อนุรุทธิ์ นาคาศัย เผยอยากทำ ชัยนาท ฮอร์นบิล ให้เป็นอาแจ็กซ์ เมืองไทย ที่ผลิตแข้งฝีเท้าดีประดับวงการ
หลังจากที่ “เคน” วรินทร จำนงค์วัตร์ แบ็คซ้ายดาวรุ่งทีมชาติไทยชุดยู-23 กำลังทำผลงานได้ดีในยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย มีส่วนช่วยพาทีมเก็บชัยเหนืออิรัก2-0 ในนัดเปิดสนาม ซึ่งเจ้าตัวเป็นผลผลิตจากอคาเดมี่ของทีม “นกใหญ่พิฆาต” ชัยนาท ฮอน์นบิล
ล่าสุด “เฮียรุทธิ์” อนุรุทธิ์ นาคาศัย ประธานสโมสรเผยถึงเรื่องนี้ว่า “เคน” เป็นความภาคภูมิใจของอคาเดมี่ที่เข้ามาฝึกซ้อมเรียนรู้ จนก้าวขึ้นมาเป็นขุมกำลังหลักของทีมตลอด 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา ลงเล่นไปเกือบ 100 นัดแล้วในวัยเพียง 22 ปี อีกทั้งยังได้รับความไว้วางใจให้เป็นรองกัปตันทีมต่อจาก “กัปตันแมน” มงคลชัย คงจำปา อีกด้วย
ในประเด็นที่ว่า วรินทร กำลังตกเป็นเป้าหมายของบิ๊กทีมในไทยลีก “พี่รุด” กล่าวว่านั่นเป็นเรื่องวิถีฟุตบอล หากมองถึงอนาคตของนักเตะ การได้ขึ้นไปเล่นในเวทีใหญ่สุดของเมืองไทย และได้อยู่กับทีมใหญ่ หากได้ลงเล่นต่อเนื่องก็จะช่วยยกระดับฝีเท้าของเจ้าตัวให้พร้อมสำหรับการเลื่อนขั้นขึ้นสู่ทีมชาติชุดใหญ่ต่อไป
ส่วนเรื่องที่แฟนบอล “นกใหญ่” ตั้งคำถามว่าทำไมสโมสรถึงจะยอมปล่อยนักเตะลูกหม้อที่เป็นแกนหลักของทีมออกไปแทนที่จะเก็บไว้สร้างความแข็งแกร่งให้ทีม “พี่รุด” อธิบายว่า
“อยากให้แฟนบอลชัยนาทเข้าใจว่า นโยบายของสโมสรคือการสร้างอคาเดมี่ให้เป็นแถวหน้าของเมืองไทย ผมต้องการให้ทีมเป็นอาแจ็กซ์เมืองไทย เราพัฒนาเยาวชนขึ้นมาได้ต่อเนื่อง และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์มากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ยู16 ของชัยนาทก็มีผลงานที่ยอดเยี่ยมทั้งในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานฯ, กรมพละ และบอล7สี แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาเยาวชนของเรากำลังไปในทิศทางที่ดีแล้ว”
“อคาเดมี่ของชัยนาทหลักๆ ก็จะมีโค้ชเมธ (สุเมธ อยู่โต) และ “โค้ชอ้อน” (อนุสรณ์ ปานสันเทียะ) ดูแลอยู่ ตอนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นโค้ชอ้อนที่ดูแล แต่ก่อนนักฟุตบอลเก่งๆ ทั่วประเทศจะถูกคัดไปอยู่กับรร.ดังๆ ในกรุงเทพฯหรือสโมสรใหญ่ๆ แต่พักหลังมานี้อคาเดมี่ของชัยนาทก็เริ่มเป็นชื่อที่คนกล่าวถึงแล้ว แม้เราอาจจะยังไม่ได้เด็กท็อปๆ ของรุ่นเข้ามา แต่ถึงเป็นเด็กตัวรองๆ ผมก็มั่นใจว่าเราสามารถพัฒนาพวกเขาได้”
“ลองดูอย่างอาแจ็กซ์ ที่เป็นอคาเดมี่ระดับโลก เขาผลิตนักบอลออกมาแต่ละรุ่นเยอะมาก และกระจายตัวไปทั่วยุโรป มีไม่กี่คนที่จะอยู่กับอาแจ็กซ์ตลอดไป ผมเองก็อยากให้อคาเดมี่ชัยนาทผลิตนักบอลที่มีคุณภาพออกมาเพื่อป้อนสู่ระบบฟุตบอลของเมืองไทยให้ได้มากที่สุดเหมือนกัน”
“การซื้อขายนักบอลเป็นกลไกที่ต้องยอมรับว่ามันเป็นเรื่องปกติของวิถีฟุตบอล หากนักฟุตบอลมีโอกาสที่ดีกว่าทั้งเรื่องของคุณภาพของลีก และระดับของทีม รวมถึงความเป็นอยู่ของเจ้าตัวเอง เขาก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับโอกาสนั้น เรื่องนี้ผมยอมรับว่ามี 3 ทีมใหญ่ในไทยลีกติดต่อเข้ามาจริง แต่ในที่สุดจะเป็นทีมใดนั้นก็ขอให้รอติดตามกันต่อไป”