อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ และ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ยืนยันว่าเขาจะพยายามนำประสบการณ์ทั้งหมด มายกระดับนักเตะไทย พร้อมกันนี้ ยังวางแผนที่จะดึงโค้ชไทยมาร่วมเป็นสตาฟฟ์โค้ช เพื่อยกระดับไปด้วยกัน
อากิระ นิชิโนะ เฮดโค้ชทีมชาติไทย กล่าวว่า “ขอบคุณสำหรับโอกาสที่ได้เข้ามาคุมทีมชาติไทยชุดใหญ่ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ผมเองก็ต้องขอฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคนด้วย จากปีที่แล้วอย่างที่ทราบกันว่า ผมได้พาทีมชาติญี่ปุ่นเข้าแข่งขันฟุตบอลโลก หลังจากนั้น 1 ปี ผมก็ได้ทำงานเป็นเบื้องหลังที่ญี่ปุ่น และได้พบกับ นายกสมาคมฯ ผมได้เห็นความตั้งใจของนายกสมาคมฯ และสมาคมฯ ผมจึงยินดีที่จะเข้ามาร่วมงานในครั้งนี้”
“หลังจากที่ผมมีโอกาสชมการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ก็เห็นโอกาสมากมาย ที่จะพัฒนาทีมชาติไทย ทั้งในการแข่งขันฟุตบอลโลก และทีมรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่มีเป้าหมายไปโอลิมปิก แต่ไม่ใช่ผมคนเดียว แต่ต้องเป็นตัวผม สมาคมฯ รวมถึงทุกคน”
“เดือนกันยายนนี้ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกจะเริ่มขึ้นแล้ว แม้เวลาไม่เยอะ แต่จากประสบการณ์ในการเตรียมทีมชาติญี่ปุ่นลุยฟุตบอลโลก ในระยะเวลาอันสั้น ผมมั่นใจว่ามันมีโอกาสทำได้ หลังจากที่ได้เห็นศักยภาพของนักฟุตบอลทีมชาติไทย แน่นอนว่า ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว แต่ผมต้องการความร่วมมือจากสมาคมฯ และแฟนบอล ผมเชื่อว่าหากได้รับความร่วมมือ ทีมชาติไทยก็มีโอกาสที่จะไปฟุตบอลโลก หรือ โอลิมปิก”
“(เป้าหมายในการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ครั้งนี้?)ตอนนี้ก็อาจจะเร็วเกินไปในการตั้งเป้าหมายในระยะยาว เบื้องต้นผมก็ต้องพยายามดูนักเตะ ทำงานทุกวันให้ดีที่สุด ส่วนในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก รอบนี้ ก็หวังจะผ่านรอบนี้ไปให้ได้ เกมแรก ที่จะพบกับเวียดนาม ผมเองก็จะพยายามเอาชนะให้ได้”
“(ระยะเวลาการเตรียมทีมที่สั้นจะเป็นปัญหาหรือไม่ และความแตกต่างระหว่างนักเตะญี่ปุ่นกับนักเตะไทย?) ก่อนหน้าที่ผมจะพาไปฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย กับญี่ปุ่น สื่อญี่ปุ่นก็ถามเขาว่ามีเวลาแค่สองเดือนเพียงพอไหม เพราะฉะนั้น การมีเวลาสิบวันกับทีมชาติไทยในครั้งนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล สำหรับ นักเตะญี่ปุ่นการจะไปฟุตบอลโลก ก็ต้องพัฒนาตัวเอง นักเตะไทยเองก็ต้องยกระดับตัวเองเช่นกัน แม้จะมีเวลาไม่มาก แต่ผมคิดว่านักเตะไทยก็สามารถยกระดับตัวเองขึ้นไปได้”
“จากประสบการณ์ และจากที่ได้เห็นนักฟุตบอลไทยมาแล้ว ผมคิดว่าผมสามารถยกระดับนักฟุตบอลไทยขึ้นไปได้ โดยจะใช้ประสบการณ์จากที่เคยพัฒนานักฟุตบอลญี่ปุ่นมาแล้ว”
“(การวางแผนเรื่องทีมงานสตาฟฟ์โค้ช?) ตอนนี้ผมมาแค่คนเดียว จากที่ได้มาดูการทำงานที่นี่ ก็ได้พบกับ ทีมงานโค้ชของไทยหลายคน ผมเองก็มองเห็นถึงความมุ่งมั่น ผมเองก็พร้อมจะร่วมงานกับโค้ชไทย เพื่อสร้างทีมชาติไทยทั้งระบบขึ้นมา”
“(ทีมชาติไทยอยู่ในระดับไหนในสายตาของนิชิโนะ?) ระหว่างที่เป็นโค้ชทีมชาติญี่ปุ่น ก็เคยมาแข่งขันกับทีมชาติไทย แม้ผมจะเอาชนะไทยไปได้ แต่ผมไม่เคยมองว่ามันเป็นงานที่ง่ายเลย เพราะกว่าจะเอาชนะได้ก็ต้องออกแรงเหนื่อยพอสมควร หลังจากนั้น ผมก็คิดว่าทีมชาติไทยสามารถพัฒนาไปไกลได้มากกว่านี้อีก”
“(เรื่องการดึงสตาฟฟ์จากญี่ปุ่นมาร่วมงานในอนาคต?) ความตั้งใจของผมคือการทำงานร่วมกับโค้ชไทย อยากพัฒนาทีมชาติไทยไปพร้อมกับโค้ชไทย การจะดึงสตาฟฟ์มาในอนาคต แปลว่าพลังของผมไม่พอ แต่ตอนนี้ผมก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดก่อน”
“(ระยะเวลาเตรียมทีมที่ไม่มาก?)ไม่ใช่ผมคนเดียวที่จะสามารถทำได้ ผมเชื่อว่าทีมชาติไทยพัฒนาได้ ต้องอาศัยแรงจากนักเตะ และโค้ชทุกคน ผมเองก็จะเริ่มงานทันที ผมอยากไปดูฟุตบอลไทยให้เร็วที่สุดเพื่อศึกษา โดยจะเริ่มตั้งแต่ เย็นนี้เป็นต้นไปที่จะเดินทางไปดูการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ในการแข่งขันครั้งนี้ สำหรับผมมองว่ามันไม่ยากเกินไป แต่มันก็ไม่เรื่องง่าย การเจอกับทีมในอาเซียน เกือบหมด มันก็เหมือนเป็นการเตรียมทีมก่อนซีเกมส์เลยทีเดียว”
“ในกลุ่มของเรา อาจจะมีข้อได้เปรียบจากกลุ่มอื่น คือไม่ต้องเดินทางมาก ไม่เหนื่อยล้า แต่ก็ไม่ใช่แค่เรา แต่รวมถึงทีมอื่นๆก็เช่นกัน ที่ไม่ต้องเดินทางไกล”
สำหรับ อากิระ นิชิโนะ มีโปรแกรมนำทีมชาติไทยชุดใหญ่และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ลุยศึกสำคัญ ในช่วงหลังจากนี้ประกอบไปด้วย ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ต่อด้วย ฟุตบอลชายในมหกรรมซีเกมส์ และ ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย