เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ กลายเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก คนหนึ่ง ณ ปัจจุบัน หลังสร้างสถิติการพังประตูมากมาย กับ ดอร์ทมุนด์ และทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่เนื้อหอม มากที่สุด ณ ตอนนี้
หนึ่งในนักเตะที่ถูกจับตามองเรื่องอนาคตมากที่สุด ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้น เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ หลังจากที่ทำผลงานได้อย่างร้อนแรง ภายใต้ ยูนิฟอร์มของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จากการทำประตูอย่างต่อเนื่อง
และจากผลงานดังกล่าว บวกด้วยเงื่อนไขการย้ายทีม ที่สามารถย้ายออกจาก ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัว 68 ล้านปอนด์ ในช่วงหลังจบฤดูกาลนี้ ทำให้ มีหลายสโมสร ที่พร้อมจะจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวเพื่อคว้าตัวไปร่วมทีม
เราจะมาเปิดเผยโอกาส ว่าสถานีต่อไปของ ฮาแลนด์ คือที่ไหน และใครมีโอกาสมากที่สุด
1. บาร์เซโลนา
หนึ่งในสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก แต่ในตอนนี้ ด้วยการแพร่ระบาดของโควิด ส่งผลกระทบต่อการเงินของทีมเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามด้วยชื่อเสียงของสโมสร รวมถึงประวัติศาสตร์ ทำให้นี่เป็นหนึ่งในสโมสรที่ถูกเชื่อมโยงอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งล่าสุดมีรายงานว่า มิโน ไรโอล่า ได้ไปพบกับ โจน ลาปอร์ต้า ทำให้ดูมีโอกาสมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาวะการเงิน และสภาพของขุมกำลังที่ยังไม่แน่นอนว่า ชาบี เอร์นานเดซ จะสามารถพาทีมไปตรงไหนได้ในช่วงหลังจบฤดูกาลนี้ ทำให้โอกาสที่จะได้ตัว ฮาแลนด์ ไปร่วมทีมนั้น เป็นเรื่องที่ยากมาก และคาดว่านี่น่าจะไม่ใช่ สถานี ต่อไปของ ฮาแลนด์
โอกาส – 0.000001 %
2. เรอัล มาดริด
นี่คืออีกหนึ่งสโมสรที่มีข่าวลือกับ ฮาแลนด์ มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการที่ ฟลอเรนติโน เปเรซ ต้องการที่จะสร้างกาลาคติกอส ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เพื่อยกระดับ ทีมให้ล่าแชมป์ทั้งในลาลีกา รวมถึง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทำให้ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีข่าวลือกับนักเตะระดับนี้
อย่างไรก็ตาม ดูท่าว่า เรอัล มาดริด ตอนนี้น่าจะโฟกัสไปที่ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่จะสามารถย้ายออกจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง ได้แบบไร้ค่าตัวหลังจบฤดูกาล ทำให้โอกาสที่จะเกิดขึ้นดูมีอยู่ แต่ก็ไม่มากไม่มายเช่นกัน และบางทีมันเราอาจจะได้เห็นคู่ประสาน ในฝัน อย่าง คิลิยัน เอ็มบัปเป้ และ เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ ก็เป็นได้
โอกาส – 30%
3. บาเยิร์น มิวนิค
เป็นเรื่องธรรมดาที่ ฮาแลนด์ จะโดนโยงกับบาเยิร์น เพราะที่ผ่านมา ดอร์ทมุนด์ มักจะเสียตัวหลักให้กับคู่ปรับร่วมลีกอยู่บ่อยครั้ง ไล่ตั้งแต่ มาริโอ เกิทเซ่, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ รวมถึง แมตส์ ฮุมเมลส์ เป็นต้น และถ้าจะเอา ฮาแลนด์ อีกคน ทำไมมันถึงจะเกิดขึ้นไมได้ ยิ่งตอนนี้ดาวยิงตัวเก่งของพวกเขา อย่างโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ก็อายุมากขึ้นเรื่อยๆ
มันน่าสนใจตรงที่ว่า บาเยิร์นจะยอมตัดใจ ปล่อยเลวานดอฟสกี้ ไหม ในเมื่อเขายังทำผลงานได้ดีอยู่ และในสถานการณ์โควิด เอง บาเยิร์น เองก็มีสถานะการเงินที่ไม่ได้อู่ฟู่ มากมาย ยิ่งฮาแลนด์มีเอเยนต์อย่างไรโอล่า เชื่อว่าการย้ายทีมครั้งนี้พวกเขาจำเป็นต้องโกยค่าเหนื่อยให้ได้มากที่สุด ทำให้มันเป็นเรื่องยาก
โอกาส – 10%
4. แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แล้วถือเป็นอีกทีมเงินถุงเงินถัง หลังเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา พวกเขาก็เพิ่งถลุงไป 100 ล้านปอนด์ เพื่อคว้า แจ็ค กรีลิช มาจาก แอสตัน วิลล่า และด้วยสถานการณ์ของทีมที่กำลังมองหากองหน้าตัวเป้า หลังจากที่เสีย เซร์คิโอ อเกวโร่ ไป ทำให้ฮาแลนด์ อาจจะเป็นเบอร์ 9 คนใหม่ของทีม
อย่างไรก็ตามดูเหมือนเป็ป กวาร์ดิโอลา จะต้องการคนอื่นมากกว่า ไม่ว่าจะเป็น แฮร์รี เคน ที่เคยมีข่าว ลืออาจจะเป็น ดูซาน วลาโฮวิช ของฟิออเรนตินา แต่เชื่อว่าในลิสต์กองหน้าของแมนซิตี้ ต้องมีชื่อของฮาแลนด์ อย่างแน่นอน กอปร กับการที่พ่อของเขา อย่าง อัล์ฟ อิงเก้ ฮาแลนด์ เคยเป็นสมาชิกของ “เรือใบสีฟ้า” ในยุคมิลเลนเนียม มันก็ถือว่าน่าสนใจ
โอกาส – 40%
5. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีข่าวกับ ฮาแลนด์ มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สมัยเจ้าตัวอยู่กับ โมลด์, เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก และตั้งแต่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา คุมทีมก็มีข่าวลือออกมาตลอด ด้วยความที่ทั้งคู่เคยร่วมงานกันมาแล้ว และไม่แปลกที่จะโดนเชื่อมโยงถึงกันเสมอ
แต่อุปสรรคใหญ่คือความระหองระแหงกันระหว่าง “ปีศาจแดง” กับเอเยนต์อย่าง มิโน ไรโอล่า โดยเฉพาะเรื่องของปอล ป็อกบา ที่ยังไม่ยอมต่อสัญญากับทีม เชือว่าหากเป็นในสมัย โชเซ่ มูรินโญ มั่นใจได้เลยว่า แมนยู จะได้ตัว ฮาแลนด์ มาร่วมทีม หลัง “กุนซือชาวโปรตุกีส” มักจะซื้อนักเตะในความดูแลของ ไรโอล่า มาเสมอ ไล่ตั้งแต่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, ปอล ป็อกบา รวมถึง เฮนริค มคิตาร์ยาน แต่มันก็ยังพอมีโอกาสอยู่บ้างเหมือนกัน เพียงแต่มันก็ไมได้ชัวร์แบบ 100 เปอร์เซนต์ เพราะตำแหน่งหลักที่แมนยู ควรแก้ตอนนี้คือมิดฟิลด์ตัวรับ
โอกาส – 30%
6. เชลซี
นี่คือหนึ่งในมหาเศรษฐี ของพรีเมียร์ลีก และก็เคยมีข่าวกับ ฮาแลนด์ มาแล้วเมื่อช่วงซัมเมอร์ ก่อนที่สุดท้ายพวกเขาจะไปเลือกจิ้ม โรเมลู ลูกากู มาจากอินเตอร์ มิลาน
แต่สุดท้าย ลูกากู ตอนนี้ก็ถือว่ายังไม่ถึงสิ่งที่โรมัน อบราโมวิช คิดเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะเรื่องสถิติการพังประตูที่ดูจะดร็อปจากตอนเล่นให้อินเตอร์ พอสมควร รวมถึงอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นอีก และมีโอกาสที่ เศรษฐีจากรัสเซีย อาจจะยอมควักเงินอีกครั้ง เพื่อคว้าตัวไปร่วมทีม
โอกาส – 60%
7. ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล เองก็เป็นอีกทีมที่โดนเชื่อมโยงมาอย่างต่อเนื่อง เพราะบรรดากองหน้าของพวกเขาต่างก็อายุใกล้แตะหลักสามแล้ว ไม่ว่าจะเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน หรือ ซาดิโอ มาเน่ และการเอาฮาแลนด์มาร่วมทีมก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
อย่างไรก็ดี ด้วยการที่กลุ่มทุน แฟนเวย์บริหารแบบอเมริกัน ทำให้มันมีการจำกัดเพดานค่าเหนื่อย ดูอย่างเคสของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ เรื่องสัญญาใหม่ ที่ยังคาราคาซังมาจนถึงทุกวันนี้ และสไตล์การซื้อของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ไม่ค่อยซื้อซูเปอร์สตาร์เท่าไหร่ และเลือกเน้นคนที่มีแวว อย่าง ซาลาห์, มาเน่, ฟาน ไดจ์ หรือ อลิสซอน ที่เล่นในทีมเกรดบี ผลงานไมได้โดดเด่น จนมาโดดเด่น ที่แอนฟิลด์ ทำให้ การย้ายมาของฮาแลนด์ ดูเป็นเรื่องที่ยากมาก
โอกาส – 2%
8. นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
เศรษฐีใหม่จากซาอุดิอาระเบีย ก็เป็นอีกทีมที่ให้ความสนใจในตัวของฮาแลนด์ และคาดว่าหากมีโอกาสพวกเขาก็พร้อมเปย์เงินแบบไม่อั้นเพื่อคว้าตัวนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ มาร่วมทีม
แต่ปัญหาใหญ่คือตอนนี้พวกเขายังมีโอกาสตกชั้นไปเล่นแชมเปี้ยนชิพ รวมถึงยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาสร้างทีมอีกกี่ปี ถึงจะก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์ หรือไปยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โอกาสในปีหน้าคงแทบจะปิดตัวลง เพราะมีเงินมากแค่ไหน แต่เกียรติยศก็สำคัญ
โอกาส – 0.01%
9. ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง
เศรษฐีจากกาตาร์ ที่ถือว่ามีความสัมพันธ์ดีกับ มิโน ไรโอล่า หลังได้ดึงตัว จิอันลุยจิ ดอนนารุมมา มาร่วมงานเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ก็เป็นอีกหนึ่งทีมที่สนใจ เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ โดยเฉพาะตอนนี้พวกเขามีโอกาสสูงมากที่จะเสีย คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ไป
เพราะฉะนั้น เงินมีพร้อม ความกระหายความสำเร็จมีพร้อม เพียงแค่เปลี่ยนตัวดาวรุ่งตลอดกาลจากเอ็มบัปเป้ มาเป็นฮาแลนด์ เพื่อล่าแชมป์ยุโรป สมัยแรก มันก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้สูง แต่ลีกเอิง มันเพียงพอหรือไม่สำหรับฮาแลนด์นั่นคือคำถาม
โอกาส – 60%
10. โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
อีกหนึ่งโอกาสคือการที่ฮาแลนด์ จะอยู่กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ต่อไป แน่นอนว่าทางเบื้องบนของทีมก็ต้องการให้เขาอยู่กับทีมต่อไปอย่างชัดเจน และพยายามขัดขวางทุกวิถีทางการเจรจา แม้มิโน ไรโอล่า จะเสนอนักเตะให้ทีมอื่นมากมาย
ปัญหาหลักคือสถานการณ์ของทีมตอนนี้คือชัดเจนว่าพวกเขาไม่พร้อมที่จะล่าความสำเร็จ ชัดเจนจากการตกรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และการเสียสตาร์อย่างต่อเนื่อง และนักเตะอย่างฮาแลนด์ นั้นต้องการที่จะประสบความสำเร็จอย่างมาก การไม่เสริมทัพ เสริมแต่ดาวรุ่งรอวันโตแล้วขาย อาจจะทำให้ ฮาแลนด์ เชื่อว่าในวัย 22 ปี ของเขามันพร้อมแล้วที่จะเริ่มโกยเงินมากขึ้น รวมถึงความสำเร็จมากขึ้น
โอกาส – 30%
ความเป็นไปได้หลายทาง ของฮาแลนด์ เชื่อว่า ตลาดซื้อขายนักเตะในช่วงซัมเมอร์หน้าคงจะมีออกมาไม่เว้นวัน และเรามาจับตารอดูกันว่าสุดท้ายแล้ว จะไปจบลงที่ตรงไหน