วันที่ 14 มกราคม 2560 เวลา 10.00 น. ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดหลักสูตรอบรมผู้ตัดสินทุกระดับชั้น ทั่วประเทศ จำนวน 511 คน เกี่ยวกับกฎกติกาใหม่ที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ประกาศใช้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการลงปฏิบัติหน้าที่ในเกมฟุตบอลลีก 2017 ที่จะเริ่มเปิดฤดูกาลในวันที่ 11 กุมภาพันธ์นี้
ภายในงาน ประกอบไปด้วย พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยเป็นประธานในพิธีเปิด ร่วมกับ พล.ต.ท สมคิด บุญถนอม ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสิน เข้าร่วมพร้อมด้วยวิทยากรที่ผ่านการอบรมหลักสูตรผู้ฝึกสอนผู้ตัดสินฟุตบอล FUTORO ของฟีฟ่า อาทิ ผศ.ดร.ภิรมย อั๋นประเสริฐ, นางสาวพัณณิภา คํานึง, ผศ.ชลัช ภิรมย, นายไชยวัฒน กัน, ผศ.พงศธร เพิ่มพานิช, นายณัฏฐ ศรีเสาวลักษณ, นายอดุลยชาติ ขันธมะ, พ.จ.อ.ปรีชา กางรัมย, นายสุเมธ สายแวว, นายประเสริฐ ครุฑศรี, จ.ส.อ.ณัฐนัย แพงสุภา, นายอรรถกร เวชการ, นายพลกฤษณ นิตยชาต ทำหน้าที่ให้ความรู้ในการอบรม ตั้งแต่วันที่ 14-15 มกราคม 2560
หลังพิธีเปิด พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า “วันนี้เป็นการเปิดการฝึกอบรมกรรมการผู้ตัดสินซึ่งจัดโดย ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสินและคณะกรรมการผู้ตัดสินจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ การฝึกอบรมครั้งนี้เป็นการฝึกอบรมคณะกรรมการผู้ตัดสินในทุกระดับ เป็นการให้ความรู้ในเรื่องการทำหน้าที่กรรมการผู้ตัดสิน ตลอดจนเรื่องกติกาใหม่ๆที่ฟีฟ่าได้ออกมาสำหรับการแข่งขันฤดูกาล 2560 ซึ่งเชื่อว่าการฝึกอบรมครั้งนี้เป็นเรื่องที่ดี จะต้องมีการทำให้ผู้ตัดสินที่จะทำหน้าที่ในฤดูกาลใหม่มีความเข้าใจในการทำหน้าที่ กติกาใหม่ๆที่เกิดขึ้น ต้องขอบคุณ พล.ต.ท. สมคิด บุญถนอม ตลอดจนคณะกรรมการผู้ตัดสินของสมาคมฯ ที่จัดให้มีการอบรมครั้งนี้”
“ผมเชื่อว่าความรู้ที่ได้จากการฝึกอบรมในครั้งนี้ ผู้ตัดสิน 500 กว่าคนจากทั่วประเทศจะได้รู้เข้าใจ บทบาทการทำหน้าที่การเป็นผู้ตัดสินที่ดีต้องมีคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งเป็นนโยบายของสมาคมฯ และได้ชี้แจงให้ผู้ตัดสินรับทราบว่า การพัฒนากีฬาฟุตบอลไทย หรือการสานฝันให้ทีมชาติไทยไปฟุตบอลโลกตามความฝันของแฟนบอลชาวไทย ไม่ใช่เฉพาะนักกีฬาหรือนักเตะ, โค้ช ผู้ตัดสินก็เป็นเฟืองหนึ่งของเครื่องจักรที่ต้องผลักดันทำให้ความฝันของคนไทยเป็นจริงได้”
“ผมในฐานะนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ให้ความสำคัญกับผู้ตัดสินอยู่ในระดับต้นๆ ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักในการแข่งขัน เพราะในสนามแข่งขันไม่ใช่เฉพาะนักกีฬาเท่านั้น ยังมีผู้ตัดสิน ผู้ช่วยผู้ตัดสิน ผู้ตัดสินเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญ มีอำนาจสูงสุด เป็นผู้ชี้ขาด ถ้าผู้ตัดสินไม่เข้าใจกฏกติกา ไม่มีคุณธรรม จริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริต เกมการแข่งขันก็จะออกมาไม่ถูกใจ ไม่ถูกต้อง”
“ที่สำคัญสิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจหรือบอกกับแฟนบอล ท่านต้องเข้าใจและดูบอลให้เป็น ต้องรู้ว่ากติกามีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ถ้าท่านดูบอลไม่เป็นแล้วไม่เข้าใจกติกาที่ถูกต้อง คนที่ตกเป็นจำเลยก็คือผู้ตัดสิน เพราะฉะนั้นจะต้องเข้าใจกฏกติกาเช่นกัน ผมมีนโยบายที่จะเชิญผู้ที่มีความรู้ของฟีฟ่ามาชี้แจงกับสื่อมวลชนและแฟนบอล ถึงกติกาที่เปลี่ยนไป ซึ่งสมาคมฯจะมีการจัดการสัมมนาในรูปแบบปรีซีซั่นก่อนการแข่งขัน เราจะบอกกล่าวสื่อมวลชนและแฟนบอล ว่ากติกามีเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง ถ้าการตัดสินออกมาท่านไม่เข้าใจ ท่านอาจจะคิดว่าเป็นความผิดพลาดของกรรมการ และผู้ตัดสินก็ต้องตกเป็นจำเลย ผมเชื่อว่าการอบรมครั้งนี้เป็นการสร้างบุคลากรทางกีฬาอีกระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย”
สำหรับ การอบรมครั้งนี้ มีผู้ตัดสินเข้าร่วมการอบรม แบ่งตามระดับชั้น ดังนี้ ผู้ตัดสิน ระดับ FIFA จำนวน 20 คน, ผู้ตัดสิน ระดับ ชั้น 1 จำนวน 120 คน , ผู้ตัดสิน ระดับ ชั้น 2 จำนวน 56 คน, ผู้ตัดสิน ระดับ ชั้น 3 จำนวน 315 คน รวมทั้งสิ้น 511 คน
ขอบคุณข้อมูลจาก : fathailand