อรรณพ สิงห์โตทอง ยืนยันว่า ชลบุรี เอฟซี พร้อมให้โอกาสทุกคนเสมอ หลังจากที่สร้างนักฟุตบอลขึ้นมามากมายในช่วงที่ผ่านมา
เมื่อวันอังคารที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คุณ อรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสร ชลบุรี เอฟซี พร้อมด้วย กฤษดา กาแมน, ฉัตรมงคล เรืองฐนโรจน์, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ และ บุคฆอรี เหล็มดี ได้ร่วมกันเป็นตัวแทน สโมสร ชลบุรี เอฟซี
เดินทางไปร่วม เสวนาในหัวข้อ “การพัฒนาเยาวชนสู่นักกีฬาอาชีพ ในงาน “SUSTAINABILITY EXPO 2022 งานมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งจัดโดย เครื่องดื่มตรา ช้าง
ภายในงานยังมี คุณ ณรงค์วิทย์ อุ่นแสงจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการช้างเผือกโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี, คุณ ชนะวิทย์ ฉายแสง ประธานสโมสรฉะเชิงเทรา ไฮ-เทค เอฟซี และ คุณ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติไทย และผู้รักษาประตู โปลิศ เทโร เอฟซี มาร่วมถ่ายทอดการสร้างเยาวชนสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพจากประสบการณ์จริง
ด้าน คุณ อรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี กล่าวว่า “การให้โอกาสคนมันดีที่สุด เราอยู่ได้สบาย แต่เกิดมาถ้าเรารักสิ่งไหนแล้วสิ่งนั้นสร้างโอกาสให้คนอื่นได้ มันควรค่าที่จะทำ”
“ชลบุรี เอฟซี อคาเดมี่ ไม่ได้มีแค่เด็ก ชลบุรี แต่ส่วนใหญ่เป็นเด็กต่างจังหวัด เขามาเพื่อหาโอกาส ผมพยายามพัฒนาให้เขา แต่อยู่ที่เด็กด้วยว่าพัฒนาดีหรือจะไปได้ไกลแค่ไหน ถ้าไม่ได้เขาอาจเบนเข็มเป็นโค้ชหรือเจ้าหน้าที่ทีม”
“ถ้ารักในฟุตบอล อยากขอให้เต็มที่กับมัน บริสุทธิ์ใจกับฟุตบอลแล้ววันหนึ่งฟุตบอลจะตอบแทนเราเอง”
ส่วน สินทวีชัย หทัยรัตนกุล อดีตผู้รักษาทีมชาติไทย อีก 1 นักเตะที่เติบตัวมาจากรั้ว ชลบุรี เอฟซี อคาเดมี่ ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับผู้เข้าร่วมงานฟังว่า
“ตัวผมเองไม่คิดว่า จะมาถึงวันนี้ ผมเองก็โชคดีด้วย มองย้อนกลับไปผมเล่นฟุตบอลด้วยความสนุก ฟุตบอลคือกีฬาที่ใช้อุปกรณ์น้อย”
“บ้านเกิดผมที่จังหวัดสกลนคร มีบอลแค่ใบเดียวเตะกัน 22 คน ทุกวันหลังเลิกเรียน จนวันหนึ่งผมมีโอกาสชมเกมทีมชาติไทย เห็นเขาร้องเพลงก่อนเริ่มแข่ง ผมรู้สึกอยากเป็นแบบนั้นบ้างเลยเกิดบันดาลใจว่า ถ้ายังเล่นสนุกไปวันๆ ผมคงไปไม่ถึงจุดนั้น ผมต้องพาตัวเองไปอยู่ในสถาบันที่จะสามารถขัดเกลาเราได้”
“ผมมาคัดที่โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา และได้รับ การขัดเกลาพัฒนาตัวเองทุกวัน ที่นี่ไม่ใช่แค่ให้เราเป็นนักฟุตบอลที่ดีขึ้น แต่ปรับการใช้ชีวิตของผมในสังคมด้วย อัสัสมชัญศรีราชา ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยขัดเกลาผม ได้ต่อยอดสู่สโมสรอาชีพ และยังได้ไปเล่นลีกอินโดนีเซีย ด้วย ทุกด้านที่ได้ไปถือเป็นประสบการณ์ ภาพรวมที่ทำให้ผมได้พัฒนาตัวเองถึงทุกวันนี้”
ส่วน กฤษดา กาแมน ผลผลิตจากรั้ว ชลบุรี เอฟซี อคาเดมี่ ยุคใหม่ ดีกรีทีมชาติไทย กล่าวว่า “ผมมาถึงทุกวันนี้ได้ต้องขอบคุณ คุณ อรรณพ ที่ให้โอกาส และให้ผมได้เติบโตขึ้นมา”
“ผมมองว่า ถ้าเราจะทำให้ได้ต้องมีความรักในเส้นทางนี้ก่อน เพราะถ้าไม่รัก เราจะทำมันได้ไม่เต็มที่ แต่ถ้าเรารักฟุตบอลเราจะพร้อมทำทุกอย่างเพื่อไปถึงจุดที่เราฝันไว้”
ปัจจุบันมีเยาวชนเข้าร่วมโครงการกว่า 100,000 คน ตลอดการดำเนินงานด้านกีฬาในแต่ละปีของไทยเบฟ หรือ เครื่องดื่มช้าง ซึ่งก่อเกิดผลสำเร็จต่างๆ และเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพให้กับสังคม