ลิเวอร์พูลนั้นเคยมีกองกลางชั้นเลิศผ่านมาโชว์ผลงานอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสตีเฟ่น เจอราร์ด,ชาบี อลอนโซ่,เจมส์ มิลเนอร์ และดีทมาร์ ฮาร์มันน์ แต่ทว่ารายนี้ชื่อที่กล่าวก็ล้วนแล้วแต่เป็นนักเตะที่แจ้งเกิดในช่วงดาวรุ่ง หรือไม่ก็อายุการใช้งานยังอยู่ในเกณฑ์แทบทั้งนั้น แตกต่างจากนักเตะที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้กับ แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์
ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2000/01 ลิเวอร์พูลภายใต้การคุมทีมของ เชราร์ อุลลิเย่ร์ นั้นมีกองกลางชั้นดีมากมาย อาทิ เจที่ เรดแนปป์,แดนนี่ เมอร์ฟี่,ดีทมาร์ ฮาร์มันน์ และสตีเฟ่น เจอราร์ด แต่ถึงอย่างนั้นอุลลิเย่ร์ก็ยังทะลึ่งไปเซ็นฟรีเอาแกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์มิดฟิลด์ที่ถูกโคเวนทรี่ลอยแพด้วยวัย 36 ปีเข้ามาร่วมทีมอย่างหน้าตาเฉย ซึ่งบอกเลยว่าดีลนี้ชาวเดอะค็อปป์ออกแนวงงว่าทีมรักของตนคิดอะไรอยู่
เมื่อเริ่มฤดูกาลไปแล้วมิดฟิลด์วัยดึกก็ค่อยถูกส่งลงปล่อยของให้แฟนบอลได้เห็นทีละเล็กละน้อย โดยแกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์มักจะถูกส่งลงสนามในฐานะตัวสำรอง และถึงแม้จะไม่ได้มีกำลังวังชามากมายเหมือนนักเตะวัยรุ่น แต่เค้าก็ทดแทนด้วยประสบการณ์และมันสมองในการอ่านเกม จนทำให้หลายครั้งที่เปลี่ยนตัวแม็คอัลลิสเตอร์ลงไปแล้วทีมได้ผลการแข่งขันที่ต้องการอย่างน่าประทับใจ
แต่เหตุการณ์สร้างชื่อของแกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์ก็ได้บังเกิดขึ้นในวันที่ 16 เมษายน 2001 เมื่อเค้าถูกส่งลงสนามเป็นตัวจริงในเกมเมอร์ซี่ไซด์ดาร์บี้กับเอฟเวอร์ตัน ซึ่งหงส์แดงยิงนำไปถึงสองครั้งแต่ก็โดนทีมเจ้าบ้านอย่างเอฟเวอร์ตันตามตีเสมอได้ถึงสองครา กระทั่งเกมดำเนินถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ลิเวอร์พูลได้ลูกตั้งเตะที่กลางสนามระยะ 40 หลา แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์ยืนอยู่ที่บอลหลายคนคงคิดว่านักเตะวัย 37 ปีที่เล่นมาแล้วแบบเต็มเกมคงจะเปิดบอลโด่งเข้าไปให้นักเตะลิเวอร์พูลได้ลุ้นเป็นเฮือกสุดท้าย แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อแม็คอัลลิสเตอร์เหลือเห็นผู้รักษาประตูเอฟเวอร์ตันยืนห่างเสาแรก เค้าจึงตัดสินยิงลักไก่เสียบมุมเสาแรกเข้าไปเป็นประตูชัยให้หงส์แดงชนะได้แบบสะใจ 3-2 เรียกได้ว่าประตูนั้นทำให้ชาวเดอะค็อปหมดคำถามกับแม็คอัลลิสเตอร์ไปโดยทันที
โดยแกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์รับใช้หงส์แดงสองปีลงเล่นไป 55 นัดยิง 5 ประตู คว้าแชมป์เอฟเอคัพ,ลีกคัพ.แชร์ริตี้ชิลล์,ยูฟ่าคัพ และยูฟ่าซุปเปอร์คัพได้อย่างละสมัยก่อนย้ายกลับเป็นผู้เล่นและผู้จัดการทีมให้กับโคเวนทรี่ในปี 2002 และแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการในปี 2004 ด้วยวัย 39 ปี
