“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมปรับทัพบางตำแหน่ง โดยแนวรุกน่าจะได้เห็น แอนโทนี่ ลงไปช่วยเกมริมเส้นเพื่อประสานงานกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยืนล่าตาข่ายเกม “แดงเดือด” นัดบุกไปเยือน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล พร้อมให้ ดาร์วิน นูนเญซ สวมบทเป็นกองหน้าในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันที่ 5 มี.ค.นี้
ความพร้อมของทั้งสองทีม ลิเวอร์พูล VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกพรีเมียร์ลีก
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม : แอนฟิลด์
เวลา : 23.30 น.
ลิเวอร์พูล
คาดว่ากุนซือ เจอร์เกน คลอปป์ จะปรับทัพบางตำแหน่งจากเกมล่าสุดที่เปิดบ้านชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก เพื่อลุ้นเก็บชัยทำอันดับขยับขึ้นไปอยู่บนหัวตารางคะแนน โดยในช่วงก่อนเกมอยู่อันดับ 6 แข่ง 24 นัด มี 39 คะแนน แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่หลายคน แต่ว่าเป็นพวกหน้าเดิมๆ ที่ต้องพักรักษาโรคเดี้ยงอยู่แล้ว และได้พวกแข้งดังทะยอยกันหายเจ็บกลับมาช่วยทีมได้หลายรายเลย จึงพร้อมจัดทีมชุดที่ดีที่สุดลงสนามได้เหมือนกัน แนวรับพร้อมให้ โจเอล มาทิป ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ แดนกลางไม่มี ติอาโก้ อัลคานทาร่า ยังต้องพักรักษาโรคเดี้ยงต่อไป จึงน่าจะให้ ฮาร์วีย์ เอลเลียต ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ ฟาบินโญ่ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แนวรุกน่าจะได้ ดาร์วิน นูนเญซ ประสานงานกับ โคดี้ กัคโป และ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ แต่ ดิโอโก้ โจต้า มีโอกาสสอดแรกเพื่อลงสนามเป็นตัวจริงได้เหมือนกัน ทำให้ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เตรียมนั่งเป็นตัวสแตนบายอยู่ที่ข้างสนามไปก่อน
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
อลิสซอน เบ็คเกอร์, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, โจเอล มาทิป, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฮาร์วีย์ เอลเลียต, โคดี้ กัคโป, ดาร์วิน นูนเญซ, โมฮาเหม็ด ซาล่าห์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
คาดว่ากุนซือ เอริค เทน ฮาก จะปรับทัพบางตำแหน่งจากเกมล่าสุดที่เปิดบ้านยิงแซงชนะ เวสต์แฮม 3-1 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 5 เพื่อลุ้นเก็บชัยเกาะกลุ่มบนหัวตารางคะแนนต่อไป โดยตอนนี้ยังคงรั้งอันดับ 3 แข่ง 24 นัด มี 49 คะแนน และไล่ตามหลัง 2 ทีมนำอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 2 และ อาร์เซนอล ทีมจ่าฝูงไม่ห่างกันมากจนเกินไป แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดทีมลงสนามอย่างแน่นอน เพราะใช้งานพวกแข้งหลักได้เกือบทั้งหมดเลย แนวรับเตรียมได้เห็น ราฟาเอล วาราน กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ลงไปยืนคู่กัน เพราะเป็น 2 กองหลังตัวหลักอยู่แล้ว แดนกลางหมดสิทธิ์ใช้งาน คริสเตียน อีริคเซ่น รวมถึง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค เหมือนเดิม เพราะยังคงต้องพักรักษาโรคเดี้ยงต่อไป ทำให้ เฟรด เตรียมลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ คาเซมิโร่ แนวรุกให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด กลับมาสวมบทเป็นปีกซ้ายอย่างแน่นอน เพราะผลงานได้อย่างโดดเด่นจากการยิงประตูแบบต่อเนื่องเลย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ แอนโทนี่ ในตำแหน่งปีกขวา เพราะว่าน่าจะได้รับความไว้วางใจให้ลงเล่นเป็นตัวจริงในตำแหน่งนี้เหนือกว่า จาดอน ซานโซ่ นั่นเอง ส่วนในรายของ บรูโน่ แฟร์นันเดส เตรียมสวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกมอยู่ด้านหลังของ เวาท์ เวกฮอร์สท พร้อมยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนเดิม
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
ดาบิด เด เคอา, ราฟาเอล วาราน, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ลุค ชอว์, ดิโอโก้ ดาโลต์, เฟรด, คาเซมิโร่, แอนโทนี่, บรูโน่ แฟร์นันเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด, เวาท์ เวกฮอร์ทส
ผลที่คาด : ลิเวอร์พูล แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2
