สมาคม บอลไทย จัดประชุมหารือร่วมกับสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียเพื่อหารือการป้องกันการล้มบอลในทวีปเอเชีย รวมถึงประเทศไทย
วันที่ 13 มีนาคม 2560 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม War Elephant สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดการประชุมหารือร่วมกับตัวแทนฝ่ายกฎหมายของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายและการป้องกันการล้มบอลในทวีปเอเชีย รวมถึงประเทศไทย และหารือเกี่ยวกับเรื่องการยกเลิกสัญญานักเตะและโค้ชต่างชาติอย่างไม่เป็นธรรม
โดยภายหลังจากการประชุม นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ และ โฆษกสมาคมฯ ได้กล่าวว่า “คนที่เขามาคือหัวหน้าฝ่ายกฎหมายของเอเอฟซี ซึ่งเขาเคยเป็นเจ้าหน้าที่ด้านกฎหมายของฟีฟ่ามาก่อน เขาต้องการเข้ามาอัพเดทในเรื่องการแก้ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายและการป้องกันเรื่องเกี่ยวกับการล้มบอลต่างๆ ในทวีปเอเชีย ว่าเขาดำเนินการเป็นอย่างไรบ้าง เขาอยากให้ประเทศไทยมีเจ้าหน้าที่การดูแลเรื่องนี้เป็นหลัก เพื่อส่งข้อมูล และให้คำปรึกษา ซึ่งเราก็พร้อมที่จะแต่งตั้งเจ้าหน้าที่การเฝ้าระวังข้อมูลเหล่านี้ เพื่อทำงานร่วมกับฟีฟ่าและเอเอฟซี”
“เราเชิญเขามาเนื่องจากประเทศไทยมีกรณีเคสเกี่ยวกับการยกเลิกสัญญานักเตะและโค้ชค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะต่างชาติ ซึ่งมันจะเกี่ยวข้องกับฟีฟ่าทันที ถ้าเกิดเป็นคนไทยสามารถไปฟ้องศาลได้ แต่เป็นนักเตะต่างชาติหรือโค้ชต่างชาติ เขาจะตรงไปถึงฟีฟ่าได้ ซึ่งสมาคมก็เป็นเหมือนคนกลางที่ต้องรับเรื่องตลอดเวลา ซึ่งบางสโมสรก็ค้างเยอะ และมีคำตัดสินจากฟีฟ่า เราจึงต้องมาตั้งคำถามว่าทำอย่างไรให้สโมสรเหล่านี้ได้เข้าใจและรับรู้ถึงโทษ และปัญหาการยกเลิกสัญญาที่ไม่เป็นธรรม คือเราต้องฟังทั้ง 2 ฝ่าย แต่ถ้าฟีฟ่าตัดสินมาแล้ว มันมีขั้นตอนที่ต้องดำเนินการ เราจะต้องแจ้งให้สโมสรทราบ เราจึงอยากจะปรึกษาเขาว่ามันมีโทษอย่างไรบ้าง ซึ่งสโมสรเหล่านั้นจะได้ทราบว่าเคสมันจบที่ฟีฟ่ามันมีถึงขั้นปรับเงิน การปรับแต้ม รวมไปถึงโทษการห้ามซื้อขายนักเตะและให้สมาคมฯ ลงโทษถึงขั้นไม่ให้ลงแข่งขันก็มี มีจากระดับเบาถึงหนัก”
“เคสต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต เราอยากได้ข้อมูล เราไม่ได้มีเอกสารมากมายที่หลงเหลืออยู่ เราก็เลยขอทำเรื่องไปถึงฟีฟ่าให้เขาส่งข้อมูลในเคสต่างๆ มาให้เราให้หมด เราจะได้มีข้อมูลครบว่า ยังมีสโมสรไหนยังถูกฟ้องโดยนักเตะอยู่บ้าง และเคสไหนที่เกี่ยวกับสมาคมฟุตบอลฯ อยู่บ้าง เราจะได้ติดตามแก้ไข และดำเนินเรื่องต่อไป”
ข่าว : FA Thailand
Photo : สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย