อดิศร พรหมรักษ์ แปลกใจที่ หนองบัว พิชญ เอฟซี ต้องมาอยู่ในโซนหนีตาย เพราะมองว่าทีมมีศักยภาพไม่แพ้ทีมระดับท็อป
อดิศร พรหมรักษ์ แปลกใจที่ หนองบัว พิชญ เอฟซี ต้องมาดิ้นรนหนีการตกชั้น ทั้งที่ทีมมีทุกอย่างพร้อมเทียบกับทีมชั้นนำ
สำหรับ อดิศร เพิ่งย้ายจาก การท่าเรือ เอฟซี มาอยู่กับ หนองบัว ในช่วงก่อนหน้านี้ และได้ซ้อมกับทีมอย่างต่อเนื่อง
“พอผมได้มาซ้อมกับหนองบัว พิชญ สิ่งหนึ่งที่ทำให้แปลกใจคือ ทำไมถึงเป็นทีมที่อยู่ในกลุ่มหนีตกชั้น ทั้งที่ทุกอย่างที่นี่ค่อนข้างจะโอเคในระดับหนึ่งเลย ไม่ต่างกับสโมสรชั้นนำ ศักยภาพ การจัดการระบบต่างๆ น่าจะได้ลุ้นอยู่ในกลุ่มบนด้วยซ้ำ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาก่อนที่ผมจะมาที่นี่มันเป็นแบบนี้หรือเปล่า ณ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวแบบนี้ ผมคิดว่าเราจะทำได้สำเร็จกับภารกิจการเอาตัวรอด ผมไม่รู้ว่าประสบการณ์ขอผมจะช่วยทีมได้มากน้อยขนาดไหน แต่ผมจะทำให้เต็มที่ และดีที่สุด” อดิศร กล่าว
“แม้ว่าก่อนมาที่นี่จะมีข้อเสนอเข้ามาหลายที่แต่ที่ผมเลือก หนองบัว พิชญ เพราะเห็นถึงความแน่วแน่ และทัศนคติของผู้บริหาร แนวทางที่ชัดเจน และรุ่นพี่นักฟุตบอลในทีม ไม่ว่าจะเป็น พี่ไดร์ (ปิยะพล) หลังจากที่ได้พูดคุยแล้ว ทำให้ผมตัดสินใจเลือกที่นี่ แม้ผมจะไม่เคยอยู่กับทีมในสถานการณืแบบนี้มาก่อน แต่ก็เชื่อว่าด้วยความเต็มที่ และเป้าหมายที่ชัดเจนของทีม และทุกคน ผมจะเอาทุกอย่างที่ผมมีมาเดิมพันช่วยทีมให้เต็มที่”
“ตอนนี้ร่างกายของผมกลับมาสมบูรณ์เต็มร้อย แต่ช่วงที่ผ่านมานั้นต้องยอมรับว่าการแข่งขันในทีมท่าเรือค่อนข้างสูง มีนักเตะให้เลือกเยอะ ทำให้โอกาสในการลงสนามค่อนข้างน้อย และผมอยากพิสูจน์ตัวเอง อยากเล่นอยากลงสนาม กระหายที่จะเล่นที่จะช่วยทีม”
“อย่างที่ผมบอก ผมแปลกใจที่หนองบัวฯ เป็นทีมในกลุ่มหนีตกชั้น ทั้งที่ทุกอย่างที่นี่นับว่าลงตัวไม่ได้ต่างกับสโมสรใหญ่ๆ ทั้งการจัดการ รูปแบบการฝึกซ้อม และอะไรต่างๆ ตั้งแต่ผมได้เข้ามาสัมผัส ผมว่าที่นี่ดีเลยล่ะ”
“แรกๆ ผมแอบกังวลกับการที่ต้องออกมาอยู่ไกล แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด ที่หนองบัวฯ กลับใช้ชีวิตได้แบบเรียบง่าย และสะดวก ไม่ต้องไปเร่งรีบ หรือเผื่อเวลาในการเดินทางเหมือนในกรุงเทพฯ ความรู้สึกมันแตกต่างกัน และด้วยความสงบเงียบผมว่ามันทำให้นักฟุตบอลมีสมาธิ และเต็มที่กับการฝึกซ้อม”
.
“ยังไงก็ตาม ผมก็แค่นักฟุตบอลธรรมดาคนหนึ่ง ผมดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ ผมมักจะบอกกับทุกคน หรือเยาวชนในทีม ผมคือส่วนหนึ่งของทุกคน หากประสบการณ์ที่ผ่านมาของผมจะช่วยถ่ายทอด หรือ ช่วยทุกคนในทีมได้ ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี และผมก็ขอฝากเนื้อฝากตัวกับแฟนบอลหนองบัวฯ และขอบคุณกับการต้อนรับที่อบอุ่น ผมจะเต็มที่และทุ่มสุดตัวเพื่อทีม”