“สิงโตคำราม” อังกฤษ เตรียมปรับทัพเพื่อลองทีมหลายตำแหน่งไปเลย แต่พร้อมให้ แฮร์รี เคน ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้านัดต้อนรับ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ซึ่งพร้อมให้แข้งสายเลือดใหม่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงหลายคนในศึกฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ลีก เอ กลุ่ม 3 นัดสุดท้าย คืนวันที่ 26 ก.ย.นี้ โดยพร้อมดวลแข้งกันเพื่อศักดิ์ศรี เพราะไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นกันอีกแล้ว และเป็นการสั่งลาของทีมเจ้าบ้านที่เตรียมตกชั้นลงไปเล่นในลีก บี กันต่อไป
ความพร้อมของทีมสองทีม อังกฤษ VS เยอรมนี ในศึกฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ลีก
ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ลีก เอ กลุ่ม 3 นัดสุดท้าย
อังกฤษ VS เยอรมนี
สนาม : เวมบลีย์
เวลา : 01.45 น.
อังกฤษ
คาดว่ากุนซือ แกเรธ เซาธ์เกต จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่บุกไปแพ้ อิตาลี 0-1 ในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ลีก เอ กลุ่ม 3 โดยตอนนี้ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นอีกแล้ว เพราะเตรียมจบด้วยตำแหน่งบ๊วยอันดับ 4 หลังลงเตะไปแล้ว 5 นัดไม่พบกับชัยชนะ มีเพียงแค่ 2 คะแนนเท่านั้น จึงกระเด็นตกชั้นไปเล่นลีก บี ในช่วงฤดูกาลหน้าแล้วด้วย แม้จะประสบปัญหาฟอร์มฝืดอย่างรุนแรง เพราะยิงประตูจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ไม่ได้มาแล้วถึง 5 เกมติดต่อกัน แต่ยังคงพร้อมเล่นเพื่อศักดิ์ศรีในยามเผชิญหน้ากับทีมคู่ปรับตลอดกาลอย่างแน่นอน โดยพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1 ด้วยเช่นกัน และน่าจะได้เห็นนักเตะสายเลือดใหม่ลงสนามหลายคนเลยด้วย แนวรับพร้อมถอน เอริค ไดเออร์ ออกไปนั่งที่ข้างสนาม และน่าจะให้ คอนอร์ โคดี้ เป็นตัวเลือกแรกเหนือกว่า ฟิกาโย่ โทโมริ เพื่อให้ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ซึ่งพร้อมเป็นตัวหลักอยู่แล้ว แดนกลางเตรียมเปิดโอกาสให้ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ ได้ลงไปยืนคุมเกมคู่กับ ดีแคลน ไรซ์ ทำให้ จูด เบลลิงแฮม น่าจะหลุดไปนั่งเป็นตัวสำรองเพื่อจะได้พักนั่นเอง และน่าจะให้ เมสัน เมาท์ กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงในฐานะเพลย์เมกเกอร์ ซึ่งพร้อมทำหน้าที่เป็นตัวปั้นเกมอีกครั้ง แนวรุกเตรียมให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ขยับไปทำหน้าที่ตรงจุดนี้ได้เหมือนกัน ส่วนปีกซ้ายน่าจะใช้งาน บูกาโย่ ซาก้าขณะที่กองหน้าพร้อมให้ แฮร๋รี เคน สวมปลอกแขนกัปตันทีมเพื่อยืนค้ำในแดนหน้าต่อไป
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริง
อารอน แรมส์เดล, คีแรน ทริปเปียร์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, คอนอร์ โคดี้, ลุค ชอว์, เจมส์ วอร์ด-พราวส์, ดีแคลน ไรซ์, เมสัน เมาท์, บูกาโย่ ซาก้า, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, แฮร๋รี เคน
เยอรมนี
คาดว่ากุนซือ ฮันส์ ดีเตอร์ ฟลิค จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่แพ้ ฮังการี คาบ้าน 0-1 ในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ลีก เอ กลุ่ม 3 และเพิ่งพบกับความพ่ายแพ้เป็นนัดแรกด้วย นับตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามารับงานคุมทีมในช่วงหลังตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายยูโร 2020 เมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว โดยตอนนี้รั้งอันดับ 3 แข่ง 5 นัด มี 6 คะแนน แม้จะได้รับการการันตีว่าจะไม่ตกชั้นอย่างแน่นอน แต่หมดลุ้นผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว จึงพร้อมลงเล่นนัดสุดท้ายด้วยศักดิ์ศรี เพราะว่าได้เผชิญหน้ากับทีมคู่ปรับตลอดกาลนั่นเอง และน่าจะดร็อปพวกแข้งหลักบางตำแหน่ง เพื่อเปิดโอกาสให้พวกนักเตะสายเลือดใหม่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงหลายคนตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1 แนวรับน่าจะให้ มัทธีอัส กินเทอร์ ได้ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ แดนกลางพร้อมเปิดโอกาสให้มิดฟิลด์สายเลือดใหม่ได้ลงสนาม นั่นก็คือ มักซิมิเลียน อาร์โนลด์ ลงสนาม และคาดว่า อิลคาย กุนโดกาน น่าจะหลุดไปนั่งเป็นตัวสำรองเพื่อให้ได้พักบ้าง ส่วน โจชัว คิมมิช ยังคงพร้อมยืนคุมแดนกลางตั้งแต่นาทีแรกด้วยเช่นกัน แนวรุกไม่น่าจะได้เห็น โธมัส มุลเลอร์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เพราะว่าจะได้พักเพื่อเปิดทางให้ ยามาล มูเซียล่า ได้ลงเล่นตั้งแต่นาทีแรกบ้าง ส่วนปีกซ้ายน่าจะใช้งาน เลรอย ซาเน่ เหมือนเดิม ขณะที่ปีกขวาน่าจะดร็อป แซร์จ กนาบรี้ เพื่อขยับ ติโม แวร์เนอร์ ไปยืนประจำการตรงจุดนี้แทน และน่าจะให้ ไค ฮาเวิร์ตซ ได้สวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าไปเลยด้วย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริง
เควิน ทรัปป์, ธีโล เคห์เรอร์, มัทธีอัส กินเทอร์, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, โรบิน กูเซ่นส์, มักซิมิเลียน อาร์โนลด์, โจชัว คิมมิช, เลรอย ซาเน่, ยามาล มูเซียล่า, ติโม แวร์เนอร์, ไค ฮาเวิร์ตซ
ผลที่คาด : อังกฤษ เสมอ เยอรมนี 1-1