หลอเรดาร์ ภูมิใจได้เห็น พิชญะ คงศรี หลานชายรับใช้ทัพช้างศึก U17
รู้จัก พิชญะ คงศรี กองกลางทีมชาติไทย U17 ชุดลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ กับภารกิจล่าตั๋วฟุตบอลเยาวชนโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี
ช้างศึก U17 ภายใต้การนำของ “โค้ชกบ” พิภพ อ่อนโม้ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ได้ทำการเลือก 23 นักเตะ เพื่อทำศึกสำคัญ ซึ่งแต่ละคนมีดีกรี และเส้นทางลูกหนังที่น่าสนใจ แตกต่างกัน
มาต่อกันที่ตำแหน่งกองกลางตัวรุก ที่หลายคนเมื่อได้เห็นนามสกุลแล้วอาจจะรู้สึกสนใจเล็กน้อย สำหรับ พิชญะ คงศรี หลานชายคนเดียวของ พิชัย คงศรี หรือดีตกองหน้าทีมชาติไทย เจ้าของฉายา “หลอ เรดาร์”
สำหรับ พิชญะ หรือ “กาก้า” เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่จำความได้ ตอนอายุ 2 ขวบ เนื่องจากคุณตา หรือ หลอ เรดาร์ ซึ่งในเวลานั้น ได้แขวนสตั๊ดไปแล้ว มักจะหนีบตัวหลานชายคนนี้ ไปสอนฟุตบอลตามชนบท ด้วยความรู้ของเขาสมัยค้าแข้ง
“กาก้า เป็นหลานชายคนเดียวของผม ตอนนั้นตัวผมก็สอนฟุตบอลชนบท ก็มีหลายคนนี้แหละที่มาอยู่กับเรา และเราก็ต้องสอนฟุตบอลไปด้วย เราก็หนีบเขาไปแทบจะทุกที่ ที่เราไปตามชนบทต่างๆ และเราก็เห็นเขาเตะฟุตบอล และถนัดขาซ้ายด้วย เราก็เลยพยายามสอนเขามาตลอดในช่วงเวลานั้น แต่ก็ไม่ได้สอนอะไรมากมาย ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องเบสิคพื้นฐาน เลี้ยง ส่ง โหม่ง ยิง แค่นั้น ซึ่งเชื่อว่ามันเป็นพื้นฐานเบื้องต้นที่เหมาะสมสำหรับตัวเขา”
ตลอดระยะเวลา 5 ปี กาก้า เลยได้ฝึกซ้อมบ้าง เป็นตุ๊กตา ตอนที่คุณตาสอนบอลบ้าง จนมาอายุ 7 ขวบ ก็ถูกส่งไปเข้าอคาเดมี ชื่อดังย่านงามวงศ์วาน อย่าง PSW Academy ของ มาสเซอร์เด่น พิศาล รำไร
หลังจากนั้นตลอดระยะเวลา 5 ปี จนอายุ 12 ขวบ คุณตา และคุณยาย ก็สนับสนุนตัวเขาอย่างเต็มที่ ขับรถไปส่งโรงเรียน เรียนเสร็จก็ส่งไปซ้อมฟุตบอลที่อคาเดมี ขับรถไปกลับ 2-3 ชั่วโมง
หลังจากนั้นตัวเขาก็ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติไทยครั้งแรกในรุ่น U12 กับศึกโตโยต้า ที่ได้ไปไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น และถือเป็นครั้งแรกของตัวเขาในนามทีมชาติไทย
“ตอนแรก ผมก็กังวลนะ กับการที่หลานได้ติดทีมชาติไทย U12 เพราะแน่นอนว่าเมื่อเขาติด พอเห็นนามสกุลแล้ว หลายคนก็คงคิดว่า ไอ้หลอ เนี่ยไปเส้น ไปฝาก แต่เราก็พยายามสอนหลานนะ ว่าเราต้องแสดงคุณภาพของเราออกมา และมีระเบียบวินัย ที่ดี พยายามทำผลงานให้ดี ทั้งในและนอกสนาม” หลอเรดาร์ กล่าวเสริม
หลังจากนั้น ตัวเขาก็ได้เข้าสู่รั้วของ ฟุตบอลระดับโรงเรียน หลังได้เข้าไปศึกษาต่อที่ โรงเรียน กรุงเทพคริสเตียน จนถูก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ดึงตัวไปร่วมทีม และได้มีชื่อติดทีมชาติไทย U17 ในศึกชิงแชมป์เอเชีย ครั้งนี้
“มันเป็นความภาคภูมิใจของตาเหมือนนะ สำหรับเจ้าก้า คือเราเองก็อยากให้เขาประสบความสำเร็จในชีวิต และเมื่อเขาเลือกมาเป็นนักฟุตบอลแล้ว ผมก็อยากให้เขาไปได้ไกลกว่าตัวผม การติดทีมชาติไทย U17 ก็ถือว่าดี แต่ผมอยากให้เขาไปได้ไกลีอก ไม่ว่าจะเป็นการได้เล่นในไทยลีก การได้ติดทีมชาติชุดใหญ่ในอนาคต เพราะฟุตบอลสมัยนี้ กับสมัยของผม มันแตกต่างกันเยอะมาก ยิ่งตอนนี้มันเป็นในรูปแบบของธุรกิจแล้ว เราในฐานะคุณตา ก็อยากเห็นหลานมีชีวิตที่ดี ไม่ลำบาก และสามารถเลี้ยงดูครอบครัวของเขาได้”
“ที่ผ่านมาก็พยายามสอนเขาเรื่องทัศนคติ และพยายามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข เพราะมันคืออุปสรรคที่จะทำให้เขาไม่ประสบความสำเร็จ เพราะชีวิตผมเองก็เคยผ่านมาแล้ว แต่สุดท้ายมันก็อยู่ที่ตัวเขาแหละ สังคมสมัยนี้กับสมัยก่อนมันแตกต่างกันเยอะ แต่เขาก็รับปากนะว่าเขาจะทำให้ตา และ ยาย ภูมิใจในตัวเขา”
ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ครั้งนี้ เขาคือหนึ่งในตัวเลือกสำคัญ ของ “โค้ชกบ” พิภพ อ่อนโม้ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ในตำแหน่งจอมทัพ กับการพาทัพช้างศึกไล่ล่าความสำเร็จ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือตั๋วฟุตบอลเยาวชนโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี