ข่าวฟุตบอลอิสสระ ศรีทะโร : เส้นทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน
buaksib sport news
อิสสระ ศรีทะโร

หากพูดถึง ทีมที่สร้างผลงานได้เซอร์ไพรส์ ในไทยลีกมากที่สุด ในช่วงที่ผ่านมา คงหนีไม่พ้น พีที ประจวบ เอฟซี และเครดิตส่วนหนึ่งก็ต้องยกให้กับ เฮดโค้ชอย่าง อิสสระ ศรีทะโร

ในช่วงก่อนหน้านี้ พีที ประจวบ เอฟซี กลายเป็นอีกทีมร่วมกับเชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที๋โดนกาหัวว่าจะต้องโบกมือลา ฟุตบอลลีกสูงสุดในปีนี้ ยิ่งโดนเฉพาะการเปลี่ยนโค้ชมาเป็น อิสสระ ศรีทะโร

หนึ่งในโค้ชชาวไทยที่ถูกวิจารณ์มากที่สุด

นี่คือหนึ่งในโค้ชชาวไทยที่ถูกวิจารณ์ และโจมตี มากที่สุด ตลอดช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะผลงานการคุมทีมชาติไทยชุดเยาวชน

โดยผลงานชิ้นโบว์แดงของเขา ทีเกือบจะพาทีมชาติไทย ไปฟุตบอลเยาวชนโลก แทบจะถูกลืมไปโดนพลัน ทันทีที่ เขาพาทีมชาติไทย U19 ตกรอบแบ่งกลุ่มชิงแชมป์อาเซียน รวมถึง ตกรอบแบ่งกลุ่มในศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ทีกัมพูชา

และหลังจากนั้นกับบทบาทการเป็นผู้ช่วยอากิระ นิชิโนะ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเองก็ถูกวิจารณ์อย่างหนักเช่นกัน จนสุดท้าย นิชิโนะ แยกทางไป เขาก็ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งกับประจวบ

แน่นอนว่า การมารับไม้ต่อจากมาซามิ ทากิ ท่ามกลางความกดดัน ที่ต้องอยู่ในโซนแดง ช่วงแรก เสียงวิจารณ์ก็มามากมาย โดยเฉพาะผลงานการพาทีมแพ้ติดต่อกัน และสะกดชัยชนะไม่เป็นเลย

ก่อนที่จะมีจังหวะพลิกเกมเกิดขึ้นเมื่อบุกไปชนะ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ต่อด้วย การบุกชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงที่กำลังร้อนแรงถึงชัยชนะ รวมถึง ยังชนะ ชัยนาท ฮอร์นบิล ในรีโว่ ลีก คัพ

และสัปดาห์ก่อนกับการปลดล็อคชัยชนะในสามอ่าว สเตเดียม ด้วยการเฉือนชนะ รองจ่าฝูง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

“ชัยชนะสี่นัดรวดได้แปรเปลี่ยนสถานะของ พีที ประจวบ เอฟซี”

จากทีมที่ใครก็มองว่าน่าจะตกชั้นเหมือนกับเชียงใหม่ ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมที่ทุกคนต้องจับตาว่าอาจจะเร่งโกยแต้มจนอยู่รอดในไทยลีกได้สำเร็จอีกครั้ง

จากสถานการณ์ปัจจุบัน ที่พวกเขามีแต้มตามหลัง สุพรรณบุรี เอฟซี เพียงแค่ 2 คะแนนเท่านั้น ในขณะที่เหลือเกมการแข่งขันอีก 9 นัด

นี่เป็นบทพิสูจน์ชั้นดี สำหรับโค้ชคนหนึ่ง ที่ถูกเสียงวิจารณ์อย่างหนัก แต่เขาลงมือตอบโต้มันด้วยการทำงานหนัก จนทำให้ประจวบ กลายเป็นทีมทีน่ากลัวอีกครั้ง

เพราะฉะนั้น การให้โอกาส และเวลา คือเรื่องสำคัญ ลองคิดภาพ ในช่วงที่ผ่าน 5 นัด แล้วไม่ชนะใครเลย หากเบื้องบนของสโมสร คิดจะเปลี่ยนโค้ชตอนนั้น ประจวบก็ อาจจะไม่มีโอกาสลุ้นแบบที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ และอาจจะจมโซนแดงอย่างต่อเนื่อง

แน่นอนว่าหลังจากที่ผ่านมรสุม ความท้าทายของ อิสสระ ศรีทะโร ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะยังเหลือเกมการแข่งขันในช่วงโค้งสุดท้ายที่ตัวเขา และประจวบ ต้องทำงานหนักต่อไป เพื่อที่จะพาทีม ต่อพิฆาต ทีมนี้ให้อยู่รอดในไทยลีก ต่อไปอีกฤดูกาล

“ไม่ต้องชมในวันที่ติดลมบน แต่ขอกำลังใจกันในวันที่เจอวิกฤต”

เชือว่าตัวโค้ชอิสสระ เองก็คงไม่อยากได้รับคำชมหรอก และเช่นเดียวกับคนอื่น ที่ยาม พาทีมทำผลงานติดลมบน เขาไม่ต้องการได้รับคำชมอะไรมากมาย เพียงแต่ในวันที่ย่ำแย่ เขาต้องการ กองเชียร์ หรือคนอื่นให้เข้าใจพวกเขา

ไม่ว่าจะโค้ชเตี้ย ที่พูดก่อนหน้านี้ หลังพาชลบุรี เอฟซี ขึ้นรองจ่าฝูง เขาบอกชัดเจนว่า เขาไม่ต้องการคำชม แต่ในวันที่ทีมทำผลงานไม่ดี ขอให้แฟนบอลเข้าใจ และเป็นกำลังใจให้ทีมต่อไป เท่านั้นพอ

ยังมีโค้ชอีกมาก ที่ต้องการโอกาสแบบนี้ และวันนี้ อิสสระ อาจจะเป็นตัวอย่างชั้นดี ว่าในการทำฟุตบอล ทุกอย่างมันมีเวลาของมัน มีวันที่ขึ้นก็ต้องมีวันที่ลง มีวันที่ลงก็ต้องมีวันที่ขึ้น

buaksib sport newsbuaksib sport news