ด้วย สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับมอบสิทธิจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน ๒๓ ปี ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ ๘-๒๖ มกราคม ๒๕๖๓
เพื่อให้การจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน ๒๓ ปี เป็นไปด้วยความเรียบร้อยสำเร็จตามวัตถุประสงค์ จึงมีคำสั่งแต่งตั้งบุคคลต่อไปนี้เป็น คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน ๒๓ ปี เพื่อประสานติดตามเตรียมการและดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการดังกล่าวข้างต้น
๑. นายธนศักดิ์ สุระประเสริฐ เป็น ประธานกรรมการ
๒. นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล เป็น กรรมการ
๓. นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เป็น กรรมการ
๔. นายไพฤทธิ์ ต้านไพรี เป็น กรรมการ
๕. นายวรงค์ ทิวทัศน์ เป็น กรรมการ
๖. นายธนพงศ์ จูสนิท เป็น กรรมการและเลขานุการ
ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ดังนี้
๑. ดำเนินการ ติดตาม ควบคุม ดูแลการเตรียมการและดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน ๒๓ ปี ให้เสร็จสิ้นทันกำหนดการและการแข่งขันสำเร็จตามวัตถุประสงค์
๒. รายงานความคืบหน้าให้นายกสมาคมทราบ ต่อไป
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒
พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง
นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ทั้งนี้ สำหรับสนามที่ฝ่ายจัดการแข่งขันสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) เดินทางมาตรวจความพร้อมเพื่อพิจารณาใช้ในการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน ๒๓ ปี รอบสุดท้าย ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ นั้นมีทั้งหมด ๗ สนาม ประกอบด้วย สนามราชมังคลากีฬาสถาน, สนามสมโภช ๗๐๐ ปี เชียงใหม่, สนามเมืองทอง สเตเดียม (เอสซีจี สเตเดียม), สนามเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา จังหวัดนครราชสีมา, สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, สนาม บีจี สเตเดียม (ลีโอ สเตเดียม) และสนามติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา โดยจะคัดเลือกเหลือ ๔ สนาม
ขอขอบคุณ : Fair