขึ้นมาให้เขาไปต่างแดน ถ้าเขามีโอกาสไปก็เป็นสิ่งที่ดี อย่างทีเราเคยส่ง ธ๊รศิลป์, ธีราทร หรือหลายคน และเอกนิษฐ์ ทีมเรามีนโยบาย ส่งนักเตะไปยกระดับฟุตบอลไทย และยกระดับนักฟุตบอลก็เป็นโอกาส มีโอกาสย้ายหรือไม่ก็อยู่ที่ข้อเสนอ และการพิจารณาของผู้บริหาร”
“เกมนี้ต้องเตะสนามศุภฯ ถ้ามองธุรกิจก็เป็นอีกช่องทาง และความขลังที่สนามแห่งนี้ ที่ผ่านมาไม่มีฟุตบอลมาเตะที่นี่นาน การมีไทยลีกไปเล่นใจกลางเมืองก็เป็นอีกมิติ ที่ผ่านมาฟุตบอลไทยเตะสนามศุภฯเยอะ แต่ช่วงหลังไมได้ใช้ พอมีโอกาส นักฟุตบอลก็จะมีความภาคภูมิใจที่ได้เล่นสนามที่มีมนต์ขลัง คิดว่าไม่น่ามีปัญหากับเราก็ต้องขอโทษแฟนบอลที่เราต้องย้ายไป การมีธุรกิจเข้ามาก็เป็นอีกปัจจัยที่สโมสรต้องหลีกเลี่ยง ผมคิดว่ามันไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไรก็ถือว่านักฟุตบอลน่าจะภาคภูมิใจที่ได้เตะที่นี่”