ส.บอลสั่งปรับ เชียงใหม่,หนองบัวพิชญหกพัน พร้อมลงโทษทีม T3,T4 เช็คผลการประชุมคณะพิจารณาวินัยมารยาท ครั้งที่ 32/2560
เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2560 เวลา 15.00 น. คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปภัมภ์ จัดการประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท ครั้งที่ 32/2560 ณ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ศูนย์กีฬาหัวหมาก กรุงเทพมหานครฯ โดยมี พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน เป็นประธานในที่ประชุม โดยมีเรื่องพิจารณา ดังนี้
1. การแข่งขันรายการเอ็ม-150 แชมป์เปี้ยนชิพ (ไทยลีก 2)
วันที่ 2 กันยายน 2560
สโมสรเชียงใหม่ เอฟซี กับ สโมสรนครปฐม ยูไนเต็ด
เหตุการณ์
ไม่มีธงประจำรายการแข่งขันเพื่อนำนักกีฬาเดินลงสนาม
ผลพิจารณาโทษ
คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาทฯ จึงมีมติเอกฉันท์ เห็นว่า สโมสรเชียงใหม่ เอฟซี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.7 ครั้งแรกปรับเงิน 6,666 บาท
2. การแข่งขันรายการเอ็ม-150 แชมป์เปี้ยนชิพ (ไทยลีก 2)
วันที่ 3 กันยายน 2560
สโมสรพีทีที ระยอง กับ สโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี
เหตุการณ์
หลังจาก รปภ. สนามรายงานเหตุการณ์ทั่วไปปกติ มีแม่บ้านที่ทำความสะอาดห้องพักทีมเยือน ปรากฏว่ามีประตูห้องน้ำพังเสียหายจำนวน 1 ห้อง
ผลพิจารณาโทษ
คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาทฯ จึงอาศัยความตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษ วินัย มารยาท บทที่ 2 หัวข้อที่ 4 “บททั่วไป” ประกอบกับระเบียบ AFC Disciplinary Code ARTICLE 53 Damage to property(ข้อย่อย 53.1 – 53.3) ได้กำหนดว่า หากความเสียหายของทรัพย์สินเกิดขึ้นในห้องแต่งตัว และไม่สามารถระบุว่าเป็นการกระทำของบุคคลหนึ่งบุคคลใดในทีมที่ได้ใช้ห้องแต่งตัวนั้นโดยเฉพาะ สโมสรที่นักกีฬาเหล่านั้นสังกัดจะต้องรับผิดแทน ( Where the individual cannot be identified, his affiliated Member Association or Club shall be held liable.) จึงมีมติเอกฉันท์ ลงโทษปรับ สโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี เป็นเงิน 6,666 บาท (เทียบเคียงอัตราโทษตามข้อ 1.5) และชดใช้ค่าเสียหายตามราคาประเมินให้ผู้เสียหาย
3. การแข่งขันรายการยูโร่ เค้ก โปร (ไทยลีก 3)
วันที่ 2 กันยายน 2560
สโมสรแกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด กับ สโมสร เอ็มโอเอฟ ศุลกากร ยูไนเต็ด
เหตุการณ์
รถพยาบาลคันที่ 2 มาถึงสนามแข่งขันไม่เป็นไปตามเวลาที่กำหนดไว้ในระเบียบฯ โดยมาถึงเวลา 16.27 น. ซึ่งการแข่งขันจะเริ่มในเวลา 16.30 น.
ผลพิจารณาโทษ
คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาทฯ ได้พิจารณาจากรายงานของผู้ควบคุมการแข่งขัน จึงมีมติเอกฉันท์ ลงโทษ สโมสรแกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.12 ครั้งแรก ปรับเงิน 6,666 บาท
4. การแข่งขันรายการยูโร่ เค้ก โปร (ไทยลีก 3)
วันที่ 27 สิงหาคม 2560
สโมสร อยุธยา เอฟซี กับ สโมสร อยุธยา ยูไนเต็ด
เหตุการณ์
หลังจบการแข่งขัน หลังจากผู้ตัดสิน เข้าห้องพักเรียบร้อยแล้ว ได้มีกองเชียร์ทีมเยือน อยุธยา ยูไนเต็ด ประมาณ 20 คน ได้ลงมาที่ลู่วิ่งหน้า ที่ขอบสนามหน้าอัฒจันทร์เชียร์ จะมาหานักฟุตบอล ตัวเอง และโวยวายผู้ตัดสิน แต่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยได้พูดคุยทำความเข้าใจ และควบคุมสถานการณ์ได้เรียบร้อย จากนั้น นักฟุตบอลก็ได้มาร้องเพลง ประจำทีม ขอบคุณ กองเชียร์ จบ ก็แยกย้ายกันกลับ โดยไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น
ผลพิจารณาโทษ
คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาทฯ ได้พิจารณาจากรายงานของผู้ควบคุมการแข่งขัน พร้อมกับสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ควบคุมการแข่งขัน และภาพเหตุการณ์ จึงมีมติเอกฉันท์ ลงโทษ สโมสร อยุธยา ยูไนเต็ด ตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.2 ปรับเงิน 6,666 บาท
5. การแข่งขันรายการยูโร่ เค้ก โปร (ไทยลีก 3)
วันที่ 2 กันยายน 2560
สโมสรสระแก้ว เอฟซี กับ สโมสรแพร่ ยูไนเต็ด
เหตุการณ์
หลังจบการแข่งขัน ในขณะที่ผู้ตัดสินกำลังเดินออกจากสนาม นายสมเกียรติ ฟองเพชร หัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรแพร่ ยูไนเต็ด ไม่พอใจคำตัดสิน เดินเข้าไปต่อว่าผู้ตัดสินที่กลางสนามด้วยถ้อยคำหยาบคาย ต่อมาได้มีผู้เล่นหมายเลข 87 Mr. HANKUK LEE สโมสรแพร่ ยูไนเต็ด ได้ใช้ขวดน้ำขว้างใส่ผู้ตัดสิน แต่ไม่โดน นอกจากนี้ หลังจากหมดเวลาการแข่งขันผู้ตัดสินกลับห้องพักแล้ว ได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนระหว่างเจ้าหน้าที่ของทั้งสองทีมเนื่องจากสโมสรแพร่ ยูไนเต็ด ไม่ยอมรับผลการแข่งขัน และระหว่างนั้น ผู้รักษาประตูหมายเลข 34 นายวัฒนชัย สระทองจันทร์ สโมสรแพร่ ยูไนเต็ด ได้ปาขวดน้ำอัดพื้นในเขตเทคนิคของทีมตนเอง เพื่อระบายอารมณ์ ทำให้เจ้าหน้าที่ทีมสระแก้ว เอฟซี ไม่พอใจจึงได้เดินเข้าไปต่อว่า เกิดเหตุการณ์ชุลมุนของเจ้าหน้าที่ทั้งสองทีม มีการชี้หน้าตอบโต้กัน และในจังหวะนั้น นายพรศักดิ์ วิสุทธิวุฒิพงศ์ เจ้าหน้าที่ที่คุมเครื่องเสียงของทีมสระแก้ว เอฟซี กับ นายชัยทัช วันมหาใจ เจ้าหน้าที่ทีมแพร่ยูไนเต็ด ซึ่งทั้งคู่ไม่มี AD CARD ได้ชกต่อยกันประมาณ 10 วินาที จนเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้เข้าห้ามปรามแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน ต่างฝ่ายจึงได้เดินกลับห้องพัก เหตุการณ์จึงสงบ หลังจากนั้นผู้รักษาประตูของทีมแพร่ยูไนเต็ด ได้เดินมาไหว้ขอโทษผู้ใหญ่ในทีมสระแก้วเอฟซี
ผลพิจารณาโทษ
1. ผู้เล่นหมายเลข 87 Mr.HANKUK LEE สโมสรแพร่ ยูไนเต็ด ลงโทษตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.9 ห้ามลงแข่งขันครั้งต่อไป 1 นัด และปรับเงิน 3,333 บาท
2. ผู้รักษาประตูหมายเลข 34 นายวัฒนชัย สระทองจันทร์ สโมสรแพร่ ยูไนเต็ด ลงโทษตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.11 ห้ามลงแข่งขันครั้งต่อไป 1 นัด และปรับเงิน 3,333 บาท
3. นายสมเกียรติ ฟองเพชร หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมแพร่ยูไนเต็ด ลงโทษตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 2.6 ห้ามทำหน้าที่ 2 นัด และ ปรับเงิน 13,333 บาท
4. ลงโทษนายชัยทัช วันมหาใจ เจ้าหน้าที่สโมสร แพร่ ยูไนเต็ด ลงโทษตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 2.9 (1) ห้ามทำหน้าที่ 3 เดือน และปรับเงิน 13,333 บาท
5. ลงโทษนายพรศักดิ์ วิสุทธิวุฒิพงศ์ เจ้าหน้าที่สโมสร สระแก้ว เอฟซี ลงโทษตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 2.9 (1) ห้ามทำหน้าที่ 3 เดือน และปรับเงิน 13,333 บาท
6. การแข่งขันรายการยูโร่ เค้ก ลีก (ไทยลีก 4)
วันที่ 2 กันยายน 2560
สโมสร มาแชร์ ชัยภูมิ เอฟซี กับ สโมสร ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด
เหตุการณ์
ในนาทีที่ 63 ของการแข่งขัน สโมสรศรีสะเกษ ยูไนเต็ด เสียจุดโทษ ทำให้ผู้เล่นไม่พอใจคำตัดสินของผู้ตัดสิน ได้ออกมายืนอยู่ที่เส้นข้างสนามด้านใน จึงทำให้การแข่งขันหยุดไปประมาณ 4 นาที แล้วกลับมาแข่งขันต่อจนจบการแข่งขัน และหลังจากผู้ตัดสินเป่าจบการแข่งขันระหว่างทางเดินกลับจากสนามเข้าสู่ห้องพักผู้ตัดสินได้มีผู้เล่นหมายเลข 13 นายสุริยัญ เคนคำ ได้ใช้วาจาหยาบคายด่าทอผู้ตัดสิน
ผลพิจารณาโทษ
1. ลงโทษ นักกีฬาฟุตบอลหมายเลข 13 นายสุริยัญ เคนคำ สโมสร ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด ตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.9 ห้ามลงแข่งขันครั้งต่อไป 1 นัด และปรับเงิน 3,333 บาท
2. ลงโทษ สโมสร ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด ตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 3.8 ปรับเงิน 10,000 บาท
7. การแข่งขันรายการยูโร่ เค้ก ลีก (ไทยลีก 4)
วันที่ 12 สิงหาคม 2560
สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บี กับ สโมสร มุกดาหาร ไชยยืนยง เอฟซี
เหตุการณ์
สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บี ส่งผู้เล่นผิดคุณสมบัติคุณสมบัติลงทำการแข่งขัน ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการ “ไทยลีก 1” B พ.ศ. 2560 ข้อ 7.7 ส่งผู้เล่นอายุไม่เกิน 21 ปีลงทำการแข่งขันไม่ครบสองคนตามที่กำหนดในนัดการแข่งขันดังกล่าว
ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษ สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการ “ไทยลีก 1” ภาคผนวกที่ 3 : กฎเพิ่มเติมสำหรับการส่งทีม “ไทยลีก 1” B ข้อ 7.7 ประกอบกับระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 3.12 ให้ปรับสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บี แพ้ สโมสร มุกดาหาร ไชยยืนยง เอฟซี 0 ประตูต่อ 2
ข้อมูล : Thai League
ภาพ : Official Chiangmai Football Club