“สิงโตคำราม” อังกฤษ รอเช็กสภาพความฟิตของ ดีแคลน ไรซ์ และจะได้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กลับมาช่วยแนวรุกนัดดวลแข้งกับ “ตราไก่” ฝรั่งเศส นำทัพโดย คีลิยัน เอ็มบัปเป้ นำโด่งเป็นดาวซัลโวในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย คืนวันที่ 10 ธ.ค.นี้
ความพร้อมของ อังกฤษ VS ฝรั่งเศส ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย
อังกฤษ VS ฝรั่งเศส
สนาม : อัล เบย์ท สเตเดี้ยม
เวลา : 02.00 น.
อังกฤษ
คาดว่ากุนซือ แกเรธ เซาธ์เกต จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่ชนะ เซเนกัล 3-0 ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เพื่อลุ้นเก็บชัยผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศให้ได้เหมือนอย่างเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และจะได้ต่อยอดไปสู่การลุ้นคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 2 หลังจากที่คว้าแชมป์โลกมาได้แล้วหนึ่งสมัยในปี 1966 โน้นเลย จึงพร้อทให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเกือบทั้งหมด แนวรับยังคงให้ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ พร้อมลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ จอห์น สโตนส์ แดนกลางรอเช็กสภาพความฟิตของ ดีแคลน ไรซ์ แต่คาดว่าน่าจะได้ลงสนามเป็นตัวจริงเพื่อยืนคุมเกมร่วมกับ จูด เบลลิงแฮม และพร้อมให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ซึ่งโชว์ฟอร์มเด่นจากรอบที่แล้วให้ลงเล่นเป็นตัวจริงต่อไป แนวรุกได้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กลับมาช่วยทีมอีกครั้ง หลังขอบินกลับบ้านเกิดไปดูแลครอบครัวจากเหตุการณ์บ้านโดนปล้น แต่น่าจะต้องนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน เพราะน่าจะให้ ฟิล โฟเด้น ลงไปสวมบทเป็นปีกขวา โดยจะยืนอยู่คนละฝั่งกับ บูกาโย่ ซาก้า ในตำแหน่งปีกซ้าย ส่วนกองหน้าตัวเป้าพร้อมให้ แฮร์รี่ เคน ลงไปยืนประจำการเหมือนนัดก่อน
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
จอร์แดน พิคฟอร์ด, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, จอห์น สโตนส์, ลุค ชอว์, ไคล์ วอล์กเกอร์, จูด เบลลิงแฮม, ดีแคลน ไรซ์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, บูกาโย่ ซาก้า, ฟิล โฟเด้น, แฮร์รี่ เคน
ฝรั่งเศส
คาดว่ากุนซือ ดิดิเยร์ เดสชองส์ จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่ชนะ โปแลนด์ 3-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เพื่อลุ้นเก็บชัยผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปลุ้นป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน โดยพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งหมด เพราะไม่มีนักเตะได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม แนวรับพร้อมให้ ราฟาเอล วาราน ยืนเป็นกองหลังคู่กับ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ แดนกลางเตรียมให้ ออเรเลียง ชูอาเมนี่ ยืนคุมเกมร่วมกับ อาเดรียง ราบิโอต์ เพราะเป็น 2 ตัวเลือกแรกในแผงมิดฟิลด์อยู่แล้ว แนวรุกพร้อมจัดทัพใหญ่ลงสนามอย่างแน่นอน โดยเตรียมให้ อองตวน กรีซมันน์ สวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกม และวาง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ลงไปสวมบทเป็นปีกซ้าย ซึ่งตอนนี้นำเป็นดาวซัลโวด้วยจำนวน 5 ประตูอยู่ด้วย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ อุสมาน เดมเบเล่ ในตำแหน่งปีกขวา ส่วนกองหน้าตัวเป้าพร้อมให้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ลงเล่นเป็นตัวจริงเหมือนเดิม
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
อูโก้ ยอริส, ฌูลส์ กุนเด้, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, ราฟาเอล วาราน, เตโอ แอร์กน็องเดซ, อาเดรียง ราบิโอต์, ออเรเลียง ชูอาเมนี่, คีลิยัน เอ็มบัปเป้, อุสมาน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
ผลที่คาด : อังกฤษ แพ้ ฝรั่งเศส 1-2