ห้ามท้อกับสิ่งที่ฝัน! เปิดใจ “วรวุฒิ” มือกาวท่าเรือ หลังมีชื่อติดทีมชาติ

นายด่านทีมชาติไทย เผยถึงแรงบันดาลใจในการก้าวมาติดทีมชาติ ว่าเขามักบอกกับตัวเสมอว่าต้องสู้ เพราะหากไม่สู้ก็จะแพ้ทันที

วรวุฒิ ศรีสุภา ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ผู้รักษาประตูจากสโมสรการท่าเรือ เอฟซี มีชื่อถูกเรียกติดทีมชาติในเกมอุ่นเครื่อง FIFA International ‘A’ Match ในช่วงเดือนตุลาคม ทั้งสองนัดที่จะไปเยือน ฮ่องกง และพบกับ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก

“รู้สึกดีใจ เพราะนี่เป็นครั้งแรกของฟุตบอลอาชีพของผม ความรู้สึกตอนนี้มันมั่วไปหมด ทั้งดีใจ ตื่นเต้น และท้าทายกับการที่จะได้เข้าไปอยู่ในแคมป์ทีมชาติไทย”

“สาเหตุสำคัญสำหรับตัวผม เป็นเพราะว่า ปีนี้ผมมีความตั้งใจและมุ่งมั่น ผมบอกกับตัวเองเสมอว่า เวลาลงซ้อมหรือลงแข่ง จะต้องทำเต็มที่ เต็มร้อยเสมอ ทำให้ดีที่สุด ถ้าใครแนะนำมา ผมรับฟังเสมอ และนำมันมาปรับเปลี่ยนกับชีวิตให้ออกมาดีที่สุด”

“ตอนต้นปีที่มีข่าวผมกับทีมชาติ ผมดีใจนะ ที่มีชื่อเข้าไปในสมาคมฯ ผมก็ดีใจ ก็ถือว่าสำเร็จส่วนหนึ่ง ที่มีชื่อเข้าไป แต่พอไม่ติดก็ไม่ได้เสียใจ เราบอกตัวเองว่าสักวันต้องเป็นวันของผม และห้ามท้อกับสิ่งที่ฝัน เพราะว่านี่คือฝันของเรา เราต้องตั้งใจ”

“ถ้าในฟุตบอล มันก็มีช่วงที่ไม่ได้ลงแข่งหรือลงเล่นเลย แต่ผมก็ต้องพยายามสู้กับตัวเราเอง คุยกับตัวเอง ว่าเราต้องตั้งใจ และผ่านไปให้ได้ ถ้าเราท้อหรือไม่สู้ ถ้าเราไม่สู้ก็เท่ากับแพ้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องสู้อย่างเดียว”

“ผมฝันมาตั้งแต่เป็นนักฟุตบอลอาชีพ จุดสูงสุดทุกคนคือการรับใช้ชาติ อยากมีธงติดที่หน้าอก มีชื่อของเราปักข้างหลัง ในประเทศไทยมันมีนักฟุตบอลเป็นพันเป็นหมื่นคน เราได้เป็นตัวแทนมันก็เป็นความภาคภูมิใจ ซึ่งการได้เข้าไปซ้อมก็ถือเป็นประสบการณ์สูงที่สุดในชีวิตนักฟุตบอล”

“ผมอยากบอกขอบคุณตัวเอง ที่สู้ในทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกวินาที ที่ทำงาน คืออยากขอบคุณที่ตั้งใจ สู้กับตัวเอง จนมาถึงวันนี้ มาถึงจุดที่เราต้องการ จุดที่เราฝัน เราก็จะสู้ไปด้วยกันต่อไป”

“ผมอยากขอบคุณครอบครัวที่ให้ชีวิตแก่ผม แม่ ครอบครัว โค้ช ที่ฝึกฝนผมมาตั้งแต่เด็ก ชีวิตผมก็มีคนฝึกสอน แนะนำ ช่วยเหลือตลอด คนที่อยู่ข้างๆ ทุกคน ที่คอยให้กำลังใจ ขอบคุณแฟนที่คอยให้กำลังใจในวันที่เราท้อ หรือรู้สึกหมดแรง ที่คอยช่วยกระตุ้น รวมถึงทุกคนที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้กับเรา ที่ทำให้เราสู้ในทุกวัน”

สำหรับ ทีมชาติไทย จะพบกับฮ่องกง ในวันที่ 11 ตุลาคม 2561 เวลา 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ก่อนจะกลับมาฟาดแข้งกับ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก ในวันที่ 14 ตุลาคม 2561 เวลา 18.00 น. ณ สนามกีฬากลาง จังหวัดสุพรรณบุรี จำหน่ายบัตรที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ https://bit.ly/Thelastsave โดยทั้ง 2 คู่ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวี

ขอบคุณ ฟุตบอลทีมชาติไทย