กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล ที่มีออกมาทุกอาทิตย์ของฟุตบอลไทยลีก ที่แม้จะเริ่มมาแค่ 3 เกม แต่อุณหภูมิ ก็เดือดทะลุปรอท ที่ไม่ใช่แค่ในสนาม แต่ลามไปยันห้อง ผู้ตัดสิน วีเออาร์
ฟุตบอลไทยลีก คู่ระหว่าง ชลบุรี เอฟซี กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จบลงไปอย่างสุดมัน ที่เป็นทีมเยือนที่คว้าชัย แต่โฟกัสแทนที่จะอยู่ในสนาม ทุกสายตากลับพุ่งเป้าไปที่ห้อง วีเออาร์ กับการแสดงออกของ ผู้ตัดสิน
ไล่เรียงตามใบรายชื่อเกมนี้ ฝ่ายผู้ตัดสินได้จัดกระบี่มือหนึ่งอย่าง ศิวกร ภูอุดม เปาระดับฟีฟ่า อีลิต มาทำหน้าที่ พร้อมมี วิศเวศ สังข์นคร และ ภัทรพงศ์ กิจสถิตย์ ทำหน้าที่ในห้องวีเออาร์
เมื่อเกมจบลงไป เหมือนกับไม่มีดราม่า แต่แล้วก็มีภาพจากกล้องถ่ายทอดสดที่แสดงให้เห็นว่า ผู้ตัดสิน วีเออาร์ แสดงความดีใจอย่างมาก จากจังหวะที่ ให้ชลบุรี ได้จุดโทษ เป็นประตูจุดความหวัง และยังไล่ศศลักษณ์ ไหประโคน ด้วยการให้ใบแดง
– ไล่เรียงตามกฏ
หากใครได้ฟังคลิป จะเห็นได้ชัดว่า ศิวกร ได้อธิบายให้นักเตะบุรีรัมย์ ฟังอย่างเข้าใจอย่างถี่ถ้วนว่าทำไมถึงเป็นจุดโทษ และทำไม ศสลักษณ์ ต้องโดนใบแดง
อธิบายง่ายๆ คือจังหวะนี้มีการปะทะกันเกิดขึ้น ในเขตโทษ และไม่ได้สัมผัสลูกฟุตบอล จึงเป็นจุดโทษอย่างแน่นอน
ซึ่งในตอนแรก ศศลักษณ์ได้รับแค่ใบเหลืองแต่วีเออาร์ ได้แสดงคำแนะนำว่าลูกนี้ สามารถให้ใบแดงได้ และได้เรียกศิวกร ให้มาดูภาพช้า ก่อนที่ ผู้ตัดสินระดับ อีลิต ตัดสินใจกลับคำตัดสิน จากใบเหลืองเป็นใบแดง พร้อมอธิบานว่า ในจังหวะที่ ศสลักษณ์ ทำฟาวล์ การขัดขาที่เกิดการปะทะกันนั้น ไม่ได้เป็นการพยายามยื่นขาเพื่อไปสกัดบอล และยังทำลายจังหวะคู่ต่อสู้เพื่อยิงประตูอย่างชัดเจน และด้วยน้ำหนักจากเหตุผลดังกล่าวก็เพียงพอ จะให้เป็นใบแดง แม้จังหวะนั้น ผู้เล่นฝ่ายรับจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม
– การแสดงความดีใจของ ผู้ตัดสิน
แน่นอนว่า การตัดสินการอธิบายของ เปาโค้ชได้จบลงไปแล้ว แต่ภาพที่ติดใจคือการแสดงความดีใจของผู้ตัดสินในห้องวีเออาร์ ที่แสดงความดีใจ และในตอนแรก ในช่วงเวลาที่ไม่มีเสียงบอก ทุกคนต่างคีความว่า พวกเขาแสดงความดีใจที่ได้ให้จุดโทษ แก่ชลบุรี และแจกใบแดงกับนักเตะบุรีรัมย์
แน่นอนว่าเมื่อภาพออกมา มันถูกตีความมากมาย กรรมการเป็นแฟนบอลชลบุรี หรือเปล่า กรรมการไม่ชอบบุรีรัมย์ ใช่ไหม
แต่สุดท้าย ก็มีการเทคแอคชั่นอย่างรวดเร็วจากฝ่ายผู้ตัดสิน ที่นำเสียงที่ผู้ตัดสินคุยกัน และแสดงให้เห็นว่า กรรมการนั้นเพียงแค่ดีใจ ว่าได้ช่วยกันทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสนามเกิดความถูกต้องเท่านั้น มันก็เอวังด้วยประการ ฉะนี้ แล
และแน่นอนว่าหากอ่านแค่ในแถลงการณ์ อาจจะมองว่าแถ ที่บอกว่า แค่เพิ่มความมั่นใจ แต่หากได้ดูเหตุการณ์ทั้งหมด จะรู้ว่ากรรมการดีใจที่ทำให้เกมมันออกมาถูกต้อง เท่านั้น
– ความกดดันของการเป็นกรรมการ
นักฟุตบอลก็กดดันที่ต้องพาทีมชนะ โค้ชก็กดดันที่ต้องพาทีมชนะ ผู้ตัดสินเองก็กดดันไม่ต่างกันที่จะช่วยส่งเสริมให้เกมออกมามีคุณภาพ และตัดสินได้อย่างถูกต้อง
ทำไมเป็นผู้ตัดสินถึงต้องกดดันที่จะพยายามตัดสินให้ถูกต้อง และทำให้เกมมีคุณภาพ เพราะหากผิดพลาดเล็กน้อย อาจจะส่งผลต่อเกม และอาจจะส่งผลต่ออะไรมากมาย ซึงหลายคนอาจจะไม่รู้
เพราะสำหรับผู้ตัดสินเอง การทำหน้าที่ทุกอย่างจะมีผู้ประเมินผู้ตัดสิน ที่จะคอยให้คะแนน หากคะแนนน้อยก็อาจจะโดนลงโทษห้ามทำหน้าที่ หรืออาจจะโดนตัดสิทธิ์การไปทำหน้าฟุตบอลระดับนานาชาติ
และมันก็นำมาซึ่งอนาคตการทำหน้าที่ของพวกเขา หากโดนพักสักอาทิตย์ เงินค่าตัดสินก็อาจจะหาย ค่าตัดสินต่อเกมอาจจะประมาณ 4-5 หลัก ซึ่งมันกระทบต่อตัวเขาโดยตรง และแน่นอนว่าใครเองก็อยากจะทำให้มันออกมาดีที่สุด เพือให้เขาได้ทำหน้าที่ต่อ
และแน่นอนผู้ตัดสินเองก็ต้องพยายามช่วยเหลือกัน เหมือนกับทีมฟุตบอลทีมหนึ่ง โดยมีผู้ตัดสินตรงกลางสนามเป็นกัปตันทีม ทุกคนก็ต้องพยายามคอยช่วยเหลือกัน ยิ่ง ณ ปัจจุบัน ผู้ตัดสินถูกวิจารณ์ทุกครั้งเกี่ยวกับการทำหน้าที่ในทุกแมตช์
และย้อนมาที่การกระทำ แน่นอนว่าเมื่อมีความกดดัน ทุกคนก็อยากปลดปล่อย มันก็เหมือน กองหน้าที่ยิงประตูได้ ก็ต้องแสดงความดีใจ ชกลม หรืออะไรก็ว่าไป เพื่อเป็นการคลายความกดดัน หรือผู้รักษาประตูเซฟได้ หรือกองหลังสกัดได้ เพียงแต่เมื่อมันเป็นผู้ตัดสิน และมีภาพออกมา มันอาจจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ในสถานการณ์นี้
– นักเตะผิดพลาดได้ แต่ผู้ตัดสินไม่มีพื้นที่สำหรับความผิดพลาด
แน่นอน ว่านักเตะก่อความผิดพลาด ก็โดนดร็อป โดนอะไรก็ว่าไป กองหน้ายิงพลาด กองหลังสกัดพลาด ประตูเซฟพลาด แต่ผู้ตัดสิน ไม่สามารถพลาดได้เลย เพราะความผิดพลาดอันน้อยนิด อาจจะเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันที่เกิดขึ้นได้ และจะโดนตราหน้าเสมอว่าพยายามช่วย หรือพยายามโกง หรือล็อคผลการแข่งขัน
แน่นอนว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นแค่ที่ประเทศไทย แต่มันเกิดขึ้นในทุกประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นลีกชั้นนำหรือรายการระดับโลก อย่าง ฟุตบอลโลก หรือชิงแชมป์ทวีป นี่คือหน้าทีที่ต้องแบกรับความกดดันที่สูงมก
– ความเคารพซึ่งกันและกัน
มันอาจจะดูโลกสวยไปหน่อย แต่สุดท้ายในกีฬาความเคารพซึ่งกันและกันก็ถือเป็นเรืองสำคัญ การเป็นนักฟุตบอล หรืออะไรก็แล้วแต่นอกจากเคารพตัวเอง, เคารพฝ่ายตรงข้ามแล้ว อีกสิ่งที่สำคัญก็คือการเคารพผู้ตัดสิน ถ้ามีอะไรไม่พอใจ ก็ต้องพูดให้เคลียร์ ทำงานร่วมกัน ผู้ตัดสินก็เช่นกัน เมื่อตัดสินแล้ว บางครั้งอาจจะต้องอธิบาย ชี้แจงให้เข้าใจ อย่าตอบแต่ว่า ไม่รู้ ไม่รู้ ผมตัดสินแล้ว เพื่อแสดงความเคารพต่อตัวนักเตะ
มันคือสิ่งที่สำคัญ บทเรียนที่ได้จากวันนี้คือนอกจาก ผู้ตัดสินจะต้องพยายามแบกรับความกดดันออกไป แสดงอาการให้น้อยลง เพื่อป้องกันคนเข้าใจผิด ขณะเดียวกัน นักฟุตบอลก็ต้องเคารพและเข้าใจเพือให้ทั้งสองฝ่ายเติบโตกันไป