วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 11.30 น. ณ ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ สมาคมฯ ร่วมกับ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มให้พลังงาน M-150 มอบทุนการศึกษาการอบรมผู้ฝึกสอนหลักสูตร AFC “Pro” Diploma Coaching Course จำนวน 500,000 บาท ให้กับ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดใหญ่
ภายในงานนำโดย พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ พร้อมด้วย คุณ สุทิพา ปัญญามหาทรัพย์ Chief Marketing Officer บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) และ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่สร้างประวัติศาสตร์ ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ของการแข่งขันฟุตบอลเอเชียน คัพ 2019 เป็นครั้งแรก ในรอบ 47 ปี
ในอดีต “โค้ชโต่ย” ถือเป็นบุคลากรที่มีความผูกพันธ์กับ โอสถสภา ตั้งแต่เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับสโมสร โอสถสภา เป็นระยะเวลา 12 ปี จากนั้นได้ผันตัวเองมาทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน, ผู้ฝึกสอน และดูแลเยาวชนให้กับทีม เป็นระยะเวลา 17 ปี ปัจจุบัน ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กำลังอยู่ระหว่างเข้าอบรมผู้ฝึกสอนหลักสูตร AFC “Pro” Diploma Coaching Course
โดย พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า “ในนามสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ รู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นหนึ่งในการผลักดันชีวิตการเป็นผู้ฝึกสอนของ คุณ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หรือ โค้ชโต่ย”
“สำหรับสมาคมฯ มีนโยบายสำคัญ คือการมุ่งเน้นผลิตบุคลากรในวงการฟุตบอลให้มีคุณภาพ สำหรับ “โค้ชโต่ย” คือบุคลากรที่สมาคมฯ เลือกให้เข้ามาดูแลทีมชาติไทยชุดใหญ่ ในช่วงเวลาสำคัญ จนสามารถรวมใจและดึงศักยภาพของนักเตะไทยออกมาได้ทันเวลา จนพาทีมชาติไทยผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ ในการแข่งขันฟุตบอลเอเชียน คัพ 2019 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้สำเร็จ เป็นครั้งแรกในรอบ 47 ปี”
“สำหรับการอบรมหลักสูตร AFC “Pro” License ถือเป็นหลักสูตรที่สำคัญในการเป็นโค้ชระดับสูง เพื่อยืนยันถึงศักยภาพของการเป็นโค้ช นี่จึงเป็นโอกาสและจังหวะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ คุณ ศิริศักดิ์ ในการที่จะเข้าร่วมอบรมครั้งนี้”
“วันนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีมากที่คุณ ศิริศักดิ์ จะได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเข้าอบรมหลักสูตรนี้จากทางเครื่องดื่ม M-150 ซึ่งผมในฐานะนายกสมาคมฯ มีความยินดีที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบโอกาสครั้งนี้ให้กับ “โค้ชโต่ย” ได้เดินหน้าต่อไป เพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้และศักยภาพในการเป็นผู้ฝึกสอนฟุตบอลระดับสูงของสมาคมฯ ต่อไป”
ด้าน คุณ สุทิพา ปัญญามหาทรัพย์ Chief Marketing Officer บริษัท โอสถสภา จำกัด กล่าวว่า “ในนามของบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเครื่องดื่ม M-150 รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมาอยู่ ณ จุดนี้ เพื่อส่งเสริมและต่อยอดความสำเร็จของฟุตบอลไทย ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญ”
“สำหรับโอสถสภา กับ โค้ชโต่ย ต้องขออนุญาตเรียนว่าเรามีความผูกพันกันมากว่า 30 ปี ถ้าย้อนไปจะพบว่า โค้ชโต่ย หรือ คุณ ศิริศักดิ์ ผ่านการเล่นฟุตบอลอาชีพให้กับ ทีมโอสถสภา ตั้งแต่ปี 2531 เป็นต้นมา และเล่นเพียงสโมสรเดียวจนแขวนสตั๊ด ก่อนจะผันตัวมาเป็นทีมงาน และผู้ช่วยผู้ฝึกสอนให้กับทีมโอสถสภา เป็นเวลา 17 ปี”
“ส่วนผลงานระดับชาติ นอกจากจะเป็นผู้ช่วยและทีมงานของทัพ “ช้างศึก” มาอย่างยาวนาน เราเชื่อว่าคนทั้งประเทศได้เห็นแล้วว่า วันนี้ “โค้ชโต่ย” สามารถสร้างผลงานให้กับทีมชาติไทยได้ดีแค่ไหนในฟุตบอลรายการเอเชียนคัพ ที่ผ่านมา เมื่อช่วยให้ทีมชาติไทยกลับมามีพลังฮึดสู้ จนสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเข้ารอบน็อคเอาท์ได้สำเร็จในรอบ 47 ปี นำรอยยิ้มสู้แฟนบอลชาวไทยได้สำเร็จ”
“การเข้าเรียนในหลักสูตร AFC “Pro” License สำหรับการเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลในยุคใหม่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ และ M-150 ที่อยู่เคียงข้าง โค้ชโต่ย มานาน ก็พร้อมที่จะสนับสนุนด้วยการมอบทุนในการศึกษาจนจบหลักสูตร AFC “Pro” License เพื่อเป็นกำลังใจในการต่อยอดสู่การเป็นโค้ชระดับสูงของคุณ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ต่อไป”
ขณะที่ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอน ทีมชาติไทยชุดใหญ่ กล่าวว่า “การเป็นผู้ฝึกสอน ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าการเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมชาติไทย การได้รับเกียรตินี้จากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ถือเป็นความภูมิใจอย่างที่สุด”
“ผมขอขอบคุณทาง M-150 และ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) อย่างสูงที่ให้การสนับสุนผมมาโดยตลอดกว่า 30 ปี ที่ผ่านมา ตั้งแต่สมัยที่ผมเป็นนักฟุตบอล จนกระทั่งได้รับโอกาสทำงานเป็นผู้ฝึกสอนที่สโมสรโอสถสภา”
“วันนี้ผมขอขอบคุณจากหัวใจ ที่ผมได้รับเกียรติจากทั้ง 2 ท่านนี้อีกครั้ง ผมขอสัญญาว่าจะนำโอกาสที่ได้รับนี้ไปต่อยอดเพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเองและนำมาช่วยทีมชาติไทยให้ได้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ขอบคุณครับ”
ทั้งนี้หลักสูตรอบรม โปร ไลเซนส์ ต่อยอดจากการอบรมหลักสูตร เอ ไลเซนส์ โดยผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรนี้สามารถทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนในระดับนานาชาติ อาทิ ฟุตบอลโลก หรือ ฟุตบอลชิงแชมป์ระดับทวีป, ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคของสโมสรและทีมชาติ โดยจะใช้เวลาในการอบรม แบ่งเป็น 4 ช่วง
ช่วงแรก ใช้เวลา 27 วัน อบรมสองหัวข้อใหญ่ คือ
1. ฟิตเนส
2. การฝึกซ้อมในภาคสนามและทฤษฎี
ช่วงที่สอง ใช้เวลา 23 วัน เก็บเกี่ยวข้อมูลฟุตบอลในประเทศที่ประสบความสำเร็จ เพื่อเก็บเกี่ยวข้อมูลฟุตบอลจากประเทศที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จในกีฬาฟุตบอล ทั้งจากสโมสรและทีมชาติ
ช่วงที่สาม เป็นช่วงระยะเวลาทำงานในรอบ 1 ปี หลังผ่าน 2 ช่วงแรก โดยจะมีการทำรายงานการทำหน้าที่ตลอด 1 ปี ในช่วงเวลาดังกล่าว
ช่วงที่สี่ ใช้เวลา 30 วัน จะเป็นช่วงเก็บข้อมูลทั้งหมด เพื่อมานำเสนอและทำข้อสอบ
โดยทั้งสี่ช่วงมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 500,000 บาท